เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะ เลือดแรด เมล็ดละ1บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทางสรรพคุณของหันลัด
เปลือกใช้ดองกับเหล้าเป็นยาชูกำลัง (เปลือก)
ตำรายาไทยจะใช้น้ำมันที่บีบได้จากเมล็ดเป็นยารักษาโรคผิวหนังและหิด โดยสารที่ออกฤทธิ์คือสาร benzyl benzoate
ข้อควรระวัง : เมล็ดมีสารทำให้เบื่อเมา ห้ามนำมารับประทาน
ประโยชน์ของหันลัด
น้ำมันจากเมล็ดใช้ทำเป็นสบู่ยา
เนื้อไม้ของต้นหันสามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างภายในอาคารของบ้านเรือนได้
ผลใช้เป็นอาหารของสัตว์ป่า (สารานุกรมความหลากหลายทางชีวภาพตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง (มัณฑนา นวลเจริญ))
คำสำคัญ: ชาสมุนไพร
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายต้นละ50ส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09และทางสวนยังมีพันธุ์ไม้อื่นๆอีกมากมายเช่นประดู่ป่า ประดู่บ้าน ประดู่แดง ประดู่ลาย พยอม พยุง สักทอง คงคาเดือด ทิ้งถ่อน หลุมพอ ตะเคียนทอง กระพี้จั่น กระพี้เขาควาย สาธร ชิงชัน จิก เต็ง รังไม้แดง ยมหิน ยมหอม ตะโก ตะกรูยักษ์ ธนนไชย หันเลือด ต้นใบหมี่ กระเจียน กรวยป่า ขันทองพยาบาท มะม่วงหัวแมงวัน ดองดึง นนทรีบ้าน นนทรีป่า อราง สะแกนา ต้นหูลิง ต้นแฟบ ลำพู ลำแพน ลำดวน แหนนา สกุณี ขะเจาะน้ำ มะค่าโมง มะค่าแต้ ยางนา สะแบ ยางกราด ต้นชาติ ยางเหียน ต้นกรุง ยางพลวง ยางพารา ต้นพันชาด ต้นซาก ต้นฉนวนเงินฉนวนทอง ไม้แดง เขลง นางดำ หมากเค็ง บักยาง บักต้องแล่ง หมากเล็บแมว เล็บเหยี่ยว หวาย ตะคร้อ มะหาด มะตาด มะริด มะเกลือ มะหวด ปักหุดข่า ขนุนป่า หว้าเล็ก หว้ายักษ์ นมวัว ปักผีผ่วน สะเดาช้าง สะเดาบ้าน สะเดาดำ สะเดาทวาย มะกล่ำต้น มะกล่ำตาหนู พฤกษ์ อีซึก พิลังกาสา ต้นเลี่ยน ต้นกุ่มบก กระถินเทพา กระถินณรงค์ กระถินเกษตร สารภี กระทิง ดอกคำใต้ กันเกรา กระดิ่งนางฟ้า น้ำเต้าอินเดีย หมากเม่าหลวง เม่าไข่ปลา สาละลังกา จามจุรี ก้ามปู ฝาง ต้นคาง ต้นฮาง ลูกหยี๋ปักใต้ หมุยปักใต้ ลูกปุยปักใต้ ลูกกอปักใต้ กอเดือย กอหนาม กอแจง กอขี้หมู ส้มป่อย ลูกเนียงทวาย กฤษณา มะตูมไทย มะตูมแขก มะขวิด มะสัง ลูกอินจันทร์ สัตยบัน ตะแบก อินทนิลม่วง อินทนิลชมพู เสลา สำรอง สำโรง หมากค้อ สมอไทย ชะมวง ชำมะเรียง ไข่เน่า คอแลนด์ หมากแงว หมากเหลี่ยม หมากบก กะบก หมากพอก มะกอกป่า มะกอกน้ำ มะกอกฝรั่ง สีเสียด การบูร กานพลู อบเชย ล่ำซำ การเวก จิกเศรษฐี จิกทะเล จิกมุจะรินทร์ จิกน้ำ มะริด หมากหม้อ สัตยาบัน หูกวาง หูกระจง หูกระจงด่าง น้ำเต้าอินเดีย น้ำเต้าต้น กัลปพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ กาฬพฤกษ์ ราชพฤกษ์ รัตนพฤกษ์ สุวรรณพฤกษ์ คูนเหลือง คูนขาว คูนชมพู คูนสายรุ่ง คูนม่วง คูนส้ม คูนแดงคูนสองสี คูนสามสี คูนแฟนซี เหลืองปรีดียาธร เหลืองเชียงราย พิกุลทองลำดวน ทองอุไรเหลือง ทองอุไรส้ม แฮปปี้แนส ทองอุไรชทพู ช้อนเงินช้อนทอง กระดิ่งนางฟ้า ศรีตรัง จำปี จำปา จำปาทอง แคแสด แคนา แคขาว แคแดง ปีบ กาสะลอง ปีบทอง กาสะลองคำ ปีบยูนาน ชมพูพันทิพย์ สุพรรณิกา ฝ้ายคำ คลอเดียร์หนานแดง มิกกี้เมาส์ เทียนหยด โมกมันดอกแก้ว ทองหลางดอกแดง มโนรมย์ พุดตาล พุดซ้อน พุดพิชญ์ญา พุดด้ง หนำเลี้ยบ ตีนเป็ดน้ำ ตีนเป็ดน้ำแดง ตีนเป็ดน้ำดอกหอม สบันงา กระดังงาสงขลา หางนกยูงฝรั่งสีแดง หางนกยูงฝรั่งสีเหลืองหางนกยูงไทยสีแดง หางนกยูงไทยเหลือง หางนกยูงไทยชมพู กาหลง นางพญากาหลง ชงโค ขี้เหล็กหวาน ขี้เหล็กบ้าน โพธิ์ ศรีมหาโพธิ ต้นไกร ต้นเลียบ ต้นกร่าง ต้นนิโคล ต้นมะม่วงหัวแมงวัน ไทรใบแหลม ไทรย้อย ยูคาลิปตัส เบาบับ แกรนด์เบาบับ โพนี่เบาบับ ออสเตรเลียเบาบับ อาฟริกาเบาบับ สตอข้าว สตอดาน แอ๊ปเปิ้ลแดง แอ๊ปเปิ้ลสตาร์ พลับ พลับอินเดีย ลูกไหน พลัม เกาลัดไทย เกาลัดจีน มะขามเปรี้ยว มะขามเนื้อแดงทับทิมสยาม