จันทร์หอม (Chan Hom)

วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ต้นจันทน์หอม
-พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดนครปฐม
-ไม้จันทน์หอมเป็นไม้มีค่าที่หายากชนิดหนึ่ง จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูง ใช้ในพระราชประเพณีตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชประเพณีเกี่ยวกับพระบรมศพ โดยนำเอาไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายเองตามธรรมชาติ ซึ่งเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มาสร้างพระลองประดับพระโกศพระบรมศพ ตลอดจนใช้ทำฟืน และดอกไม้จันทน์ในพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ
-ไม้จันทน์หอมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เนื้อไม้แข็ง ละเอียด กระพี้สีน้ำตาลอ่อน แก่นสีน้ำตาลเข้ม ไสกบ ตบแต่งง่าย ขัดเป็นเงาสวยงามมาก นิยมใช้สร้างบ้านหรือตำหนักของเจ้านายสมัยก่อน ทั้งโครงสร้างบ้านทั่วไปภายในและภายนอก โดยเฉพาะพื้นบ้านจะนิยมกันมาก
-ปรากฏหลักฐานการใช้ประโยชน์จากไม้จันทน์หอมมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล กล่าวคือ มักจะใช้จตุชาติสุคนธ์ คือ ของหอมธรรมชาติ ๔ อย่าง ได้แก่ กลิ่นของกฤษณา กะลำภัก จันทน์หอม และดอกไม้หอม ประพรมในพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธีมงคลถวายพระนามเจ้าชายสิทธัตถะในปฐมวัย นอกจากนี้ยังพบประวัติการใช้ไม้หอมในประเทศไทยยาวนานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นสินค้าหลักแล้วยังใช้เป็นเครื่องบรรณาการอีกด้วย
-เนื้อไม้นิยมใช้ทำหีบใส่เสื้อผ้า ทำเครื่องกลึง แกะสลักทำเสาหลักเมือง ทำหวี ธูป น้ำหอม เครื่องหอม เครื่องสำอางต่างๆ น้ำอบไทย ไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายเองตามธรรมชาติเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จึงนิยมเก็บมาเป็นไม้หอมที่มีราคาสูงมาก เพื่อนำมากลั่นเป็นน้ำหอม ใช้ทำเครื่องหอม ธูปหอม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mansonia gagei Drumm.
วงศ์ STERCULIACEAE
ชื่ออื่น จันทน์ จันทน์ชะมด จันทน์ขาวหรือจันทน์พม่า
ลักษณะ
เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๓๐ เมตร พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ตามภูเขาหินปูน ในจังหวัดนครราชสีมา สระบุรี ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ ในต่างประเทศพบในพม่าและอินเดีย ลำต้นเปลา ตรง เปลือกสีเทาอมขาว หรือเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่อง เปลือกชั้นในเมื่อถากใหม่ๆ จะมีสีขาว ทิ้งไว้แห้งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล กิ่งอ่อนมีขนประปราย ใบเป็นใบเดี่ยว ติดเรียงสลับ ทรงใบรูปมนแกมรูปหอก แขนงใบออกสีดำ ท้องใบมีขนสีอ่อนๆ ประปราย หลังใบเกลี้ยง ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ โคนใบตัดหรือเว้าเข้าเล็กน้อย และจะเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบสอบแหลมทู่ๆ เนื้อใบค่อนข้างหนา ใบอ่อนมีขนประปราย ใบแห้งออกสีเขียวอ่อนๆ เส้นใบออกจากจุดโคนใบ ๓ เส้น เส้นแขนงใบมี ๔-๖ คู่ ก้านใบมีขนประปราย และจะออกสีดำคล้ำเมื่อใบแห้ง
สรรพคุณ
น้ำมันที่กลั่นจากเนื้อไม้ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เนื้อไม้ใช้เป็นยาบำรุงประสาท เป็นยาแก้ไข้ แก้โลหิตเสีย แก้ดี แก้กระหายน้ำ อ่อนเพลีย

วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา

ขายต้นจันทน์หิมาลัย หรือจันทน์หอมอินเดีย ความสูง 30-60 ซม. ฟรีส่งอีเอมเอส
