วิธีการปลูกทุเรียน
วิธีปลูกทุเรียนมี 7 ขั้นตอนดังนี้
การปลูกทุเรียนควรปลูกตอนเย็นเพื่อให้ต้นทุเรียนไม่โดนแดดหลังจากที่ปลูกเสร็จ โดยเริ่มจากเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เตรียมต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง บังร่ม และรดน้ำ หลังจากปลูกเสร็จ สวนตาก้านของเราได้สาธิต 7 ขั้นตอน ให้ทุกท่านได้ศึกษากัน
1. เตรียมอุปกรณ์ : ในการปลูกทุเรียนควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ได้แก่ กรรไกรตัดกิ่ง มีดเล็ก เชือกฟาง จอบ พลั่ว สแลนบังแดด ฟาง ไม้ค้ำกิ่งพันธ์ุทุเรียนที่สูงกว่าต้นทุเรียนเล็กน้อย และปุ๋ยอินทรีย์ โดยผสมปุ๋ยอินทรีย์อัตราส่วนแกลบดิบ 2 กระสอบ และปุ๋ยคอก 1 กระสอบใส่ไตรโคเดอร์มาผสมทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน (แนะนำปุ๋ยคอก : ทุเรียนเป็นพืชที่มีรากอ่อนไหว เราต้องเข้าใจข้อสังเกตการใช้ปุ๋ย คือ ปุ๋ยขี้หมู ดีที่สุดเพราะมีรำและจุลินทรีย์ แต่ควรซื้อกระสอบที่ฆ่าเชื้อแล้วและหลีกเลี่ยงขี้หมูที่มีโซดาไฟ สำหรับขี้วัว มีข้อระวังเรื่องหญ้าและหนอนที่มากับปุ๋ย และสำหรับขี้ไก่มีข้อระวังเรื่องความร้อนจากกำมะถัน)
2. เตรียมกิ่งพันธุ์ : กิ่งพันธุ์ทุเรียนที่ปลูกอาจเป็นกิ่งตอน กิ่งเสียบยอด หรือ กิ่งทาบก็ได้ แต่กิ่งพันธุ์ควรมีอายุประมาณ 1 ปี หากอายุน้อยกว่านี้จะไม่แข็งแรงและหากอายุมากเกินไปรากอาจขดได้ จากนั้นเมื่อได้กิ่งพันธุ์อายุเหมาะสมแล้ว ควรรอให้ใบอ่อนแก่ก่อนหรือ เพฉลาด จึงลงปลูก ไม่ควรลงปลูกขณะที่แตกใบอ่อน เพราะหากโดนแดดจัดจะทำให้ทุเรียนเฉาในทันที กิ่งทุเรียนจะเป็นทรงกระโดง หรือ ทรงกิ่งข้างก็ได้
3. ยกโคกปลูก : การปลูกแบบชาวสวนนนท์จะยกโคก(พูนดิน) โดยใช้ดินจากบริเวณที่จะปลูกใช้จอบฟันดินให้ซุยและพูนขึ้นมาจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ในขั้นตอนการทำโคกควรผสมปุ๋ยอินทรีย์ (ผสมแกลบดิบและปุ๋ยคอก) คลุกเคล้าไปกับดินที่ยกเป็นโคกจะดีมาก จากนั้นขุดหลุมปลูกบริเวณกลางโคก โดยขุดลงไปเท่าขนาดถุงชำ (ภาพที่ 7) ในกรณีที่ไม่ได้ผสมปุ๋ยอินทรีย์ไปบนโคก เราก็สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์เทลงบนโคกแล้วผสมคลุกเคล้าไปได้เช่นกัน เพื่อล่อให้รากทุเรียนออกมาหาอาหาร และถ้ามีปลวกให้ใช้พูราดาน 1 ส่วนผสมปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด 3 ส่วน โรยที่ก้นหลุมประมาณ 1 กำมือก่อนแล้วจึงลงปลูก
