ถ้าอยากจะเร่งผล ให้ได้ผลผลิตมาก ต้องใช้ปุ๋ยสูตรไหนคับ

มือใหม่หัดทำคับผม

ไม่ทราบว่าเป็นพืชผักหรือไม้ผลครับ
เอาโดยรวมและเข้าใจง่ายๆละกันนะครับ
หาปู่ยสูตรที่มี ตัวกลางและตัวท้ายสูงๆครับ จะช่วยสะสมอาหารและเปิดตาดอกครับ
ที่มีในตลาดทั่วๆไปเช่น
8-24-24 , 9-24-24 , 5-15-25 หรือ 13-13-21
ลองดูนะครับ
www.jawkaikaset.com จ้าวไก่เกษตร

ถูกต้องตามกระทู้ของคุณจ้าวไก่นะครับ แต่จะขอเพิ่มเติมให้นิดหน่อยคือ

การกระตุ้นดอก ควรเน้นเป็นปุ๋ยหรือฮอร์โมนทางใบมากกว่าทางดิน เนื่องจากดินจะมีการจับยึด ฟอสเฟตมากกว่าตัวอื่น

ทางใบจะให้ผลได้เร็วกว่า และขอแนะนำว่าควรกระตุ้นเป็นช่วงๆ อย่าถี่นักเพราะต้นจะโทรมไวมาก

ทางดินที่ผมใช้จะยังคงเป็นสูตรเสมอคือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 เพราะปริมาณดอกที่มาก มักจะให้ผลที่เล็กลง

การให้สูตรเสมอจะช่วยให้ขนาดผลยังคงใหญ่ และน้ำหนักดี

การใช้ 8-24-24 หรือ 9-24-24 ทางดิน ต้องใช้แต่น้อยนะครับ ระวังหน่อย เพราะมันเน้นการสะสมอาหารจริงๆ ยอดมันจะไม่เดิน

มือใหม่หัดทำคับผม

ขอแนะนำ โอทูฟลาโวเจนครับ คุณสมบัติมีดังนี้

*กระตุ้นการสร้างโปรตีน เร่งแป้ง เพิ่มน้ำหนัก
*กระตุ้นการแบ่งเซลล์ ทำให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
*กระตุ้นการยืดตัวและขยายตัวของเซลล์
*เสริมสร้างผนังเซลล์ (เก็บกักน้ำไว้ใช้เวลาแล้ง ป้องกันแมลง)
*กระตุ้นการดูดปุ๋ย (N P K)

ฟลาโวเจนใช้ได้กับพืชทุกชนิด จะช่วยให้พืชมีระบบโครงสร้างลำต้น ใบ ราก ที่แข็งแรง เนื่องจากการขยายเซลล์ในส่วนต่าง ๆ ของพืชมีผลทำให้ระบบรากแข็งแรง และพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารจากดิน น้ำ และปุ๋ยได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ย่นระยะเวลาเก็บเกี่ยว เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต
สนใจติดต่อได้ที่ http://otwo.igetweb.com

มือใหม่หัดทำคับผม

GREENZ UP ช่วยได้คะ

กรีนส์ อัพ..เป็นสารสกัดอินทรีย์ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชสูตรเข้มข้นพิเศษ
เพิ่มผลผลิต, เสริมสร้างและกระตุ้นระบบใบและดอก, เร่งการเจริญเติบโต, ลดการใช้ปุ๋ย

กรีนส์ อัพ สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด..ทั้งต้นกล้าพืช ไม้ดอก ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้สวน กล้วยไม้ พืชสวนครัว ผักปลอดสารพิษ และอื่นๆ

- กรีนส์ อัพ จะช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นทั้งระบบราก ใบและดอกให้สมบูรณ์ เมื่อเซลล์ของผนังพืชแข็งแรง จะทำให้การสะสมอาหารเพื่อการออกดอกติดผลดี ทำให้ติดดอกมาก ขั้วดอกเหนียว ติดลูกมาก ลูกดก ลูกใหญ่ ป้องกันผลร่วงและผลแตกง่ายด้วยคะ

- ช่วยยึดจับปุ๋ยและธาตุอาหารที่ฉีดพ่นทางใบ และเพิ่มประสิทธิภาพให้พืชตอบสนองกับปุ๋ยได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกษตกรสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยลงอย่างเห็นได้ชัด

- ป้องกันและช่วยทำให้โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และแบคทีเรียลดลง(แต่ถ้าระบาดหนักๆ ก็ไม่ได้ทำให้หมดไปนะคะ เพราไม่ใช่ยา เพียงแค่ช่วยได้ในเบื้องต้น)

- ช่วยให้พืชแข็งแรง
1. ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
2. ทนทานต่อโรคและแมลงต่างๆ