ต้นจันทน์หิมาลัย จันทน์หอมอินเดีย ที่มาของไม้แก่นจันทน์ที่โบราณใช้ และเป็นเครื่องยา จันทน์ขาว ( sandal wood หรือ white sandalwood ) ตัวดั้งเดิม
ชื่อพฤกษศาสตร์ Santalum album L
วงศ์ Santalaceae
พืชชนิดนี้เป็นไม้ต้นขนาดเล็กกึ่งเบียน สูงราว ๖-๑๐ เมตร ไม่ผลัดใบ เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลอมเทา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม ไม่มีหูใบ มีก้านใบยาวราว ๑เซนติเมตร แผ่นใบรูปไข่ หรือรูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปใบหอก เรียบยาวราว ๓-๗ ซม. ดอกออกเป็นช่อสั้น ออกที่ปลายกิ่งหรือที่ซอกใบและกิ่งดอกย่อยมีขนาดเล็ก กลีบดอกติดกัน รูปชามโคม ปลายแยกเป็น ๔ แฉก เมื่อบานใหม่ๆสีฟางข้าว นานเข้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วง ผลกลม ลักษณะราวเมล็ดถั่ว เมื่อแก่จัดสีเกือบดำ ภายในเมล็ดมีเพียงเมล็ดเดียว พืชนี้เพาะปลูกมากในทางตอนใต้ของอินเดีย ตั้งแต่เมืองไมซอร์ ถึงเมืองมัทราส เป็นการผูกขาดของรัฐบาล เมื่อพืชนี้โตเต็มที่คือมีอายุราว ๒๐-๔๐ปี จะถูกโค่นต้น ลอกเปลือกและกระพี้ออก เหลือแต่แก่นแล้วจึงตัดเป็นท่อนๆ หรือทำเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อส่งขายต่อไป แก่นจันทน์ที่มีขายในเมืองไทยโดยมากมาจากประเทศอินเดีย
ตำราสรรพคุณยาโบราณไทยว่า แก่นจันทน์ มีรสขม หอม ร้อน ใช้แก้ไข้ แก้ดีกำเริบ แก้กระสับกระส่าย ตาลาย ชาวฮินดูใช้แก่นจันทน์เป็นยาขม ยาเย็น ยาฝาดสมาน แก้ไข้ แก้อาการกระหายน้ำ เอาแก่นจันทน์มาบดเป็นผงผสมเป็นส่วนผสมในยาทาแก้โรคไฟลามทุ่ง โรคผื่นคันเรื้อรัง และแก้อาการอักเสบ เมื่อนำแก่นจันทน์มากลั่นด้วยไอน้ำ ใช้ได้น้ำมันระเหยง่าย เรียกน้ำมันจันทน์ราวร้อยละ ๒-๕ น้ำมันนี้มีองค์ประกอบหลักเป็น a-santalol และ b-santalol ( รวมกันราวร้อยละ ๙๐-๙๗) น้ำมันนี้มีสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม เคยใช้เป็นยาฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ใช้ผสมในเครื่องหอมและสบู่ เช่น น้ำอบไทย และสบู่
แก่นจันทน์เนื้อไม้ยังใช้ทำเครื่องประดับ แกะสลักเป็นพระพุทธรูป ตัวเอกในเรื่อง รามเกียรติ์ และทำของที่ระลึกต่างๆ เช่น พัด แก่นจันทน์หรือไม้จันทน์ที่ได้จากแก่นจันทน์หิมาลัยนี้ และใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพพระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงตามโบราณราชประเพณี ในปัจจุบันหายากขึ้น อีกทั้งเป็นของเทศ จึงใช้ไม้จันทน์ที่เป็นของที่เป็นไม้พื้นเมืองของไทยแทน คือ จันทน์ชะมด หรือ จันทน์พม่า ซึ่งเป็นต้นไม้ อันมีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Mansonia gagei Drumm.ในวงศ์ Sterculiaceae ของที่เรียกว่า ดอกไม้จันทน์ ซึ่งใช้ในงานศพนั้น เดิมใช้แก่นจันทร์ แต่ต่อมาในสมัยหลังหลังไม้ชนิดนี้หายากขึ้น จึงทำได้โดยใช้ไม้อื่นแทน คือด้ามทำด้วยไม้ไผ่ ตัวดอกบาง ทําด้วยไม้ฉำฉา ไม้จันทน์ที่ได้จากจานหิมาลัยนี้ เคยใช้ในการสำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูงที่ทำความผิด ซึ่งตามโบราณราชประเพณีนั้น จะจับผู้ที่ถูกสำเร็จโทษใส่ในถุงแดง และทุบด้วยไม้จันทน์จนตาย

วรากรสมุนไพร | เมืองนครราชสีมา นครราชสีมา
ขายต้นจันทน์ชะมด พันธุ์ไม้หายาก
ช่องทางการติดต่อร้านวรากรสมุนไพรทางไลน์สะดวกที่สุดค่ะ
ไอดีไลน์ herbsddd
QR code https://line.me/ti/p/T-oZ81KZrM
โทร 0629246459
ต้องการมาดูสินค้าโทรนัดหมายล่วงหน้านะคะ
จันทน์ชะมด
ชื่อวิทยาศาสตร์ #Aglaia silvestris (M. Roem.) Merr.
