เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะเมล็ดละ1บาทสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09.จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง ประโยชน์ ดอกใส่แกงส้ม นำมาลวก ดอง หรือ ทอดกับไข่ รับประทานกับน้ำพริก ฝักใส่แกงส้ม หรือรับประทานสด หรือ ต้ม จิ้มน้ำพริกขายพันธุ์ถั่ว ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วขาว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วลิสงลายเสือ ถั่วพู ถั่วแขก ถั่วแปบ ถั่วขอ ถั่วครก ถั่วพุ่มเขียว ถั่วพุ่มม่วง ถั่วฝักยาวเขียว ถั่วฝักยาวม่วง ถั่วขาวรี ถั่วขาวกลม ถั่วแดงหลวง ถั่วแดงเล็ก ถั่วดำหลวง ถั่วดำพม่า ถั่วดำเล็ก ถั่วพร้า ถั่วลันเตา ถั่วดาวอินคา ถั่วแฮ ถั่วบลาชิล ถั่วคล้าทะเล สนใจพันธ์ถั่วโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง
ราคาเมล็ด?ละ 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
สวนพอเพียง | บ้านค่าย ระยอง
เมล็ดพันธุ์ถั่วพู
ราคา 10 บ/ซอง
1ซองบรรจุ 20 เมล็ด
ถั่วพู (Psophocarpus tetragonolobus มีชื่อสามัญว่า Princess bean, Winged bean, Goa bean)
เป็นพืชพื้นบ้านของไทยที่คนไทยรู้จักดีโดยการนำฝักอ่อนมารับประทาน ภายหลังที่ได้พบว่าถั่วพูมีความสามารถพิเศษ
ในการตรึงธาตุไนโตรเจนจากอากาศ และเปลี่ยนเป็นโปรตีนของส่วนต่าง ๆ ทำให้ส่วนเหล่านั้นมีคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้น
ถั่วพูมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกาและได้ถูกนำมายังเอเชียอาคเนย์และปาปัว นิวกินีในคริสตศตวรรษที่ 17 และยังคงมีปลูก
เป็นพืชสวนครัวหลังบ้านอยู่ในแถบนี้จนถึงปัจจุบันโดยมิได้มี การปลูกเป็นการค้าเลยนอกจากในพม่าและปาปัวนิวกินี
ถั่วพูสามารถขึ้นได้ในความสูงถึง 2000 ม. ชอบอากาศร้อนที่ชุ่มชื้น เป็นพืชที่มีข้อดีต่าง ๆ คือ
(1) ใช้รับประทานได้แทบทุกส่วนของต้น ตั้งแต่ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอก ฝักอ่อน เมล็ดอ่อน
เมล็ดแก่ และหัว และแต่ละส่วนก็มีโปรตีนอยู่ในปริมาณมากกว่าพืชอื่น ๆ
(2) ใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ดี
(3) ช่วยบำรุงดิน
(4) ช่วยอนุรักษ์ดิน
(5) ปลูกง่ายและขึ้นได้ดีในทุกภาค
(6) ให้ผลประโยชน์ตลอดระยะเวลาปลูก
(7) ให้ผลผลิตต่อไร่สูง และมีลู่ทางที่จะปลูกเป็นการค้าได้
ปัญหา ที่จะเกิดขึ้นก็คือ ความไม่เคยชินของคนไทยในการนำส่วนต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ในแบบต่าง ๆ
โดยเฉพาะในการใช้เป็นวัตถุดิบของโรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันพืช อาหารคน และอาหารสัตว์
นอกจากนั้นก็มีปัญหาทางด้านเมล็ดพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์
ลักษณะของถั่วพู
ถั่วพูเป็นไม้เลื้อย จัดอยู่ในประเภท herbaceous perennial คือส่วนเหนือดินเป็นพืชล้มลุก มีอายุเพียงไม่กี่เดือนก็จะตาย