มะขามเปรี้ยวยักษ์ มะขามหวานสีชมพู มะขามเทศ มะขามเทศพันธุ์ชมพู มะขามป้อมยักษ์ มะขามป้อมพื้นบ้าน มะยมบ้านมะยมแดง มะยมดำ ตะลิงปริง มะดัน เชอรี่แดง มิราเคิล มหัศจรรย์ มะเฟืองหวาน กระท้อนพื้นบ้าน กระท้อนหวานปุยฝ้าย น้อยโหน่ง น้อยหน่าฝ้ายเกษตร น้อยหน่าหนังเพชรปากช่อง น้อยหน่าเครือสีแดง น้อยหน่าเครือสีเขียว มะม่วงเบาใต้ มะมุดม่วง มะม่วงอกร่อง เขียวเสวย ขายตึก มหาชนก เขียวใหญ่ งาช้างแดง กุ้ยเฟย น้ำดอกไม้ม่วง น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้มัน ฟ้าลั่น มะม่วงแก้วไทย แก้วเขมร แก้วโบราณ มันสารยา แดงจักพรรด์ สามฤดูมัน มันขุนศรี งาช้างแดง มะม่วงหิมพานต์มะม่วงหาวมะนาวโห่ มหัสจรรย์ อโวคาโด้ อินทผาลัมทานผล ลิ้นจี่ทวาย ลิ้นจี่จักพรรดิ์ ลำใยพวงทอง ลำใยอีดอ ลำใยคลิสตัส ชมพู่พลาสติกสีแดง ชมพู่พลาสติกสีขาว ชมพู่สาแหรก ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่ทับทิมจันทร์ ชมพู่สตอว์บอรี่ใต้หวัน ละมุดกลมสาลี่ยักษ์ ละมุดกระสวยมาเลย์ มะเดื่อฝรั่ง มะไฟเหรียญทอง มะไฟข้าวเหนี๋ยวดำ มะไฟแดง มะไฟสีชมพู มะไฟด่าง ละไมหวาน มะยงชิดทูลเกล้า มะปรางหวานไข่ไก่ ส้มโอแดงเวียดนาม ส้มโอทับทิมสยาม ส้มโอทองดี พรุทธาพื้นบ้าน พรุทธาสามรส พรุทธาจีน พุทธาช็อกโกแลตมะรุมพื้นบ้าน มะรุมเนื้อ มะรุมยักษ์ ทับทิมแดงมารวย ทับทิมจีน ทับทิมมรกต ขนุนบ้าน ขนุนป่า ขนุนทองประเสริฐขนุนแดงสุริยา ขนุนเพชรราชา ขนุนเพชรดำรงค์ ขนุนทวายปีเดียว ขนุนจำปาหวานกรอบ ขนุนปิยะมาดา ขนุนสีทอง มารัง ขนุนสีขาว จำปาดะสายน้ำผึ้ง จำปาดะทองเกษตร จำปาดะขวัญสตูล จำปาดะไร้เมล็ด จำปาดะหอมนวล สาเกข้าวเหนี๋ยว สาเกข้าวเจ้า ตะขบฝรั่ง ตะขบป่า ตะขบยักษ์ไร้หนาม ฝักหวานป่า ผักหวานบ้านผักแม็ก ผักติ้ว ต้นมันปู ผักเหลี๋ยง มะดัน มะกรูด ส้มจี๊ด ส้มเช้ง ส้มเช้งด่าง ส้มเขียวหวาน มะนาวแป้น มะนาวไข่ มะนาวไร้เมล็ด มะนาวทูลเกล้าฯ มะนาวตาฮิติ มะพร้าวแกง มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวน้ำหวาน มะพร้าวสีทอง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งแดงทับทิมสยาม ฝรั่งกิมจู ฝรั่งหวานพิรุณ ทุเรียนเทศ ทุเรียนแดงอินโด ทุเรียนมูชานคิง ทุเรียนกระดุม ทุเรียนนกกระจิบ ทุเรียนพวงมะณี ทุเรียนชนีุ ทุเรียนหมอนทอง ทุเรียนหลงลับแล เงาะลิ้นจี่ เงาะปูลาซัน เงาะสีทอง เงาะโรงเรียน เงาะสีชมพู มังคุด ลองกอง และพันธุ์ไม้อื่นๆอีกมากมาย
ราคา 50.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายต้นละ50ส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09และทางสวนยังมีพันธุ์ไม้อื่นๆอีกมากมายเช่นประดู่ป่า ประดู่บ้าน ประดู่แดง ประดู่ลาย พยอม พยุง สักทอง คงคาเดือด ทิ้งถ่อน หลุมพอ ตะเคียนทอง กระพี้จั่น กระพี้เขาควาย สาธร ชิงชัน จิก เต็ง รังไม้แดง ยมหิน ยมหอม ตะโก ตะกรูยักษ์ ธนนไชย หันเลือด ต้นใบหมี่ กระเจียน กรวยป่า ขันทองพยาบาท มะม่วงหัวแมงวัน ดองดึง นนทรีบ้าน นนทรีป่า อราง สะแกนา ต้นหูลิง ต้นแฟบ ลำพู ลำแพน ลำดวน แหนนา สกุณี ขะเจาะน้ำ มะค่าโมง มะค่าแต้ ยางนา สะแบ ยางกราด ต้นชาติ ยางเหียน ต้นกรุง ยางพลวง ยางพารา ต้นพันชาด ต้นซาก ต้นฉนวนเงินฉนวนทอง ไม้แดง เขลง นางดำ หมากเค็ง บักยาง บักต้องแล่ง หมากเล็บแมว เล็บเหยี่ยว หวาย ตะคร้อ มะหาด มะตาด มะริด มะเกลือ มะหวด ปักหุดข่า ขนุนป่า หว้าเล็ก หว้ายักษ์ นมวัว ปักผีผ่วน สะเดาช้าง สะเดาบ้าน สะเดาดำ สะเดาทวาย มะกล่ำต้น มะกล่ำตาหนู พฤกษ์ อีซึก พิลังกาสา ต้นเลี่ยน ต้นกุ่มบก กระถินเทพา กระถินณรงค์ กระถินเกษตร สารภี กระทิง ดอกคำใต้ กันเกรา กระดิ่งนางฟ้า น้ำเต้าอินเดีย หมากเม่าหลวง เม่าไข่ปลา สาละลังกา จามจุรี ก้ามปู ฝาง ต้นคาง ต้นฮาง ลูกหยี๋ปักใต้ หมุยปักใต้ ลูกปุยปักใต้ ลูกกอปักใต้ กอเดือย กอหนาม กอแจง กอขี้หมู ส้มป่อย ลูกเนียงทวาย กฤษณา มะตูมไทย มะตูมแขก มะขวิด มะสัง ลูกอินจันทร์ สัตยบัน