- อีกทั้งยังไม่มีสารพิษตกค้างในดิน ไม่ทำให้ดินเสียด้วยคะ

ได้รับการพิสูจน์จริงแล้วกับพืชไร่ และพืชสวนหลายชนิดทั้ง พืชผักสวนครัว มะนาว มะละกอ ทุเรียน ลำใย เงาะ มังคุด มันสำปะหลัง และยางพารา ในเนื้อที่รวมถึง 700 ไร่แล้วคะ

สนใจโทร 086-902-2390 ติดต่อ คุณภัทธีรา

หรืออ่านรายละเอียดจาก link ข้างล่างได้เลยคะ
http://www.nanagarden.com/greenz-up-127286-4.html

โอทู ฟลาโวเจน
รายละเอียด
เป็นธาตุอาหารอินทรีย์สำหรับพืช ที่ได้โดยกรรมวิธีการสกัดจากพืช 15 ชนิด ได้สารฟลาโวนอยด์
(Flavonoids Active) ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Biaoactive Compounds of Argriculture) ช่วยกระตุ้นเซลล์พืช
ผ่านระบบโครงสร้างพืช ได้แก่ ราก ต้น ใบ ดอก ผล ทำให้พืชแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี โอทูฟลาโวเจน
ไม่มีสารเจือปน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภค ใช้ได้ดีกับพืชทุกชนิด ทำให้ผลดก ขั้วเหนียว
เพิ่มผลผลิตได้อีกมากกว่า 30-200% ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ถึง 20-50%

วิธีการทำงานของโอทูฟลาโวเจน
*กระตุ้นการสร้างโปรตีน เร่งแป้ง เพิ่มน้ำหนัก
*กระตุ้นการแบ่งเซลล์ ทำให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
*กระตุ้นการยืดตัวและขยายตัวของเซลล์
*เสริมสร้างผนังเซลล์ (เก็บกักน้ำไว้ใช้เวลาแล้ง ป้องกันแมลง) ทำให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรค
*กระตุ้นการดูดปุ๋ย (N P K) เจริญเติบโต รวดเร็ว
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คุณเกรียง โทร. 089-562-5052
http://igetweb.com/www/otwo/gallery/655864.jpg

มือใหม่หัดทำคับผม
มันจะทำให้ได้กำไรมากขึ้นแต่ต้นทุนต่ำลง http://aiewty.ran4u.com/viewProduct.do?clubId=2453&shopCategoryId=14640&productId=3

มือใหม่หัดทำคับผม
มันจะทำให้ได้กำไรมากขึ้นแต่ต้นทุนต่ำลง http://aiewty.ran4u.com

เข้าไปดูข้อมูลเทคนิคการปลูก ดูแลพืช ฟรี ได้ที่นี่ครับ

http://www.phkaset.com

http://www.phkaset.com/cfcadmin/images/mContent_Image22102553104417.jpg

http://www.phkaset.com/cfcadmin/images/mContent_Image1732553110909.jpg

http://www.phkaset.com/cfcadmin/images/mContent_Image412255384129.jpg

http://www.phkaset.com/cfcadmin/images/mContent_Image2332553172541.jpg

ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) ปุ๋ยคุณภาพ สำหรับคนรักต้นไม้...

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ

ผมมีปุ๋ยตัวนึงอยากแนะนำให้รู้จักครับมันชื่อว่า " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " นะครับ...

ผมสร้างกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อต้องการแนะนำผลิตภัณฑ์ อาหารพืช ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) ซึ่งมีทั้ง ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L) ให้ทุกคนที่สนใจได้รู้จักกันนะครับ...

คุณลักษณะผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L)

" อาหารพืช ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " เป็นสารอินทรีย์ชนิดเข้มข้นประเภทสาร อาหารพืช สกัดได้จากแหล่งธรรมชาติตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น สกัดจากส่วนต่าง ๆ ของต้นพืช วัตถุดิบในการผลิต สั่งนำเข้าจากต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบและยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ผลดีกับพืชทุกชนิด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างในผลผลิตและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม...

คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L)

1. ไม่ใช่สารชีวภาพประเภทจุลินทรีย์หมักหรือสกัดได้จากส่วนของกระดองปูหรือเปลือกกุ้ง
2. เป็นเนื้อสารเข้มข้นมีสารอาหารพืชต่างๆครบถ้วนตามที่พืชต้องการรวมอยู่เป็นเนื้อสารเดียวกัน
3. ช่วยลดต้นทุนการใช้สารอื่นๆมาใช้ผสมร่วมเกินความจำเป็น
4. ดูดซึมได้รวดเร็ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
5. สามารถผสมฉีดพ่นร่วมกับสารป้องกันกำจัดแมลงและสารกำจัดโรคได้ทุกประเภทโดยไม่เสื่อมฤทธิ์
6. ไม่จับตัวตกตะกอนแข็งและไม่จับก้อนเป็นวุ้นเมื่อผสมร่วมกับสารอื่นๆ
7. มีคุณประโยชน์ข้อดีกับต้นพืชมากกว่าเกิดโทษ
8. ใช้ได้กับทุกช่วงระยะการเจริญเติบโตของต้นพืช

ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L)

1. เพื่อฟื้นสภาพต้นให้สมบูรณ์ พืชไม่่โทรมง่ายเช่น หลังจากมีเพลี้ย,หนอนหรือโรคระบาดเข้าทำลาย
2. เพื่อทดแทนสารอาหาร ขณะที่พืชวิกฤติหาได้ไม่เพียงพอจากธรรมชาติ
3. เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ ให้กับทุกส่วนของต้นพืช เช่น ส่วนราก ยอด ดอกและผล
4. เพื่อให้ต้นพืชปรับสภาพทนทานและต้านทานต่อสภาพอากาศร้อนหรือหนาว
5. เพื่อช่วยสร้างผนังเซลล์พืชให้แข็งแรง สามารถช่วยต้านทานต่อโรคและแมลง

แนะนำเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L)? ตามช่วงระยะการเจริญเติบโตทั่วไป

1. เพื่อเสริมสร้างระบบราก ช่วยสร้างรากฝอยให้ดูดอาหารได้ดีขึ้น
2. เพื่อเร่งการงอกของเมล็ด โดยการแช่หรือราดเมล็ด
3. เพื่อช่วยสะสมอาหาร เพื่อเตรียมการออกดอก
4. เพื่อช่วยเร่งการเปิดตาดอกและช่วยผสมเกสร
5. เพื่อเร่งและบำรุงผล ช่วงเริ่มติดผลอ่อนให้ติดดก ลดผลร่วง
6. เพื่อเร่งคุณภาพของผลผลิต ขยายผลใหญ่ สร้างแป้ง สร้างเนื้อ สีเข้ม รสชาติดี และช่วยเพิ่มน้ำหนัก
7. เพื่อเป็นสารตั้งต้นทุกครั้ง เมื่อมีการฉีดพ่นสารเคมีเกษตรระยะต่าง ๆ

อัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L)

1. ขนาดบรรจุ 1,000 มิลลิลิตร./ขวด
2. ขนาดถังพ่นยา 20 ลิตร ตวงใช้ 20 - 30 มิลลิลิตร
3. ขนาดถังพ่นยา 200 ลิตร ตวงใช้ 200 - 300 มิลลิลิตร (หรือ 1,000 มิลลิลิตร ผสมน้ำได้ 1,000 ลิตร)
4. สามารถใช้ผสมร่วมกับสารป้องกันกำจัดโรคและแมลงได้ทุกชนิด

ไฮโกรเอส (Hygro-S) ขนาด 1,000 มิลลิลิตร ราคา 870 บาท

ไฮโกรเอส (Hygro-S) ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 450 บาท

ไฮโกรแอล (Hygro-L) ขนาด 1,000 มิลลิลิตร ราคา 870 บาท

ไฮโกรแอล (Hygro-L) ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 450 บาท

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ " ปุ๋ยไฮโกร (Hygro) " ไฮโกรเอส (Hygro-S) และ ไฮโกรแอล (Hygro-L) ได้ที่ : ผมชื่อสุรนาท 086-3559042 หรือ [email protected]

พริกหยวก หยกขาว 31 ของศรแดง
ปลูกพริก 4 ไร่ ปลูก 14,000 ต้น ได้เงินล้าน
ขั้นตอนการเพาะกล้า
1. ทำโรงเรือนไม้ไผ่ยกพื้นประมาณ 1 เมตร ด้านบนมุงด้วยพลาสติกใส
เพื่อไม่ให้เกิดโรคทางดิน รากของพริกเลี้อยลงดิน กันฝนและให้แสงสว่างทั่วถึง

2. ทำการหยอดเมล็ดพริกในถาดเพาะ ไว้ในโรงเรือน
ดินเพาะต้องปลอดเชื้อ เลือกซื้อที่ร้านเชื่อถือได้ จะให้ดีก็ใช้ดินมีเดีย ผสมกับขุยมะพร้าวในอัตราส่วนดิน 3 กระสอบ ขุยมะพร้าว 1 กระสอบ คลุกให้เข้ากัน โรยบนถาดเพาะรดน้ำให้ชุ่มฒใช้หัวแม่มือกดลงในหลุมของถาดเพาะเล็กน้อย วางเมล็ดพริกลงทุกหลุม แล้วใช้ดินโรยกลบหน้าถาดเพาะพอประมาณ นำไปวางบนโรงเรือนใช้แสลมดำคลุมถาดเพาะแล้วรดน้ำ พอเมล็ดพริกเริ่มงอกให้นำแสลมคลุมออก