แต่ ส่วนใต้ดินจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป (ถ้าดินชื้นพอ) ถ้าหากมีค้าง จะขึ้นสูงได้ถึง 3-4 เมตร ดอกมีสีฟ้า ขาว หรือม่วง (แล้วแต่พันธุ์) เป็นดอกสมบูรณ์เพศและผสมตัวเอง ฝักรูปร่างยาว มีสี่ด้าน ลักษณะเป็นปีกกางออกไปตามเส้นทแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
(มองจาก ภาคตัดขวาง) ขนาดของฝักยาวตั้งแต่ 6-36 ซ.ม. และมีเมล็ดตั้งแต่ 5-20 เมล็ด เมล็ดมีรูปร่างกลมหรือทรงกระบอก (oblong) (แต่ไม่ยาวนัก) ผิวเป็นมัน มีสีหลายสีตั้งแต่สีขาว ครีม เหลือง น้ำตาล ดำ และลวดลายด่างต่าง ๆ กัน มีน้ำหนัก 0.06-0.40 กรัม/เมล็ด
การเจริญเติบโต ของฝักแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรก ซึ่งกินเวลาประมาณ 20 วัน ฝักจะโตถึงขนาดใหญ่ที่สุด
ระยะที่สองซึ่งใช้เวลาประมาณ 44 วัน เมล็ดจะแก่ ฝักจะแห้งเหี่ยวลง
ถั่วพูเป็นพืชที่มีระบบการสร้างปมรากที่กว้างขวางมาก ที่สุดในบรรดาพืชตระกูลถั่วทั้งหลาย ต้นหนึ่ง ๆ อาจมีปมมากถึง
440 ปม.และแต่ละปมก็จะมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ปมใหญ่ ๆ ปมหนึ่งจะมีน้ำหนักสดถึง 0.6 กรัม เส้นผ่าศูนย์กลางถึง
1.2 ซ.ม. การเกิดปมเกิดโดยธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องเพาะเชื้อไรโซเบียม ทั้งนี้เพราะดินทั่วไปมีเชื้อไรโซเบียม
ที่จัดอยู่ในกลุ่มถั่วกระด้างอยู่มาก ตามธรรมชาติอยู่แล้ว
นิเวศวิทยา
ถั่วพูสามารถขึ้นได้ในสถานที่ตั้งแต่ ระดับน้ำทะเลจนถึงที่สูง 2000 เมตร และระหว่างเส้นขนาน 20 ํ เหนือ และ 10 ํ ใต้
ซึ่งอยู่ในเขตเอเชียเขตร้อน เชื่อกันว่าถั่วพูต้องการสภาพวันสั้นในการกระตุ้นให้เกิดดอก ทั้งนี้เพราะเมื่อนำไปปลูกในเขตอบอุ่น
(เส้นขนานสูง ๆ) ถั่วพูมักจะไม่ออกดอก ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอุณหภูมิแต่ประการใด ถั่วพูเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก
จึงขึ้นได้ดีในเขตร้อนที่ชุ่มชื้น แต่ถ้ามีน้ำก็ขึ้นได้ในเขตร้อนทุกแห่ง แม้ว่าจะมีระบบรากที่มากมายและมีหัวใต้ดิน
แต่ถ้าประสบกับภาวะแห้งแล้งเป็นเวลานาน ก็จะตายได้เหมือนกัน
ข้อดีของถั่วพู
1. เป็นพืชที่รับประทานได้แทบทุกส่วนของต้น
ใน บรรดาพืชที่มนุษย์ปลูกเพื่อใช้รับประทานผลผลิตนั้น มีอยู่น้อยชนิดเหลือเกินที่เราสามารถนำเอาส่วนต่าง ๆ
มาใช้รับประทานได้ทั้งหมด ถั่วพู เป็นพืชชนิดหนึ่งที่แทบทุกส่วนของต้นใช้รับประทานได้ ส่วนต่าง ๆ ของถั่วพู
ที่รับประทานได้มีดังต่อไปนี้
ก. ยอดอ่อน เมื่อต้นถั่วพูเจริญจากเมล็ดหรือหัวใต้ดินไต่ขึ้นร้านหรือเสาค้ำแล้ว ถ้าหากเด็ดยอดอ่อนออกบ้าง
ก็จะช่วยให้ต้นแตกกิ่งก้านสาขามากยิ่งขึ้น ยอดอ่อนเหล่านี้อุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุ และมีรสชาติอร่อย
จึงใช้เป็นผักรับประทานได้โดยทำเป็นผักต้มจิ้มน้ำพริก ผัด ใส่ในแกงจือ (เช่นเดียวกับยอดตำลึง)
ข. ใบอ่อน เมื่อเด็ดยอดอ่อนออกแล้ว ถั่วพูจะแตกกิ่งก้านสาขามาก (และมียอดอ่อนให้เด็ดมากขึ้นอีก)
แต่ใบที่ติดอยู่กับยอดที่เหลือก็จะเจริญขึ้น ก่อนที่ใบเหล่านี้จะแก่ เราจะเด็ดมารับประทานได้โดยทำเป็นแกงจืด
ผักต้ม ผัด ฯลฯ