ตะแบก อินทนิลม่วง อินทนิลชมพู เสลา สำรอง สำโรง หมากค้อ สมอไทย ชะมวง ชำมะเรียง ไข่เน่า คอแลนด์ หมากแงว หมากเหลี่ยม หมากบก กะบก หมากพอก มะกอกป่า มะกอกน้ำ มะกอกฝรั่ง สีเสียด การบูร กานพลู อบเชย ล่ำซำ การเวก จิกเศรษฐี จิกทะเล จิกมุจะรินทร์ จิกน้ำ มะริด หมากหม้อ สัตยาบัน หูกวาง หูกระจง หูกระจงด่าง น้ำเต้าอินเดีย น้ำเต้าต้น กัลปพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ กาฬพฤกษ์ ราชพฤกษ์ รัตนพฤกษ์ สุวรรณพฤกษ์ คูนเหลือง คูนขาว คูนชมพู คูนสายรุ่ง คูนม่วง คูนส้ม คูนแดงคูนสองสี คูนสามสี คูนแฟนซี เหลืองปรีดียาธร เหลืองเชียงราย พิกุลทองลำดวน ทองอุไรเหลือง ทองอุไรส้ม แฮปปี้แนส ทองอุไรชทพู ช้อนเงินช้อนทอง กระดิ่งนางฟ้า ศรีตรัง จำปี จำปา จำปาทอง แคแสด แคนา แคขาว แคแดง ปีบ กาสะลอง ปีบทอง กาสะลองคำ ปีบยูนาน ชมพูพันทิพย์ สุพรรณิกา ฝ้ายคำ คลอเดียร์หนานแดง มิกกี้เมาส์ เทียนหยด โมกมันดอกแก้ว ทองหลางดอกแดง มโนรมย์ พุดตาล พุดซ้อน พุดพิชญ์ญา พุดด้ง หนำเลี้ยบ ตีนเป็ดน้ำ ตีนเป็ดน้ำแดง ตีนเป็ดน้ำดอกหอม สบันงา กระดังงาสงขลา หางนกยูงฝรั่งสีแดง หางนกยูงฝรั่งสีเหลืองหางนกยูงไทยสีแดง หางนกยูงไทยเหลือง หางนกยูงไทยชมพู กาหลง นางพญากาหลง ชงโค ขี้เหล็กหวาน ขี้เหล็กบ้าน โพธิ์ ศรีมหาโพธิ ต้นไกร ต้นเลียบ ต้นกร่าง ต้นนิโคล ต้นมะม่วงหัวแมงวัน ไทรใบแหลม ไทรย้อย ยูคาลิปตัส เบาบับ แกรนด์เบาบับ โพนี่เบาบับ ออสเตรเลียเบาบับ อาฟริกาเบาบับ สตอข้าว สตอดาน แอ๊ปเปิ้ลแดง แอ๊ปเปิ้ลสตาร์ พลับ พลับอินเดีย ลูกไหน พลัม เกาลัดไทย เกาลัดจีน มะขามเปรี้ยว มะขามเนื้อแดงทับทิมสยาม มะขามเปรี้ยวยักษ์ มะขามหวานสีชมพู มะขามเทศ มะขามเทศพันธุ์ชมพู มะขามป้อมยักษ์ มะขามป้อมพื้นบ้าน มะยมบ้านมะยมแดง มะยมดำ ตะลิงปริง มะดัน เชอรี่แดง มิราเคิล มหัศจรรย์ มะเฟืองหวาน กระท้อนพื้นบ้าน กระท้อนหวานปุยฝ้าย น้อยโหน่ง น้อยหน่าฝ้ายเกษตร น้อยหน่าหนังเพชรปากช่อง น้อยหน่าเครือสีแดง น้อยหน่าเครือสีเขียว มะม่วงเบาใต้ มะมุดม่วง มะม่วงอกร่อง เขียวเสวย ขายตึก มหาชนก เขียวใหญ่ งาช้างแดง กุ้ยเฟย น้ำดอกไม้ม่วง น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้มัน ฟ้าลั่น มะม่วงแก้วไทย แก้วเขมร แก้วโบราณ มันสารยา แดงจักพรรด์ สามฤดูมัน มันขุนศรี งาช้างแดง มะม่วงหิมพานต์มะม่วงหาวมะนาวโห่ มหัสจรรย์ อโวคาโด้ อินทผาลัมทานผล ลิ้นจี่ทวาย ลิ้นจี่จักพรรดิ์ ลำใยพวงทอง ลำใยอีดอ ลำใยคลิสตัส ชมพู่พลาสติกสีแดง ชมพู่พลาสติกสีขาว ชมพู่สาแหรก ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่ทับทิมจันทร์ ชมพู่สตอว์บอรี่ใต้หวัน ละมุดกลมสาลี่ยักษ์ ละมุดกระสวยมาเลย์ มะเดื่อฝรั่ง มะไฟเหรียญทอง มะไฟข้าวเหนี๋ยวดำ มะไฟแดง มะไฟสีชมพู มะไฟด่าง ละไมหวาน มะยงชิดทูลเกล้า มะปรางหวานไข่ไก่ ส้มโอแดงเวียดนาม ส้มโอทับทิมสยาม ส้มโอทองดี พรุทธาพื้นบ้าน พรุทธาสามรส พรุทธาจีน พุทธาช็อกโกแลตมะรุมพื้นบ้าน มะรุมเนื้อ มะรุมยักษ์ ทับทิมแดงมารวย ทับทิมจีน ทับทิมมรกต ขนุนบ้าน ขนุนป่า ขนุนทองประเสริฐขนุนแดงสุริยา ขนุนเพชรราชา ขนุนเพชรดำรงค์ ขนุนทวายปีเดียว ขนุนจำปาหวานกรอบ ขนุนปิยะมาดา ขนุนสีทอง มารัง ขนุนสีขาว จำปาดะสายน้ำผึ้ง จำปาดะทองเกษตร จำปาดะขวัญสตูล จำปาดะไร้เมล็ด จำปาดะหอมนวล สาเกข้าวเหนี๋ยว สาเกข้าวเจ้า ตะขบฝรั่ง ตะขบป่า ตะขบยักษ์ไร้หนาม ฝักหวานป่า ผักหวานบ้านผักแม็ก ผักติ้ว ต้นมันปู ผักเหลี๋ยง มะดัน มะกรูด ส้มจี๊ด ส้มเช้ง ส้มเช้งด่าง ส้มเขียวหวาน มะนาวแป้น มะนาวไข่ มะนาวไร้เมล็ด มะนาวทูลเกล้าฯ มะนาวตาฮิติ มะพร้าวแกง มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวน้ำหวาน มะพร้าวสีทอง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งแดงทับทิมสยาม ฝรั่งกิมจู ฝรั่งหวานพิรุณ ทุเรียนเทศ ทุเรียนแดงอินโด ทุเรียนมูชานคิง ทุเรียนกระดุม ทุเรียนนกกระจิบ ทุเรียนพวงมะณี ทุเรียนชนีุ ทุเรียนหมอนทอง ทุเรียนหลงลับแล เงาะลิ้นจี่ เงาะปูลาซัน เงาะสีทอง เงาะโรงเรียน เงาะสีชมพู มังคุด ลองกอง และพันธุ์ไม้อื่นๆอีกมากมาย