4. กรีดถุงชำและสังเกตว่ารากขดหรือไม่ : เมื่อตัดถุงชำ(ถุงสีดำ)ออกแล้ว ควรเอาดินส่วนล่างของถุงชำออกประมาณ 1 ใน 5 เพื่อให้รากทุเรียนได้เจอกับดินใหม่ที่เราผสมไว้ในโคก ขณะที่เอาดินจากถุงชำออกนั้น ต้องสังเกตที่รากแก้ว หากพบว่ารากแก้วขดอยู่ (รูปที่ 11) ก็ควรใช้กรรไกรตัดออก เพราะรากที่ขดนั้นจะทำให้ต้นทุเรียนโตช้ากว่าที่ควร ในกรณีที่กิ่งพันธุ์ทุเรียนที่ชำเอาไว้นาน จะทำให้ดินมีลักษณะจับตัวกันแน่นและรากแก้วของทุเรียนอาจขดอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่เราสามารถตัดรากแก้วที่ขดออกได้ เนื่องจาก ทุเรียนมีรากแขนงที่แตกมาจากรากแก้วและมีรากพิเศษ หรือ “รากตะขาบ” เป็นรากหากิน ทำให้การตัดรากแก้วไม่กระทบกระเทือนการหากินของต้นทุเรียน ในกรณีที่แปลงปลูกทุเรียนของเรามีน้ำใต้กินมาก เช่น ชาวสวนนนท์นิยมปลูกแบบยกร่อง(มีการกักน้ำไว้ในร่องสวน)และมีน้ำใต้ดินมาก จึงแนะนำให้ตัดรากแก้วทั้งในกรณีที่รากแก้วขดและไม่ขด เนื่องจาก หากไม่ตัดรากแก้ว รากแก้วจะลงไปดูดน้ำใต้ดินทำให้ทรงพุ่มของทุเรียนสูงชะลูดเพียงอย่างเดียว และระดับน้ำใต้ดินที่สูงจะทำให้รากแก้วแช่อยู่ในน้ำตลอดปี ดังนั้น** หากผู้ปลูกทำสวนแบบยกร่องสวนหรือมีระดับน้ำใต้ดินสูงควรตัดรากแก้วออกทั้งในกรณีที่รากแก้วขดและไม่ขด ส่วนผู้ที่ไม่ได้ยกร่องก็สังเกตเพียงว่ารากแก้วขดหรือไม่ หากรากแก้วขดจึงค่อยตัดออก ซึ่งเวลาตัดรากควรระวังไม่ให้มือของเราสัมผัสแผลที่เราตัดราก เพราะ อาจจะเป็นเชื้อราได้
5. ลงปลูก ใช้ไม้ค้ำและผูกเชือก : ตอนลงปลูกควรขยายรากให้แผ่ออกหรือจัดรากให้แผ่ออกไปรอบๆ ต้น ให้เหยียดตรงเมื่อทุเรียนโตขึ้นจะได้มีรากสมดุลกัน คือ แผ่รากไปรอบๆ ต้นป้องกันการโค่นล้ม วางกิ่งทุเรียนลงในกลางพูนดินให้ลำต้นตั้งตรง จากนั้นปักไม้ค้ำและผูกเชือกเพื่อป้องกันลมโยกต้นทุเรียน โดยปักระยะประมาณขอบดินที่มากับกล้าทุเรียน ระวังไม่ให้โดนราก และผูกเชือกฟางพอให้ไม้ค้ำประคองต้นได้ อย่าผูกแน่นจนเกินไป จากนั้นกลบโคนต้นทุเรียนและใช้ฟางคลุมโคนเพื่อรักษาความชื้น
6. บังร่มให้ต้นทุเรียน : นิสัยทุเรียนไม่ชอบที่โล่งแจ้ง ดังนั้นจึงควรมีไม้บังร่มให้แก่ทุเรียนบ้างโดยเฉพาะทุเรียนในปีแรกที่ยังเล็กอยู่ต้องการร่มเงามาก สามารถบังร่มได้ 2 วิธี คือ 1. ใช้แสลนบังร่ม 2. ปลูกไม้บังร่ม
(1) ใช้แสลนบังร่ม : ตัดแสลนสูงกว่าต้นประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้เงาแสลนทอดลงมาบังแดดให้ต้นทุเรียนได้ โดยแสลนที่ใช้บังควรบัง 3 ด้าน เปิดด้านที่โดนแดดตอนเช้าไว้ 1 ด้าน เพื่อให้ลมหมุนเวียนได้สะดวก ส่วนด้านบนไม่ต้องบังแสลน เนื่องจาก การบังแสลนด้านบนจะช่วยบังแดดแค่ตอนเที่ยง ไม่ได้ช่วยบังต้นทุเรียนเวลาช่วงสายและช่วงบ่าย และการบังแสลนด้านบนจะทำให้ต้นทุเรียนจะไม่ได้รับน้ำค้างเวลากลางคืน นอกจากนี้การปักแสลนควรเว้นระยะให้ห่างจากพื้นดินเล็กน้อยเพื่อให้ลมผ่านได้ และไม่ควรปักติดชิดต้นทุเรียนมากเกินไป เพราะแสลนจะเก็บความร้อนไว้ เมื่อผืนแสลนสัมผัสกับใบทุเรียนเป็นเวลานานจะทำให้ใบไหม้ได้
(2) ปลูกไม้บังร่ม : ไม้บังร่มจะช่วยให้ร่มเงาและให้ความชื้นแก่ต้นทุเรียน พืชบังร่มชั่วคราวที่ดีที่สุดคือกล้วยหอม หรือ กล้วยไข่ เพราะปลูกง่าย โตเร็ว ให้ร่มเงาเร็วที่สุด ส่วนไม้บังร่มถาวรนั้นในสวนแบบยกร่องนิยมปลูกต้นทองหลางสลับระหว่างต้นทุเรียน ต้นทองหลางมีประโยชน์มาก นอกจากบังร่มแล้ว ใบของทองหลางที่หล่นลงร่องสวน ยังสามารถขุดขึ้นมาถมโคนทุเรียนซึ่งเป็นพวกอินทรียวัตถุได้ พอถึงฤดูแล้งน้ำที่ระเหยจากใบทองหลางจะช่วยให้ความชื้นในอากาศมากขึ้น ทำให้ทุเรียนไม่ชะงักการเจริญเติบโต นอกจากนี้ ไม้บังร่มยังเป็นรายได้จุนเจือชาวสวนอีกด้วย เช่น ค่ารักษาสวน ค่าปุ๋ยทุเรียน อีกทั้ง ยังช่วยป้องกันกำจัดวัชพืช เพราะเมื่อมีไม้บังร่มขึ้นปกคลุมแล้ว สวนก็จะร่ม พวกวัชพืชก็จะขึ้นน้อยลง
7. รดน้ำให้ต้นทุเรียน : หลังจากปลูกเสร็จแล้วต้องรดน้ำให้ทันที ในระยะแรกที่ปลูกควรรดน้ำตอนเช้าทุกวันอย่างสม่ำเสมอ และควรรดน้ำบริเวณใกล้โคน เนื่องจากรากยังไม่เจริญไปห่างต้น วิธีการรดน้ำสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้สายยางรดน้ำ การใช้สปริงเกอร์หรือมินิสปริงเกอร์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ระบบน้ำหยด เพราะ จะทำให้รากทุเรียนหากินอยู่ที่เดียว รากไม่แผ่ และอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ในบริเวณที่หยดซ้ำๆเพียงจุดเดียว นอกจากนี้ ในระยะปลูกใหม่การใช้ขนาด(ขนาดรดน้ำ)หรือเครื่องรดน้ำไม่ควรทำเพราะจะทำให้โคกพังเร็วขึ้น และยังทำให้ดินบริเวณนั้นจับกันแน่นและรากเดินไม่สะดวก เมื่อทุเรียนจะเริ่มตั้งตัวได้จะเริ่มแตกใบอ่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่า การปลูกของเราทำได้เสร็จสมบูรณ์ โดยเวลาที่จะแตกยอดนั้น ถ้าเป็นกิ่งทาบหรือต้นเสียบยอดจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็จะเริ่มแตกใบอ่อน ถ้าเป็นกิ่งตอนอาจแตกใบอ่อนช้ากว่าเล็กน้อยประมาณ 2 เดือน
หลังจากปลูกเสร็จแล้ว ท่านสามารถศึกษาวิธีการดูแลทุเรียนปลูกใหม่ได้ที่หน้าการดูแลทุเรียนปลูกใหม่
**ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
https://www.duriannon.com/
คำค้นหา
วิธีการปลูกทุเรียน