ค. ดอก เมื่อต้นมีอายุพอสมควรแล้ว ถั่วพูจะออกดอกเป็นช่อประมาณ 2-6 ดอก (ระยะเวลาแล้วแต่พันธุ์
ตั้งแต่ประมาณ 2-4 เดือน) ช่อดอกเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะติดฝัก ซึ่งถ้าปล่อยให้ติดฝักมากเกินไป
ต้นอาจโทรมเร็ว จึงควรเด็ดออกมารับประทานเสียบ้าง อาจนำไปทำเป็นผักสลัด ทอดกับน้ำมัน (รสชาติคล้ายเห็ด)
ชุบแป้งทอด (แบบดอกโสน) หรือชุบไข่ทอดก็ได้
ง. ฝักอ่อน เมื่อดอกบานและเกิดการผสมพันธุ์แล้ว ฝักก็จะเริ่มเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทั่ว ๆ ไป จะใช้เวลา
ประมาณ 2 สัปดาห์ ฝักก็จะใหญ่ที่สุดที่เหมาะสำหรับนำไปบริโภค แต่อาจเก็บฝักขนาดเล็กกว่านี้ไปบริโภคได้
ฝัก เหล่านี้อาจใช้รับประทานแบบต่าง ๆ ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น หรือจะดัดแปลงวิธีการอย่างใดก็ได้ เช่น ชุบไข่ทอด (แบบมะเขือยักษ์ ชะอม) ชุบแป้งทอด ฯลฯ
จ. เมล็ดอ่อน ฝักที่มีอายุเกิน 2 สัปดาห์นั้น จะเริ่มมีเสี้ยนมากจนไม่เหมาะที่จะรับประทาน แต่เมล็ดภายในฝักยังอ่อน
พอที่จะนำไปรับประทานได้ โดยการนำไปทำเป็นผักต้ม ผัด ฯลฯ แบบเดียวกับถั่ว pea ของต่างประเทศ
ฉ. เมล็ดแก่ เมื่อฝักแก่และแห้งเหี่ยวแล้ว เมล็ดที่อยู่ภายในจะยังไม่แตกออก หากมีมาก เมล็ดเหล่านี้สามารถนำไปใช้
ประโยชน์ได้ 2 ทาง คือ
(1) สกัดน้ำมัน - ได้น้ำมัน 17% เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพดี เพราะมีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว (unsaturated fatty acids)
จึงไม่เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดเส้นเลือด ดังเช่นน้ำมันบางประเภท น้ำมันเมล็ดถั่วพู จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นน้ำมันหุงต้ม
(2) น้ำมันสกัด-ได้ โปรตีน - มีอยู่ถึง 34% เป็นโปรตีนที่มีคุณค่าทางอาหารไล่เลี่ยกับเมล็ดถั่วเหลือง ซึ่งจัดว่าเป็นโปรตีน
จากพืชที่ดีเยี่ยม ใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารได้ดีเช่นเดียวกับเมล็ดถั่วเหลือง และดีกว่าตรงที่ไม่มีกลิ่นเต้าหู้
เมล็ดถั่วพูมีเปลือกแข็งจึงต้องใช้เวลานานในการหุงต้มหรือคั่ว โดยปรกติจะใช้เวลาต้มถึง 2-3 ชั่วโมง
นอกจากน้ำมันและโปรตีนแล้ว เมล็ดแก่ของถั่วพูยังมีสาร tocopherol ในปริมาณสูง สารนี้เป็น antioxidant
ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการไปต่อต้านตัวทำลายไวตามินเอ ดังนั้นจึงทำให้การใช้ประโยชน์ของไวตามินเอ ในร่างกาย
จากอาหารได้ผลดียิ่งขึ้น
ช. หัว หัวถั่วพูมีโปรตีนอยู่สูงในบรรดาพืชหัวทั้งหลาย กล่าวคือในสภาพสด มี 12-15% แต่ในสภาพแห้งมีมากกว่า 20%
เปรียบเทียบกับมันสำปะหลัง 1% มันฝรั่งและมันเทศ 2% ใช้รับประทานแบบหัวมันฝรั่งและมันเทศ เช่น นึ่ง ต้ม เผา เชื่อม
นอกจากมีคุณค่าทางอาหารแล้ว หัวถั่วพูยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย
ราคาซองละ 10.00 บาท ติดต่อ ปิ่นมณี เวทวงศ์ โทร. 0863672300 0863672300
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 15 ปี 0 เดือน