ต้นแมกโนเลีย

มนต์พฤกษา | บ้านไร่ อุทัยธานี
#มณฑาทิพย์ ดอกไม้จากสวรรค์ หลายๆคนที่รอคอยมาเพิ่มแล้วนะคะ ใครพลาดตกขบวนไปในสัปดาห์ที่แล้วขอบอกว่าสัปดาห์นี้ ต้นใหญ่แข็งแรงกว่ารอบที่แล้วมาก
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่ อยู่บนสวรรค์ และได้ตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ทำให้บ้านเกิดมีความงดงาม ชวนมอง เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกจะมีสีเหลืองนวล หอมนาน ดูแล้วงาม แพรวพราวจับใจ
“มณฑา” หรือ “มณฑาทิพย์” เป็นไม้วงศ์เดียวกับพวกจำปา จำปี และยี่หุบ เป็นไม้พุ่มสูงราว 3 เมตร เปลือกสีเทา ดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ หรือส่วนยอดของลำต้น มีสีเหลืองนวล
ดอกมณฑาสวยและหอมจึงนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อ มณฑา หรือ มณฑารพ นั้น ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ในเวลาที่พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ทุกหนแห่งในเมืองกุสินาราเต็มไปด้วยดอกมณฑารพ นอกจากนี้ มณฑายังเป็นดอกไม้ของนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดีที่มีนามว่า กิริณีเทวี
ความปรากฏในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวว่า ดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
เวลาดอกมณฑารพจะบาน และร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร
เหล่าทวยเทพจะดลบันดาลให้ดอกมณฑาร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้าน และผู้อาศัยควรปลูกต้นมณฑา ไว้ทางทิศตะวัตตกเฉียงเหนือของบ้าน
ควรปลูกในวันพุธ ด้วยเชื่อกันว่า การปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางดอก ให้ปลูกในวันพุธถ้าหากผู้อาศัยในบ้านเกิดในวันพฤหัสบดีด้วยแล้วก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น
ชื่อสามัญ Magnolita
ชื่อวิทยาศาสตร์ Talauma candellei
ตระกูล MACNOLIACEAE (วงศ์เดียวกับ จำปา จำปี และยี่หุบ)
การปลูก
แสง ต้องการแสงแดดอ่อน หรือแสงแดดปานกลาง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางควรให้น้ำ ๕- ๗ วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นสูง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา ๑-๒กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ ๓-๕ ครั้ง
การขยายพันธ์ การตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การตอน
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร

มนต์พฤกษา | บ้านไร่ อุทัยธานี
มนฑานพรัตน์
มณฑานพรัตน์ เป็น 1 ใน แมกโนเลียลูกผสมระหว่างมณฑาภู และยี่หุบ จากนั้นได้นำเอาเมล็ดไปเพาะจนแตกต้นกล้าแล้วนำไปปลูกจนต้นโตมีดอกปรากฏว่าดอกมีขนาดใหญ่มากกว่าพันธุ์พ่อและพันธุ์แม่ ทั้ง2 ชนิดอย่างชัดเจน ดอกเป็นสีขาวนวล มีกลิ่นหอมนุ่มนวล และมีความแข็งแรง สวยงาม และอึดทนตามสายพันธุ์ไม้ป่า

ดอกมีขนาดใหญ่ กลิ่นหอม ใบก็ใหญ่ไปทางมณฑาป่า มีความอึดสู้แดด
ออกดอกได้ตลอดปี ดอกจะใหญ่ มีความเด่นคือ ให้ดอกง่าย ดก มีกลิ่นหอม ทรงพุ่มย่อมกว่ามณฑาภู สามารถปลูกกลางแดดได้ ลักษณะใบใหญ่แข็งหนาสีเขียวเข้ม มีดอกใหญ่ให้ดอกง่ายออกตลอดปีมีกลิ่นหอมแรงช่วงเช้า กลีบดอกสวยโดดเด่น
เป็นไม้พุ่มสูง 2-4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับหนาแน่นที่ปลายยอด ใบเป็นรูปใบหอก เป็นคลื่นเล็กน้อย เนื้อใบค่อนข้างหนาและกรอบ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ สีเขียวสด
ดอก สามารถบานหรือกางออกอย่างเต็มที่ได้ แตกต่างจากกลีบดอกมณฑาทั่วไป ส่งกลิ่นหอมตั้งแค่ดอกเริ่มคลี่บาน และแรงมากขึ้นตอนบานเต็มที่ แล้วส่งกลิ่นถึงสายๆ หรือขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ
จัดเป็นไม้ที่ดูแลง่ายและค่อนข้างแข็งแรง อยู่ได้ทั้งกลางแดดและรำไร
ข้อเท็จจริงอีกประการที่น้อยคนจะรู้คือ ดอกยี่หุบสดมีน้ำมันหอมระเหย มีกลิ่นเฉพาะตัวที่หอมคลาสสิคมากๆ
อยากให้สายพันธุ์เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จึงทำไซส์ราว 60 เซ็นเพื่อให้ง่ายต่อการจัดส่ง