ข้อมูลการใช้บีเอส พลายแก้ว จากอดีต

ราแป้งกินผักบุ้งระยะเปลี่ยนฤดูกาล    
ช่วงเปลี่ยนจากหน้าฝนเป็นหน้าหนาว อุณหภูมิของอากาศเย็นลง มีหมอกเกิดขึ้นตอนเช้าๆ ส่วนมากหย่อมความกดอากาศสูงที่ไม่ต่อเนื่องทำให้หนาวแล้วกลับมาร้อน ครั้นลมหนาวมาอีกอุณหภูมิ แต่ตอนเช้า ๆ ยังคงมีหมอกมีความชื้นมาก พืชที่อ่อนแอโดยสาเหตุต่างๆ จะเกิดโรคเชื้อราได้ง่าย เช่น ข้าวเป็นโรคใบไหม้ โรคเน่าคอรวง โรคเมล็ดด่าง หอมจะเป็นโรคหมานอน โรคใบจุดสีม่วง พริกเป็นโรคผลเน่า หรือกุ้งแห้ง หรือแอนแทร็คโนส และผักหลายชนิดเป็นโรคราแป้ง ซึ่งรวมถึงผักบุ้งด้วย    
โรคเกิดจากเชื้อราเข้าทำลายทั้งบนในและใต้ใบ สร้างสปอร์สีขาวแบบผงแป้ง แรกเริ่มเป็นจุดต่อมาลามออกเป็นวงกว้างขึ้น เนื้อใบส่วนที่ถูกเชื้อราเข้าทำลายจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้ขายไม่ได้ เชื้อราจะลุกลามออกเป็นวงกว้างขึ้น เนื้อใบส่วนที่ถูกเชื้อราเข้าทำลายจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้ขายไม่ได้ เชื้อราจะลุกลามออกไปทั่วแปลง การใช้ยาเคมีปราบ จะมีปัญหาสารพิษตกค้างในผักไปถึงคนกินผักได้ อีก ประการหนึ่งยาเคมีนั้นเป็นกรดอ่อน หากมิได้ปรับน้ำที่ใช้ผสมยาซึ่งมักเป็นด่างมากกว่าหรือมีความ มีอัลคาไลในน้ำ พอใส่ยาเคมีลงในน้ำ ยาก็สลายตัวหรือเสื่อมลงทำให้กำจัดเชื้อราไม่ได้    
การแก้ปัญหาแบบไม่ใช้สารพิษสามารถทำได้โดยหมักขยายเชื้อ บาซิลลัสพลายแก้ว 1 ช้อนชา กับน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ผล นาน 24-48 ชม. นำมาผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นให้เปียกทั่ว โดยทำตอนเย็น ทำ 2 ครั้ง จะตัดวงจรเชื้อโรค หลังจากนั้นทำซ้ำทุก 5-7 วัน/ครั้ง จะควบคุมราที่ใบของผักบุ้งได้ใน ระยะที่มีปัญหารุนแรงใช้แร่ม้อนท์หรือภูไมท์ซัลเฟต 1 ถุง โรยหว่านกระจายบนผิดดิน รดน้ำให้เปียกซึมลงดิน ผักบุ้งจุแข็งแรงขึ้น การเกิดโรคจะน้อยลงจนไม่เกิดปัญหาอีก    
ที่มา : อ.ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ นสพ.เดลินิวส์ ฉบับที่ 21,197 วันเสาร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550 หน้า 12.