ราคา 50.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
กกละ100บาทสนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีaungsara09
ราคา 100.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะเพี้ยฟาน เมล็ดละ1บาทสนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีaungsara09.เพี้ยฟาน เป็นชื่อต้นไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ที่ชาวบ้านนิยมนำยอดอ่อนมากินเป็นผักแกล้มลาบ ยำ ส้า ให้รสชาติขมกลมกล่อม หรือรสขมอมหวาน ใช้ใบยอดอ่อนสดมาเป็นผักแกล้ม หรือบางทีที่ต้องการลดความขมลงบ้าง ก็ใช้วิธีเผาลวกไฟเล็กน้อย นำมาเป็นผักแกล้มลาบ ยำเนื้อวัว เนื้อควาย ปลา หรือเนื้อสัตว์ป่า เช่น เก้ง หรือฟาน กระต่าย กระรอก กระแต หมูป่า เสือดำ ฯลฯ โดยเฉพาะคอสุราที่นิยมชื่นชอบลาบขมทั้งหลาย รวมทั้งผู้สูงวัย แบบว่าเข้าตำรา ชอบของขม
เพี้ยฟาน เป็นพืชในวงศ์ ARALIACEAE
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macropanax dispermus ktze.
มีชื่อภาษาไทยทางภาคเหนือเรียก “เพี้ยฟาน” หรือ “ขี้ฮอก” หรือ “เหมือดหม่น” หรือ “เฮือดหม่น” ภาคกลางเรียก “ต่อไส้” หรือ “สันโสก” หรือ “ระงับพิษ” คนอีสานเรียก “หัสคุณเทศ” หรือ “สมัคน้อย” หรือ “สมัคขาว” เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 50-150 เซนติเมตร
ลำต้นสีเขียว ผิวเปลือกต้นเรียบ แตกกิ่งก้านสลับกัน ใบจะแตกออกจากกิ่งสลับกัน เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยออกตามแกนใบตรงข้ามกัน ประมาณ 7-11 คู่ ใบย่อยรูปร่างกลมรี ใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-4 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลมคล้ายใบผักหวานบ้าน ก้านใบยอดมีสีแดงคล้ำ มองเห็นสีสันชัดเจน สวยสง่าน่าเกรงขาม
ดอกออกเป็นช่อ ดอกบานสีเขียวอมม่วง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ปลูกขยายได้ด้วยวิธีแยกหน่อ ปักชำกิ่ง ชำราก ชำยอด เจริญเติบโตได้ง่ายและโตเร็ว โดยเฉพาะฤดูฝน มีพบในป่าละเมาะ ชาวบ้านนิยมนำมาปลูกข้างรั้วบ้าน แต่ยังไม่เคยพบเห็นนำมาขายตามท้องตลาด คงเป็นเพราะยังไม่เป็นพืชในความนิยมแพร่หลายมากนัก หรือมีคนส่วนน้อยที่เป็นคนชอบของขม ชื่นชอบรสชาติของเพี้ยฟาน หรืออาจจะเป็นเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักกันก็เป็นได้
ผักชนิดนี้นับวันจะหายากขึ้นทุกที ด้วยเหตุว่าความนิยมไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก มีหลายคนเจอใบพืชที่มีรสขมหลายอย่าง ก็เรียกว่าเพี้ยฟานไปด้วย ทำให้ความชัดเจนของผักเพี้ยฟาน กลายเป็นผักนอกตำราไปเสีย ทำให้เป็นผักที่ด้อยค่าราคาน้อย มีบันทึกว่าเพี้ยฟานเป็นพืชสมุนไพร เป็นยาพื้นบ้าน มีสรรพคุณบ่งบอกว่า นอกจากจะใช้ยอดอ่อนเป็นผักกับแกล้มลาบขม ยำ ส้าเนื้อ ชาวบ้านมีวิธีการลดความขม โดยการลวกเปลวไฟ ย่างไฟแรงๆ หรือกินสดเอาความขมเพรียวๆ ก็มี ชาวม้งกินแก้ท้องผูก
หมอชาวบ้าน โดยเฉพาะหมอชาวเผ่าชาวเขาต่างๆ ทั้งกะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ ใช้ต้นเพี้ยฟานทั้งต้น ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน กำจัดเหา ไร รักษาแผลเปื่อย แผลจากการคันและเกา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาบแก้วิงเวียนศีรษะ ดื่มแก้สรรพพิษต่างๆ อาบแก้ไข้ ไม่สบาย โดยเฉพาะหญิงหลังคลอด ตำพอกแผลแก้อาการอักเสบ ช้ำบวมจากไฟ น้ำร้อนลวก เปลือกต้นมีสรรพคุณ มีสารต้านพิษที่จะทำลายตับ ต้านอาการปวดอักเสบ ใบและส่วนทั้งห้า แก้ไข้มาลาเรีย วัณโรค ห้ามเลือด ฆ่าเชื้อโรค รักษาโรคผิวหนัง
