กาแฟ (Coffee)

สวนอารียา | เมืองลำพูน ลำพูน
ปัจจุบันได้ทำสวนกาแฟอยู่แล้ว และได้รับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านเพื่อ ส่งให้ทางโครงการหลวงอยู่ค่ะ ไร่อยู่ที่จังหวัดลำปาง ที่ อ.เมืองปาน
ต.แจ้ซ้อน อยู่ระหว่าง อำเภอดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอเวียงป่าเป้าจังหวัดเชียงราย อยู่บนยอดดอย ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1200- 1700 เมตร มีอากาศที่หวาวเย็นจัดค่ะ ซึ่งเหมาะกับการปลูกกาแฟอาราบิก้าได้ดีมากค่ะและให้ผลผลิตที่ดีด้วยค่ะ
ปีนี้มีจำนวน 5 ตันค่ะถ้าลูกค้าต้องการเยอะกว่านี้สามารถหาจากไร่อื่นในแหล่งเดียวกันให้ได้คะ กาแฟเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดีมีกลิ่นหอม สะอาด ผ่านกรรมวิธี หมัก ล้าง ตาก ที่ถูกต้องและผ่านการตากแดดประมาณ 10 แดด ขอรับรองความชื้นของกาแฟกะลา ประมาณ 10-13% มีเมล็ดขนาดใหญ่ประมาณ 5.5 มม.ขึ้นไปไม่มีเมล็ดดำไม่มีเมล็ดมอดค่ะ มีจำหน่ายตั้งแต่กาแฟกะลา สารกาแฟ กาแฟคั่ว พื้นที่อาจทุรกันดานยังไม่เป็นที่รู้จักกัน แต่คุณภาพกาแฟไม่น้อยไปกว่าพื้นที่อื่น ค่ะ เพราะทางเราได้ทำวิธีการทำกาแฟที่ถูกต้องตามมาตรฐานคะ
ซึ่งทางไร่เราได้กรรมวิธีดังนี้ค่ะ
1. การปอกเปลือก
โดยการนำผลกาแฟสุกที่เก็บได้มาปอกเปลือกนอกทันที โดยเครื่องปอกเปลือก โดยใช้น้ำสะอาดขณะที่เครื่องทำงาน จะปอกเปลือกทันทีหลังจากการเก็บเกี่ยวจึงทำให้กาแฟของเรามีรสชาติดีคะ ดังนั้นหลังปอกเปลือกแล้ว จึงต้องนำไปขจัดเมือก
2. การกำจัดเมือก
เมล็ดกาแฟที่ปอกเปลือกนอกออกแล้ว จะมีเมือก ห่อหุ้มเมล็ดอยู่ซึ่งจะต้องกำจัดออกไป โดยวิธีการดังนี้ค่ะ
2.1 การกำจัดเมือกโดยวิธีการหมักตามธรรมชาติ เป็นวิธีการที่ปฏิบัติดั้งเดิม โดยนำ เมล็ดกาแฟที่ปอกเปลือกออกแล้วมาแช่ในถังหรือบ่อซีเมน ใส่เมล็ดกาแฟประมาณ 3/4 ของถังแล้วใส่น้ำให้ท่วมสูงกว่ากาแฟ แล้วปิดถังทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง ในกรณีที่อุณหภูมิต่ำอากาศหนาวเย็นเราจะทำ การหมักอาจจะใช้เวลา 48-72 ชั่วโมง) จากนั้นปล่อยน้ำทิ้งแล้วนำ เมล็ดมาล้างน้ำให้สะอาด นำเมล็ดมาขัดอีกครั้งในตระกล้าที่ตาถี่ เมื่อขัดแล้วเมล็ดกาแฟจะไม่ลื่นแล้วล้าง ด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนที่จะนำไปตาก
3.การตากหรือการทำแห้ง
หลังจากเมล็ดกาแฟผ่านการล้างทำความสะอาดแล้วนำเมล็ดกาแฟมาเทลงบนลานตากที่ทำความสะอาดแล้ว หรือเทลงบนตาข่ายพลาสติกบนแคร่ไม้ไผ่ เกลี่ยเมล็ดกาแฟกระจายสม่ำเสมอหนาเกิน 4 นิ้ว ควรที่จะเกลี่ยเมล็ดกาแฟวันละ 2 - 4 ครั้ง จะทำให้เมล็ดแห้ง และ และใช้พลาสติกคลุมเพื่อป้องกันน้ำฝนหรือน้ำค้าง ใช้เวลาตากประมาณ 7 -10 วัน เมล็ดจะมีความชื้นไม่เกิน 13 %
4. การบรรจุ
เราจะเก็บไว้ในรูปของกาแฟกะลา (Parchment Coffee) เพราะจะสามารถรักษาเนื้อกาแฟและป้องกันความชื้นกาแฟได้ดี ควรบรรจุ ในกระสอบป่านใหม่ เก็บในโรงเก็บที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น หรือมีกลิ่นเหม็น
5.การสีกาแฟกะลา (Hulling)
กาแฟกะลาที่จะนำไปจำหน่ายควรจะสีเพื่อเอากะลาออกด้วยเครื่องสีกะลา และเครื่องจะทำการแยกเกรดกาแฟเสร็จแล้วนำมาคัดเกรดด้วยมืออีกทีค่ะ จะได้สารกาแฟ (Green Coffee) ที่มีลักษณะผิวสีเขียวอมฟ้า ไม่มีเมล็ดดำเมล็ดมอดไม่มีเมล็ดที่แตกหักคะ
ลูกค้าต้องการจำนวนมากสามารถต่อรองราคาได้ค่ะ
ราคากาแฟค่ะ
กาแฟกะลา กิโลกรัมละ 125บาท
กาแฟสาร กิโลกรัมละ 155 บาท
กาแฟคั่ว
คั่วอ่อน หอมละมุ่น กิโลกรัมละ 350 บาท
คัวกลาง หอมนุ่มละมุ่น กิโลกรัมละ 380 บาท
คั่วกลางเข้ม หอมนุ่มเข้มข้น กิโลกรัมละ 400 บาท
เอสเพรสโซ่ เข้มข้นหอมนุ่ม กิโลกรัมละ 380 บาท
ต้องการจำนวนมากราคาต่อรองได้ค่ะ
สนใจติดต่อได้ตลอดเวลา อารียา ค่ะ โทร. 082 196 6539 หรือ [email protected]

สวนอารียา | เมืองลำพูน ลำพูน
ปัจจุบันได้ทำสวนกาแฟอยู่แล้ว และได้รับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านเพื่อ ส่งให้ทางโครงการหลวงอยู่ค่ะ ไร่อยู่ที่จังหวัดลำปาง ที่ อ.เมืองปาน
ต.แจ้ซ้อน อยู่ระหว่าง อำเภอดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอเวียงป่าเป้าจังหวัดเชียงราย อยู่บนยอดดอย ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1200- 1700 เมตร มีอากาศที่หวาวเย็นจัดค่ะ ซึ่งเหมาะกับการปลูกกาแฟอาราบิก้าได้ดีมากค่ะและให้ผลผลิตที่ดีด้วยค่ะ
ปีนี้มีจำนวน 5 ตันค่ะถ้าลูกค้าต้องการเยอะกว่านี้สามารถหาจากไร่อื่นในแหล่งเดียวกันให้ได้คะ กาแฟเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดีมีกลิ่นหอม สะอาด ผ่านกรรมวิธี หมัก ล้าง ตาก ที่ถูกต้องและผ่านการตากแดดประมาณ 10 แดด ขอรับรองความชื้นของกาแฟกะลา ประมาณ 10-13% มีเมล็ดขนาดใหญ่ประมาณ 5.5 มม.ขึ้นไปไม่มีเมล็ดดำไม่มีเมล็ดมอดค่ะ มีจำหน่ายตั้งแต่กาแฟกะลา สารกาแฟ กาแฟคั่ว พื้นที่อาจทุรกันดานยังไม่เป็นที่รู้จักกัน แต่คุณภาพกาแฟไม่น้อยไปกว่าพื้นที่อื่น ค่ะ เพราะทางเราได้ทำวิธีการทำกาแฟที่ถูกต้องตามมาตรฐานคะ
ซึ่งทางไร่เราได้กรรมวิธีดังนี้ค่ะ
1. การปอกเปลือก
โดยการนำผลกาแฟสุกที่เก็บได้มาปอกเปลือกนอกทันที โดยเครื่องปอกเปลือก โดยใช้น้ำสะอาดขณะที่เครื่องทำงาน จะปอกเปลือกทันทีหลังจากการเก็บเกี่ยวจึงทำให้กาแฟของเรามีรสชาติดีคะ ดังนั้นหลังปอกเปลือกแล้ว จึงต้องนำไปขจัดเมือก
2. การกำจัดเมือก
เมล็ดกาแฟที่ปอกเปลือกนอกออกแล้ว จะมีเมือก ห่อหุ้มเมล็ดอยู่ซึ่งจะต้องกำจัดออกไป โดยวิธีการดังนี้ค่ะ
2.1 การกำจัดเมือกโดยวิธีการหมักตามธรรมชาติ เป็นวิธีการที่ปฏิบัติดั้งเดิม โดยนำ เมล็ดกาแฟที่ปอกเปลือกออกแล้วมาแช่ในถังหรือบ่อซีเมน ใส่เมล็ดกาแฟประมาณ 3/4 ของถังแล้วใส่น้ำให้ท่วมสูงกว่ากาแฟ แล้วปิดถังทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง ในกรณีที่อุณหภูมิต่ำอากาศหนาวเย็นเราจะทำ การหมักอาจจะใช้เวลา 48-72 ชั่วโมง) จากนั้นปล่อยน้ำทิ้งแล้วนำ เมล็ดมาล้างน้ำให้สะอาด นำเมล็ดมาขัดอีกครั้งในตระกล้าที่ตาถี่ เมื่อขัดแล้วเมล็ดกาแฟจะไม่ลื่นแล้วล้าง ด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนที่จะนำไปตาก
3.การตากหรือการทำแห้ง
หลังจากเมล็ดกาแฟผ่านการล้างทำความสะอาดแล้วนำเมล็ดกาแฟมาเทลงบนลานตากที่ทำความสะอาดแล้ว หรือเทลงบนตาข่ายพลาสติกบนแคร่ไม้ไผ่ เกลี่ยเมล็ดกาแฟกระจายสม่ำเสมอหนาเกิน 4 นิ้ว ควรที่จะเกลี่ยเมล็ดกาแฟวันละ 2 - 4 ครั้ง จะทำให้เมล็ดแห้ง และ และใช้พลาสติกคลุมเพื่อป้องกันน้ำฝนหรือน้ำค้าง ใช้เวลาตากประมาณ 7 -10 วัน เมล็ดจะมีความชื้นไม่เกิน 13 %
4. การบรรจุ
เราจะเก็บไว้ในรูปของกาแฟกะลา (Parchment Coffee) เพราะจะสามารถรักษาเนื้อกาแฟและป้องกันความชื้นกาแฟได้ดี ควรบรรจุ ในกระสอบป่านใหม่ เก็บในโรงเก็บที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น หรือมีกลิ่นเหม็น
5.การสีกาแฟกะลา (Hulling)
กาแฟกะลาที่จะนำไปจำหน่ายควรจะสีเพื่อเอากะลาออกด้วยเครื่องสีกะลา และเครื่องจะทำการแยกเกรดกาแฟเสร็จแล้วนำมาคัดเกรดด้วยมืออีกทีค่ะ จะได้สารกาแฟ (Green Coffee) ที่มีลักษณะผิวสีเขียวอมฟ้า ไม่มีเมล็ดดำเมล็ดมอดไม่มีเมล็ดที่แตกหักคะ
สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือต้องการดูตัวอย่างได้ตลอดเวลาค่ะ 082 196 6539 คุณอารียาค่ะ