ชื่อวงศ์ MELIACEAE
ชื่ออื่น สังเครียดคอโง้ง (ตะวันออกเฉียงใต้)
จันทน์ชะมด เป็นไม้ต้น สูง 6-20 ม. เส้นรอบวงยาวได้ถึง 1.3 ม. กิ่งอ่อนมีขนนุ่มสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแกมแดงอ่อน กิ่งแก่เกลี้ยง เปลือกสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดหนาเปลือกในสีแดงและมียางสีขาว กระพี้สีน้ำตาลอ่อน แก่นสีน้ำตาลแกมแดงเรื่อ
ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน ยาว 20-70 ซม. ก้านใบยาว 8- 15 ซม. โคนก้านขยายใหญ่ ใบย่อย 5-11 ใบ เรียงสลับหรือเกือบตรงข้าม ใบย่อยใบปลายมักมีขนาดใหญ่และยาวกว่าใบย่อยใบล่าง ใบย่อยรูปใบหอกหรือรูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 3-5.5 ซม. ยาว 8-19 ซม. แผ่นใบค่อนข้างหนาหรืออาจบางด้านบนเกลี้ยงเป็นมัน ด้านล่างมีขนและเกล็ดสีเหลืองทองแกมสีน้ำตาล ปลายเรียวแหลมหรือยาวคล้ายหางโคนรูปลิ่มหรือปแหลม อาจเบี้ยว ขอบเรียบ เส้นแขนงใบข้างละ 10-15 เส้น ปลายเส้นโค้งแต่ไม่จดกัน ทั้งเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบนูนเด่นชัดทางด้านล่าง เป็นร่องทางด้านบน เส้นใบย่อยแบบเส้นขนานแซมเส้นร่างแห เห็นไม่ค่อยชัด ก้านใบย่อยบาว 0.3-1 ซม. เกลี้ยง
ดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศร่วมต้น ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่งหรือเหนือซอกใบเล็กน้อย ช่อยาว 30-50 ซม. ประกอบด้วยช่อย่อยแบบช่อกระจุกจำนวนมาก ก้านช่อย่อยยาว 5-10 ซม. ก้านดอกยาว 2-3 มม. เมื่อยังอ่อนทุกส่วนมีเกล็ดสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ใบประดับและใบประดับย่อยรูปสามเหลี่ยม กว้างประมาณ 1 มม. ยาวประมาณ 3 มม. ร่วงง่าย กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 5 แฉก ยาวประมาณ 1 มม. มีเกล็ดสีน้ำตาลแดงหนาแน่นทางด้านนอก ด้านในเกลี้ยง กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียวอ่อนถึงสีเหลืองเข้ม มี 5 กลีบ รูปใบหอกกลับ ยาวประมาณ 2 มม. เกสรเพศผู้ 5 เกสร หยอดเกสรเพศผู้รูปถ้วย ขอบเป็นคลื่นหรือเรียบ อับเรณูติดภายในหลอด ปลายสูงเสมอขอบหลอด ทุกส่วนเกลี้ยง รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปถ้วยคว่ำหรือค่อนข้างกลมป้อม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 มม. เกลี้ยง มี 2-4 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1 เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเห็นไม่ขัด
ผลแบบผลแห้งแตก ทั้งช่อยาวได้ถึง 30 ซม. ห้อยลง ผลรูปทรงค่อนข้างกลมรูปทรงรี หรือรูปไข่กลับ กว้าง 1.5-2.5 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. เปลือกค่อนข้างบาง มีขนและเกล็ดสีน้ำตาล แก่จัดสีเหลืองแกมสีแดง เมล็ดรูปทรงรี กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 2-2.5 ซม. แข็งสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีขาวฉ่ำน้ำ มี 1 เมล็ด
จันทน์ชะมดชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ และภาคใต้ พบขึ้นตามป่าดิบและป่าผลัดใบ บริเวณใกล้แหล่งน้ำ ที่สูงจากระดับทะเล 50-1300 ม. ออกดอกและเป็นผลตลอดปีแต่จะมีมากเดือนกรกฏาคมถึงธันวาคม ในต่างประเทศพบที่ภูมิภาคอินโดจีนและภูมิภาคมาเลเซีย
สรรพคุณ
เนื้อไม้,แก่น รสขมหอมสุขุม แก้ไข้ แก้ลม บำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น บำรุงกำลัง แก้คลื่นเหียนอาเจียน