แม้แต่นำมาใช้เป็นน้ำยาอาบกำจัดไรให้ไก่ และเชื่อแน่ว่าสักวันหนึ่งคงมีการวิจัยค้นพบสรรพคุณทางยาใหม่ๆ ออกมาได้อีกแน่ ซึ่งก็เหมือนผักที่มีรสขมทั่วไป ล้วนแต่มีสารที่มีรสขม ส่วนใหญ่แล้วผักที่มีรสขมมักจะเป็นยาที่หมอพื้นบ้านของเรานำมารักษาโรคต่างๆ หรือใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เหมือนโบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา
ให้เป็นข้อสังเกตไว้ เพี้ยฟาน ทางภาคกลางเรียก “ต่อไส้” มีความหมายเป็นนัยสำคัญถึงความอยู่รอด คือการประทังชีวิตให้ยืนยาวต่อไปอีกชั่วระยะหนึ่ง หรือต่ออายุ ทำให้กินอาหาร และมีอาหารกิน สิ่งนั้นคงหมายถึง เป็นยารักษาชีวิตได้อย่างแน่แท้
ผักพื้นบ้านโดยตัวของมันเอง มีคุณค่าในการสร้างภูมิคุ้มกัน คุณค่าที่สำคัญของผักพื้นบ้านต่างๆ คือมีเส้นใยอาหาร (Fiber) เป็นโครงสร้างของผัก ที่มีมากที่เปลือก ใบ และก้าน ร่างกายเราไม่สามารถย่อยได้ ทำให้เหลือกาก ช่วยให้ลำไส้ใหญ่ทำงาน บีบตัวขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ช่วยป้องกันโรคท้องผูกได้ เส้นใยอาหารยังช่วยจับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และขับถ่ายออกมาจากร่างกายพร้อมกับของเสีย เส้นใยอาหารช่วยให้อาหารผ่านจากปากถึงทวารหนักเร็วขึ้น ทำให้เวลาที่เยื่อบุลำไส้เล็ก จะสัมผัสกับสารพิษที่ปะปนมากับอาหารมีน้อยลง โอกาสที่สารพิษจะมีผลกระทบต่อเรามีน้อยลง โรคภัยไข้เจ็บจึงเกิดได้ไม่มากนัก
เชื่อเหลือเกินว่า ประโยชน์ของผักที่มีต่อร่างกาย ซึ่งถึงแม้ผักบางอย่างยังไม่มีผลวิจัยสรรพคุณมาเป็นหลักฐานอ้างอิง ว่ามีสารหรือมีธาตุอาหารใด ที่ช่วยบำรุงร่างกาย หรือรักษาโรคได้ โดยมวลรวมแล้วเชื่อได้เลยว่า ผักเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะผักที่มีรสขม เป็นยาแน่นอน
ผักที่มีรสขม จะเป็นยาแก้โลหิตเป็นพิษ ดีพิการ เพ้อคลั่ง แต่ถ้ารับประทานเข้าร่างกายมากๆ จะทำให้กำลังตก อ่อนเพลีย อาหารรสขมเหมาะสำหรับคนที่มีธาตุน้ำ (เสมหะธาตุ) เป็นธาตุเจ้าเรือน และคนธาตุไฟ (ปิตตะธาตุ) เป็นธาตุเจ้าเรือน ซึ่งธาตุเจ้าเรือนของคนเรานั้น จะเป็นแหล่งกำเนิดโรคของคนนั้นๆ
ถ้ากินผักที่มีรสขม จะช่วยรักษาแก้ไขโรคที่จะเกิดขึ้นได้ ผักที่มีรสขมต่างๆ นอกจากเพี้ยฟาน หรือบางทีเรียก เพลี้ยฟาน แล้วยังมีผักเพกา สะเดา มะระขี้นก ยอดหวาย ยอดกระพ้อ ดอกยอดขี้เหล็ก ยอดมะเฟือง ผักแปม ยอดทับทิม ยอดฟักข้าว มะแว้งต้น มะแว้งเครือ ผักฮ้วนหมู มะเขือขื่น ใบยอ ผักดีด ผักโขม ผักคะนองม้า ผักกาดแม้ว ผักกาดขิ่ว (ขม) ฯลฯ
พืชผักที่มีรสขมที่เป็นสมุนไพร และยอมรับกันแพร่หลาย คือ ฟ้าทลายโจร มะแว้ง ผักรสขมเหมาะสำหรับฤดูหนาว คนธาตุน้ำ มักจะเจ็บป่วยมากกว่าธาตุอื่น ผิวแห้ง มึนศีรษะ น้ำมูกไหล เคล็ดขัดยอก ขยับเขยื้อนร่างกายไม่สะดวก ท้องอืด เพราะฉะนั้นคนธาตุน้ำในฤดูหนาวควรกินอาหารที่มีรสขม และขมเผ็ดร้อน เช่น เพี้ยฟาน พริก ผักไผ่ ผักเฮือด คนธาตุน้ำ ตำนานว่าเป็นคนที่เกิดในราศีกรกฎ ราศีพิจิก ราศีมีน ส่วนคนธาตุไฟ เกิดราศีเมษ ราศีสิงห์ ราศีธนู คนที่เกิดในราศีต่างๆ มักจะมีธาตุเจ้าเรือน เป็นผู้ควบคุมสุขภาพร่างกายอยู่ เกิดธาตุน้ำ ธาตุไฟ ให้หาผักเพี้ยฟาน หรือผักรสขมต่างๆ มากิน แก้ไข หรือช่วยลดผลกระทบต่อร่างกายได้
คนส่วนใหญ่ไม่นิยมชมชอบความขม เพราะกลัวความขมขื่นจะเข้ามาในชีวิตแค่นั้นเอง
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะเพี้ยฟาน เมล็ดละ1บาทสนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีaungsara09.เพี้ยฟาน เป็นชื่อต้นไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ที่ชาวบ้านนิยมนำยอดอ่อนมากินเป็นผักแกล้มลาบ ยำ ส้า ให้รสชาติขมกลมกล่อม หรือรสขมอมหวาน ใช้ใบยอดอ่อนสดมาเป็นผักแกล้ม หรือบางทีที่ต้องการลดความขมลงบ้าง ก็ใช้วิธีเผาลวกไฟเล็กน้อย นำมาเป็นผักแกล้มลาบ ยำเนื้อวัว เนื้อควาย ปลา หรือเนื้อสัตว์ป่า เช่น เก้ง หรือฟาน กระต่าย กระรอก กระแต หมูป่า เสือดำ ฯลฯ โดยเฉพาะคอสุราที่นิยมชื่นชอบลาบขมทั้งหลาย รวมทั้งผู้สูงวัย แบบว่าเข้าตำรา ชอบของขม