3. รดน้ำทุกวันเฉพาะตอนเย็น
ควรผสม ทาริล 20 กรัม + ซีวิว 20 ซีซี + ไบโอซอย 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ตอนรดน้ำ 7 วันครั้ง และก่อนนำไปปลูก 3-5 วัน เพื่อป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าและให้ระบบรากพริกแข็งแรง ต้านทานโรค

ขั้นตอนการเตรียมดินและแปลงปลูก
1. ไถด้วยผาน 3 เปิดหน้าดิน ตากดินไว้ 7-15 วัน พรวนดินที่จะปลูกตากทิ้งไว้ 7- 15 วัน
2. ยกร่อง แปลงกว้างประมาณ 1 เมตร สูง 50 เซนติเมตร ร่องกว้าง 60 เซนติเมตร

3. รองพื้นด้วยปุ๋ยเคมี 15-15-15 ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยคอกต้องผ่านการหมักอย่างน้อย 1 ปี
4. คลุมแปลงด้วยพลาสติกคลุมแปลง เจาะหลุมปลูก ระยะห่าง 70 เซนติเมตร
5. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ กับ สตาร์เกิลจี
6. รดน้ำแล้วจึงทำการปลูก ควรปลูกตอนเย็น
การดูแลบำรุงรักษา
1. หลังปลูก 7 วันทำการเร่งปุ๋ย โดยใช้สูตร 25-7-7 1/2 กระสอบ + ซีวิว 100 ซีซี + ไบโอซอย 100 ซีซี + นีโอไมเนอร์ 100 ซีซี + นีโอไฟต์ 100 ซีซี ประมาณ 2 ครั้ง
2. ทำการเร่งปุ๋ย โดยใช้สูตร 15-15-15 1/2 กระสอบ + ซีวิว 100 ซีซี + ไบโอซอย 100 ซีซี + นีโอไมเนอร์ 100 ซีซี + นีโอไฟต์ 100 ซีซี ประมาณ 2 ครั้ง
3. ทำการเร่งปุ๋ย โดยใช้สูตร 13-13-21 1/2 กระสอบ + ซีวิว 100 ซีซี + ไบโอซอย 100 ซีซี + นีโอไมเนอร์ 100 ซีซี + นีโอไฟต์ 100 ซีซี หลังการเก็บทุกครั้ง
การป้องกันโรคและแมลง
1. รากเน่าโคนเน่า (เหี่ยวเขียว) จะเป็นตั้งแต่ระยะกล้าจนถึงระยะการเก็บเกี่ยว ใช้ทาริล 30 กรัม + ซีวิว 20 ซีซี +ไบโอซอย 5 กรัม พ่นจี้โคนต้น
2. ยอดเน่า (ราหนวดแมว) จะเกิดการระบาดมากในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว ใช้ อมิตสตาร์ 5 ซีซี + นีโอไฟต์ 20 ซีซี
3. ใบจุดและยอดแห้งใบร่วง เป็นโรคที่พึ่งพบประมาณ 3-4 ปี ที่ผ่านมา ใช้ไมโครบลูคอป 20 กรัม +สับรา 30 กรัม
4. ใบหงิกใบงอ เป็นปัญหาอันดับหนึ่งของการปลูกพริก มี 2 ลักษณะ ใบหงิกคว่ำ ซึ่งเกิดจากไรขาว ใช้ไรบาย 10 กรัม และจะระบาดมากในหน้าหนาว ใบหงิกหงายขึ้น ซึ่งเกิดจากเพลี้ยไฟ ใช้เคาท์ดาว 10 ซีซี สลับ โปรวาโด 5 กรัม หรือ คอนฟิดอร์ 5 ซีซี

5. กุ้งแห้งแท้และกุ้งแห้งเทียม ส่วนใหญ่จะเกิดจากกุ้งแห้งเทียมก่อนแล้วจะเป็นกุ้งแห้งแท้ เนื่องจากโครงสร้างของเมล็ดพริกไม่สมบูรณ์ ใช้ นีโอไฮแคล 20 ซีซี ตั้งแต่ระยะเริ่มออกดอกเป็นต้นมาจะแก้ปัญหาได้ 90 เปอร์เซ็นต์

[email protected]

ปลูกเผือกหอมกำลังจะเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 20-25วันในช่วงนี้อยากจะเร่งแป้งและน้ำหนักควรจะใส่ปุ๋ยสูตรอะไรดีค้ะแนะนำด้วยค่ะ

คำสำคัญ: