หนานเฉาเหว่ย (nan chao wui)

ชาดาวอินคาทูยูดอทคอม | ฝาง เชียงใหม่
ชาหนานเฉาเหว่ย ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ ลดความดัน เบาหวาน ลดการอักเสบภายในร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดไข้ บรรเทาปวด
หนานเฉาเหว่ย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Vernonia amygdaline , Family name ชื่อวงศ์ ASERACEAE , English Vernonia tree, Bitter Leaf
ประเทศไทยเรียก หนานเฉาเหว่ย , หนานเฟยเฉา ,ป่าช้าเหงา, ป่าช้าหมอง,หนานเฟยฉู่ ภาคเหนือของประเทศไทย เรียก ป่าเฮี่ยวหมอง ภาคใต้ของไทย เรียก บิสมิลลาส
เหตุที่มีการเรียกพืชชนิดนี้ว่าป่าช้าเหงานั้นสืบเนื่องมาจากการที่พืชชนิดนี้เมื่อทานเข้าไปแล้วช่วยรักษาโรคและอาการผิดปรกติต่างๆในร่างการอันหลากหลายจึงทำให้ผู้ที่ได้ทาน มีร่างกายที่แข็งแรงไม่ป่วยด้วยโรคต่างๆ จึงทำให้ไม่มีคนป่วยไม่สบายตาย ป่าช้าจึงหมองเพราะไม่มีคนเข้า
ต้นกำเนิดพืชชนิดนี้อยู่แถบทวีปแอฟฟริกา ประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นพืชผักพื้นบ้านที่คนไนจีเรียท้องถิ่นนิยมกินกัน จากการสันนิฐาน เมื่อพืชชนิดนี้เข้ามาในประเทศจีนอาจเนื่องมาจากคนจีนมีประชากรมาก แทบจะอยู่หรือทำงานทั่วทุกมุมโลก แล้วนำพืชชนิดนี้กลับมายังประเทศจีน จึงมีชื่อเรียกว่าหนานเฟยเฉา หนานเฉาเหว่ย และเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของจีนติดกับประเทศพม่าจึงทำให้พืชนี้เป็นที่รู้จักของหมอชาวบ้านในประเทศพม่าและชาวไทยใหญ่อันมีชื่อว่ายาแก้นางหนุ่ม(ทานแล้วจะแข็งแรงดั่งหนุ่มสาวไม่มีโรค) หลังจากนั้นพืชชนิดนี้ได้เข้ามาทางภาคเหนือของประเทศไทยเพราะพม่าติดกับภาคเหนือ แลวมีชื่อเรียกต่อกันมาว่าป่าเฮี่ยวหมองและป่าช้าเหงาในเมืองไทยคะ
สารสำคัญในใบหนานเฉาเหว่ย
หนานเฉาเหว่ยอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ สารที่สำคัญ อธิ Flavonoids , Alkaloids ,Saponins , Tannins , Glycosides , Reducing Sugar , Terpenoids , Anthraquinones , Steroid
Flavonoids ฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านการอุบัติของเซลล์มะเร็ง เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินE ถึง 50 เท่า
Alkaloids อัลคาลอยด์ มีฤทธิ์คล้ายๆกับฟลาโวนอยด์แต่มีคุณสมบัติที่เด่นกว่าฟลาโวนอยด์คือมีฤทธิ์ในทางต้านเซลล์มะเร็งได้มากกว่า คือสามารถชะลอการก่อตัวของเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลามไป คือ อาจมีผลให้เซลล์มะเร็งลุกลามได้ช้ากว่าปกติ ส่วนผู้ที่ไม่มีเซลล์มะเร็งก็สามารถทานได้ เพื่อลดการอุบัติของเซลล์มะเร็งที่จะเกิดขึ้นมา
Saponins ซาโปนิน ที่อยู่ในใบของพืชธรรมชาติชนิดทานได้ ต้านอนุมูลอิสระ คุณสมบัติเด่นคือเป็นสารยับยั้งจุลินทรีย์ และแบคทีเรีย ต่างๆ ลดการดูดคลอเรสเทอร์รอลในลำไส้เล็ก
Tannins แทนนิน ต้านอนุมูลอิสระ คุณสมบัติเด่นของแทนนิน คือช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ ลดอาการแผลติดเชื้อ เป็นหนอง ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
Steroid สเตอรอนด์ เป็นสารสเตอร์รอยจากธรรมชาติไม่ใช่สารสเตอรอยด์สังเคราะห์ สารสเตอรอยด์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสามารถทานได้ และไม่ก่อผลเสียต่อร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้สกัดสารสเตอรอยด์ตัวนี้จากใบหนานเฉาเหว่ยเพื่อใช้รักษาโรคเนื่องจากสารสเตอรอยด์จากธรรมชาตินั้นมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
สารอาหารในใบหนานเฉาเหว่ยมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียจึงมีฤทธิ์ในทางเป็นยาต้านไวรัสได้ อธิเช่นไวรัสในกระแสเลือด ไวรัสเอดส์ อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคทางผิวหนัง สิว อาการกลากเกลื้อน โรคเชื้อราทางผิวหนังได้ด้วย
สารอาหารในใบหนานเฉาเหว่ยมีส่วนช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้เนื่องจากสารอาหารในใบหนานเฉาเหว่ยมีช่วยไปบำรุงตับ และไต ช่วยฟื้นฟูให้เซลล์ตับและไต แข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นฟูเบต้าเซลล์ในตับซึ่งมีส่วนทำให้การขับล้างสารพิษในร่างกายดีขึ้น เมื่อตับและไตแข็งแรงขึ้นจึงส่งผลให้ร่างกายมีการดูดซึมน้ำตาลไปใช้ได้ดีขึ้น และส่งผลให้อาการเบาหวานทุเลาลงได้
สารอาหารในใบหนานเฉาเหว่ยช่วยลดความดันสูง โดยเฉพาะสารซาโปนินช่วยลดการดูดซึมคลอเรสเทอรอลในลำไส้เล็กจึงส่งผลให้ปริมาณไขมันร้ายที่ไปเกาะตามผนังหลอดเลือดลดการเพิ่มขึ้นมาใหม่
สรรพคุณของหนานเฉาเหว่ย
ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำนมในแม่ที่ให้นมบุตร , แก้ไอ สารอาหารในใบหนาเฉาเหว่ยช่วยไม่ให้คอหรือทางเดินหายใจระคายเคือง , ช่วยล้างสารพิษ หรือช่วยดีทอกซ์ร่างกาย , ช่วยรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี , ช่วยบำรุงและฟื้นฟู ตับและไตให้กลับมาทำงานที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้ , ช่วยรักษาโรคติดเชื้อปรสิตในลำไส้(มีฤทธิ์เป็นยาถ่ายพยาธิใส้เดือน) , ช่วยในการหดตัวของมดลูกสำหรับผู้หญิงที่คลอดลูก , ช่วยลดอาการอักเสบของเหงือก ลดอาการปวดฟัน มีฤทธิ์เป็นยาต้านไวรัส ลดไข้ บรรเทาปวด , ทางสหรัฐนำใบหนานเฉาเหว่ยไปสกัดเพื่อผลิตยาป้องกันโรคหอบหืด , ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ,ป้องกันโรคอัลไซม์เมอร์ , ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ , ช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหารไม่ย่อย , บรรเทาโรคริดสีดวง , ลดไข้ บรรเทาอาการไข้มาลาเรีย , บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากโรคเก๊า ต้านการอักเสบภายในร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการเมื่อยล้า
ต้นป่าช้าเหงา หรือ ป่าเฮี่ยวเหงา
เป็นต้นไม้ที่เด่นดังโดยไม่ตั้งใจ แม้ว่าชื่อจะฟังไม่ไพเราะ แต่ก็มีความหมายเป็นมงคลกับคนที่ยังไม่ตาย ชื่อพืชชนิดนี้ วนเวียนแถวๆ ป่าช้า เพราะคำว่า ป่าช้าเหงา ก็หมายถึงไม่มีคนตายเข้าป่าช้า คำว่า “ป่าเฮี่ยว” ก็เป็นภาษาล้านนา และไทใหญ่ แปลว่า ป่าช้าเช่นกัน และสำหรับคนจีนจะรู้จักในชื่อ หนานเฉาเหว่ย เป็นอย่างดี สำหรับ 3 จังหวัดภาคใต้ก็เรียกผมว่า บิสมิลลาฮ (เป็นภาษาอาหรับ)