เพี้ยฟาน เป็นพืชในวงศ์ ARALIACEAE
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macropanax dispermus ktze.
มีชื่อภาษาไทยทางภาคเหนือเรียก “เพี้ยฟาน” หรือ “ขี้ฮอก” หรือ “เหมือดหม่น” หรือ “เฮือดหม่น” ภาคกลางเรียก “ต่อไส้” หรือ “สันโสก” หรือ “ระงับพิษ” คนอีสานเรียก “หัสคุณเทศ” หรือ “สมัคน้อย” หรือ “สมัคขาว” เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 50-150 เซนติเมตร
ลำต้นสีเขียว ผิวเปลือกต้นเรียบ แตกกิ่งก้านสลับกัน ใบจะแตกออกจากกิ่งสลับกัน เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยออกตามแกนใบตรงข้ามกัน ประมาณ 7-11 คู่ ใบย่อยรูปร่างกลมรี ใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-4 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลมคล้ายใบผักหวานบ้าน ก้านใบยอดมีสีแดงคล้ำ มองเห็นสีสันชัดเจน สวยสง่าน่าเกรงขาม
ดอกออกเป็นช่อ ดอกบานสีเขียวอมม่วง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ปลูกขยายได้ด้วยวิธีแยกหน่อ ปักชำกิ่ง ชำราก ชำยอด เจริญเติบโตได้ง่ายและโตเร็ว โดยเฉพาะฤดูฝน มีพบในป่าละเมาะ ชาวบ้านนิยมนำมาปลูกข้างรั้วบ้าน แต่ยังไม่เคยพบเห็นนำมาขายตามท้องตลาด คงเป็นเพราะยังไม่เป็นพืชในความนิยมแพร่หลายมากนัก หรือมีคนส่วนน้อยที่เป็นคนชอบของขม ชื่นชอบรสชาติของเพี้ยฟาน หรืออาจจะเป็นเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักกันก็เป็นได้
ผักชนิดนี้นับวันจะหายากขึ้นทุกที ด้วยเหตุว่าความนิยมไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก มีหลายคนเจอใบพืชที่มีรสขมหลายอย่าง ก็เรียกว่าเพี้ยฟานไปด้วย ทำให้ความชัดเจนของผักเพี้ยฟาน กลายเป็นผักนอกตำราไปเสีย ทำให้เป็นผักที่ด้อยค่าราคาน้อย มีบันทึกว่าเพี้ยฟานเป็นพืชสมุนไพร เป็นยาพื้นบ้าน มีสรรพคุณบ่งบอกว่า นอกจากจะใช้ยอดอ่อนเป็นผักกับแกล้มลาบขม ยำ ส้าเนื้อ ชาวบ้านมีวิธีการลดความขม โดยการลวกเปลวไฟ ย่างไฟแรงๆ หรือกินสดเอาความขมเพรียวๆ ก็มี ชาวม้งกินแก้ท้องผูก
หมอชาวบ้าน โดยเฉพาะหมอชาวเผ่าชาวเขาต่างๆ ทั้งกะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ ใช้ต้นเพี้ยฟานทั้งต้น ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน กำจัดเหา ไร รักษาแผลเปื่อย แผลจากการคันและเกา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาบแก้วิงเวียนศีรษะ ดื่มแก้สรรพพิษต่างๆ อาบแก้ไข้ ไม่สบาย โดยเฉพาะหญิงหลังคลอด ตำพอกแผลแก้อาการอักเสบ ช้ำบวมจากไฟ น้ำร้อนลวก เปลือกต้นมีสรรพคุณ มีสารต้านพิษที่จะทำลายตับ ต้านอาการปวดอักเสบ ใบและส่วนทั้งห้า แก้ไข้มาลาเรีย วัณโรค ห้ามเลือด ฆ่าเชื้อโรค รักษาโรคผิวหนัง
แม้แต่นำมาใช้เป็นน้ำยาอาบกำจัดไรให้ไก่ และเชื่อแน่ว่าสักวันหนึ่งคงมีการวิจัยค้นพบสรรพคุณทางยาใหม่ๆ ออกมาได้อีกแน่ ซึ่งก็เหมือนผักที่มีรสขมทั่วไป ล้วนแต่มีสารที่มีรสขม ส่วนใหญ่แล้วผักที่มีรสขมมักจะเป็นยาที่หมอพื้นบ้านของเรานำมารักษาโรคต่างๆ หรือใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เหมือนโบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา
ให้เป็นข้อสังเกตไว้ เพี้ยฟาน ทางภาคกลางเรียก “ต่อไส้” มีความหมายเป็นนัยสำคัญถึงความอยู่รอด คือการประทังชีวิตให้ยืนยาวต่อไปอีกชั่วระยะหนึ่ง หรือต่ออายุ ทำให้กินอาหาร และมีอาหารกิน สิ่งนั้นคงหมายถึง เป็นยารักษาชีวิตได้อย่างแน่แท้
ผักพื้นบ้านโดยตัวของมันเอง มีคุณค่าในการสร้างภูมิคุ้มกัน คุณค่าที่สำคัญของผักพื้นบ้านต่างๆ คือมีเส้นใยอาหาร (Fiber) เป็นโครงสร้างของผัก ที่มีมากที่เปลือก ใบ และก้าน ร่างกายเราไม่สามารถย่อยได้ ทำให้เหลือกาก ช่วยให้ลำไส้ใหญ่ทำงาน บีบตัวขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ช่วยป้องกันโรคท้องผูกได้ เส้นใยอาหารยังช่วยจับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และขับถ่ายออกมาจากร่างกายพร้อมกับของเสีย เส้นใยอาหารช่วยให้อาหารผ่านจากปากถึงทวารหนักเร็วขึ้น ทำให้เวลาที่เยื่อบุลำไส้เล็ก จะสัมผัสกับสารพิษที่ปะปนมากับอาหารมีน้อยลง โอกาสที่สารพิษจะมีผลกระทบต่อเรามีน้อยลง โรคภัยไข้เจ็บจึงเกิดได้ไม่มากนัก
เชื่อเหลือเกินว่า ประโยชน์ของผักที่มีต่อร่างกาย ซึ่งถึงแม้ผักบางอย่างยังไม่มีผลวิจัยสรรพคุณมาเป็นหลักฐานอ้างอิง ว่ามีสารหรือมีธาตุอาหารใด ที่ช่วยบำรุงร่างกาย หรือรักษาโรคได้ โดยมวลรวมแล้วเชื่อได้เลยว่า ผักเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะผักที่มีรสขม เป็นยาแน่นอน
ผักที่มีรสขม จะเป็นยาแก้โลหิตเป็นพิษ ดีพิการ เพ้อคลั่ง แต่ถ้ารับประทานเข้าร่างกายมากๆ จะทำให้กำลังตก อ่อนเพลีย อาหารรสขมเหมาะสำหรับคนที่มีธาตุน้ำ (เสมหะธาตุ) เป็นธาตุเจ้าเรือน และคนธาตุไฟ (ปิตตะธาตุ) เป็นธาตุเจ้าเรือน ซึ่งธาตุเจ้าเรือนของคนเรานั้น จะเป็นแหล่งกำเนิดโรคของคนนั้นๆ
ถ้ากินผักที่มีรสขม จะช่วยรักษาแก้ไขโรคที่จะเกิดขึ้นได้ ผักที่มีรสขมต่างๆ นอกจากเพี้ยฟาน หรือบางทีเรียก เพลี้ยฟาน แล้วยังมีผักเพกา สะเดา มะระขี้นก ยอดหวาย ยอดกระพ้อ ดอกยอดขี้เหล็ก ยอดมะเฟือง ผักแปม ยอดทับทิม ยอดฟักข้าว มะแว้งต้น มะแว้งเครือ ผักฮ้วนหมู มะเขือขื่น ใบยอ ผักดีด ผักโขม ผักคะนองม้า ผักกาดแม้ว ผักกาดขิ่ว (ขม) ฯลฯ
พืชผักที่มีรสขมที่เป็นสมุนไพร และยอมรับกันแพร่หลาย คือ ฟ้าทลายโจร มะแว้ง ผักรสขมเหมาะสำหรับฤดูหนาว คนธาตุน้ำ มักจะเจ็บป่วยมากกว่าธาตุอื่น ผิวแห้ง มึนศีรษะ น้ำมูกไหล เคล็ดขัดยอก ขยับเขยื้อนร่างกายไม่สะดวก ท้องอืด เพราะฉะนั้นคนธาตุน้ำในฤดูหนาวควรกินอาหารที่มีรสขม และขมเผ็ดร้อน เช่น เพี้ยฟาน พริก ผักไผ่ ผักเฮือด คนธาตุน้ำ ตำนานว่าเป็นคนที่เกิดในราศีกรกฎ ราศีพิจิก ราศีมีน ส่วนคนธาตุไฟ เกิดราศีเมษ ราศีสิงห์ ราศีธนู คนที่เกิดในราศีต่างๆ มักจะมีธาตุเจ้าเรือน เป็นผู้ควบคุมสุขภาพร่างกายอยู่ เกิดธาตุน้ำ ธาตุไฟ ให้หาผักเพี้ยฟาน หรือผักรสขมต่างๆ มากิน แก้ไข หรือช่วยลดผลกระทบต่อร่างกายได้
คนส่วนใหญ่ไม่นิยมชมชอบความขม เพราะกลัวความขมขื่นจะเข้ามาในชีวิตแค่นั้นเอง
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ท่อนพร้อมชำท่อนละ5บาทกกละ150สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ท่อนพร้อมชำท่อนละ5บาทกกละ150สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะ #หิ่งหายหรือรางจืดต้น เมล็ดละ1บาทสนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ “หิ่งหาย” มีสรรคุณทางยาอย่างมหาศาล คือ ราก ฝนน้ำดื่มแก้ยาพิษ ยาสั่ง ยาเมา หากเอารากไปต้มดื่มน้ำก็ขับปัสสาวะ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ยิ่งถ้าผสมเกลือเล็กน้อย และมะนาวจึงจะดีขึ้นไปอีก เป็นยาบำรุงกำลังว่ากันว่า กระตุ้นทางเพศได้ดีนักแล
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายเมล็ดพร้อมเพาะ #หิ่งหายหรือรางจืดต้น เมล็ดละ1บาทสนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ “หิ่งหาย” มีสรรคุณทางยาอย่างมหาศาล คือ ราก ฝนน้ำดื่มแก้ยาพิษ ยาสั่ง ยาเมา หากเอารากไปต้มดื่มน้ำก็ขับปัสสาวะ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ยิ่งถ้าผสมเกลือเล็กน้อย และมะนาวจึงจะดีขึ้นไปอีก เป็นยาบำรุงกำลังว่ากันว่า กระตุ้นทางเพศได้ดีนักแล
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายท่อนชำท่อนละ5บาทต้นกล้าละ50-150ตามขนาดความสูงคะส่งเคอรี่เก็บปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศ
ราคา 5.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายสมุนไพรไผ่สีทองตากแห้งกกละ200สนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณไผ่สีทอง และไผ่เหลือง ไผ่สีทอง และไผ่เหลือง นำทุกส่วนมาต้มน้ำดื่ม ส่วนหน่อใช้ประกอบอา..