ชาวโลกรู้จักพืชชนิดนี้ตั้งแต่ แอฟริกา ที่เค้าใช้กินเป็นผักและใช้รักษาโรคมาเลเรีย, ที่อเมริกาก็ขายเป็นยาเพิ่มภูมิคุ้มกัน เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม เบาหวาน และต่อมลูกหมาก รวมทั้งควบคุมน้ำตาล ที่พม่าและมาเลเซียก็รู้จัก แต่ดังจากเมืองจีนก่อนจะมาดังในเมืองไทยไม่นาน แม้ว่าก่อนหน้านี้มีแต่พ่อหมอไทใหญ่เขาใช้แก้โหลง คือ ยาแก้พิษ สำหรับชาวกะเหรี่ยงจะใช้เป็นยาแก้หวัด และเรียกยาแก้ขม ทั้งๆ ที่ใบขมมากๆ ส่วนตำหรับยาล้านนาใช้รักษาโรคเรื้อรังที่เรียกว่า โรคสาน คือโรคที่มีก้อนเนื้อผิดปกติรวมทั้งฝีต่างๆ และโรคขาง คือแผลเปื่อยเรื้อรังตามอวัยวะต่างๆ
ภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่สุดที่พืชชนิดนี้ ถูกจัดเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมาก เพราะตั้งแต่ปี 2547 ที่ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จัดทำโครงการ “ชลอวัยไกลโรค” ได้สืบหาสมุนไพรสำหรับผู้สูงอายุ ก็ได้พบที่ “บ้านสามขา” จังหวัดลำปาง เริ่มวิจัย จัดทำข้อมูล สรรพคุณพบว่า ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายโดยอัลฟาท็อกซิน ป้องกันสารพิษไม่ให้ตับเสียจากเบาหวาน และไตวาย
สุภาษิต “ขมเป็นยา” ใช้ได้ตรงกับพืชชนิดนี้ เคี้ยวใบสดก็ขม แต่หลังจากอมแล้วกลืนจะรู้สึกหวานคอ แต่ถ้าหากใช้ใบสด 4-5 ใบ ต้มน้ำดื่มก่อนอาหาร 3 เวลา หรือตากใบแห้งทำเป็นผงชาชงก็ลดความขมได้ รับรอง เก๊าต์ เบาหวาน ความดัน ไม่เข้ามาใกล้เลย
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก คุณ เมย์วิสาข์ เผยแพร่ วันที่ 11 ตุลาคม 2559 ทางเว็ป technologychaoban.com
หนานเฉาเหว่ย มีชื่อที่คนไทยใหญ่นิยมเรียกกันว่า “ยาแก้นางหนุ่ม” อันมีความหมายว่าเป็นพืชสมุนไพรที่เมื่อทานแล้วจะมีร่างกายกลับเข้าสู่วัยที่แข็งแรงไม่ต้องทนกับอาการเจ็บปวดเมื่อยล้าจึงเปรียบเสมือนได้ย้อนวัยจากวัยชรากลับคืนมาสู่วัยหนุ่มสาวอีกครั้ง
ข้อควรระวัง หนานเฉาเหว่ยมีสรรพคุณลดอาการเบาหวานและความดันสูง ควรระมัดระวังในการใช้สำหรับผู้ป่วยความดันต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ หนานเฉาเหว่ยเมื่อทานแล้วมีผลทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรทานพร้อมอาหารที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบเร็ว หากทานกาแฟหรือแอลกอลฮอล์ควรเว้นเวลาทานชา3-4ชั่วโมง
วิธีรับประทาน ชาหนานเฉาเหว่ย 1 ซองชง แช่ในน้ำร้อน 200-500 ml.(หากไม่ชอบขมควรเพิ่มปริมาณน้ำชงให้น้ำชามีสีอ่อนทีสุด) ใช้จิบเป็นน้ำชาระหว่างวัน 1-2 แก้วต่อวัน เพื่อบำรุงร่างกายและลดน้ำตาลในเลือด
หากต้องการทานเพื่อลดไข้บรรเทาอาการปวดเมื่อย สามารถ ชงทาน 2-3 แก้วต่อวัน (ทั้งนี้ควรระมัดระวังไม่ทานยาลดน้ำตาลในเลือดร่วมด้วยเพราะอาจมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเร็วเกินไป) การชงทานก่อนอาหารจะทำให้การดูดซึมของชาดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
ผลิตและจำหน่ายโดย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรักษ์สมุนไพร อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ www.chadowincatoyou.com โทร.086 310 3245 ID LINE0863103245