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายสมุนไพรไผ่สีทองตากแห้งกกละ200จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณไผ่สีทอง และไผ่เหลือง ไผ่สีทอง และไผ่เหลือง นำทุกส่วนมาต้มน้ำดื่ม ส่วนหน่อใช้ประกอบอา..
ราคากิโลกรัมละ 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายสมุนไพรไผ่สีทองตากแห้งกกละ200สนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณไผ่สีทอง และไผ่เหลือง ไผ่สีทอง และไผ่เหลือง นำทุกส่วนมาต้มน้ำดื่ม ส่วนหน่อใช้ประกอบอาหาร
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ขายสมุนไพรไผ่สีทองตากแห้งกกละ200สนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณไผ่สีทอง และไผ่เหลือง
ไผ่สีทอง และไผ่เหลือง นำทุกส่วนมาต้มน้ำดื่ม ส่วนหน่อใช้ประกอบอาหาร มีสรรพคุณหลายด้าน ได้แก่
– ช่วยลดไข้
– ช่วยละลายเสมหะ
– รักษาโรคบิด
– แก้อาการท้องเสีย
– ช่วยขับระดู
– ช่วยขับลม
– ช่วยขับปัสสาวะ
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ครึ่งโล200สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บปลายทาง
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
กกละ250จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09
ราคา 250.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
กกละ250จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09
ราคา 250.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ครึ่งโล200สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บเงินปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09.จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณของหญ้าพันงูขาว
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงธาตุไฟ (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
ช่วยฟอกโลหิต (ทั้งต้น)[3]
ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น (ราก[4], ทั้งต้น[6],[9])
ช่วยทำให้นอนหลับ (ราก)[9]
ช่วยลดความดันโลหิต (ทั้งต้น)[6],[9]
ทั้งต้นมีรสขม เผ็ดเล็กน้อย เป็นยาเย็นจัด ออกฤทธิ์ต่อปอดและไต ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ (ทั้งต้น)[3]
ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ตรีโทษ (ทั้งต้น)[2]
ตำรับยาแก้ไข้จับสั่นหรือไข้มาลาเรีย ให้ใช้หญ้าพันงูขาวประมาณ 30-45 กรัม นำมาต้มกับเนื้อสันในของหมูรับประทาน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้จับสั่นเช่นกัน (ราก)[4]
ใช้เป็นยาแก้ไข้หวัด ลดไข้ ตัวร้อน แก้เจ็บคอ ให้ใช้หญ้าพันงูขาวนำมาต้มกับน้ำกินหรือใช้เข้ากับตำรายาอื่น (ทั้งต้น)[3],[7],[9]
ดอกใช้เป็นยาแก้และขับเสมหะ ช่วยแก้เสมหะที่คั่งค้างในทรวงอก แก้เสมหะในท้อง (ดอก)[1],[4],[9] ส่วนอีกตำรับให้ใช้รากพันงูขาว รากขัดน้อย พริก เหง้าขิง นำมาบดให้เป็นผงกินเป็นยาขับเสมหะ (ราก)[2]
ตำรายาไทยจะใช้ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินแก้โรคในลำคอ (ทั้งต้น)[2] ใบมีสรรพคุณช่วยแก้โรคในลำคอ แก้คออักเสบเป็นเม็ดยอดในคอ โรคในลำคอเป็นเม็ดเป็นตุ่ม (ใบ)[4],[9]
ผลมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ผล)[4] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าส่วนของใบมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ใบ)[9]
ช่วยแก้สะอึก (ดอก)[4],[9]
ใช้รักษาหูน้ำหนวก หรือหูชั้นกลางอักเสบ ด้วยการใช้รากสดนำมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วนำมาใช้หยอดหู (ราก)[6]
ใช้รักษาคางทูม (ทั้งต้น)[3]
ช่วยแก้คอตีบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก[6],ทั้งต้น[3])
ช่วยรักษาต่อมต่อมทอนซิลอักเสบ ด้วยการใช้รากแห้ง รากจ้ำเครือแห้ง และพิมเสน นำมาบดให้เป็นผงละเอียดใช้เป่าคอ (ราก)[6]
ในอินเดียจะใช้รักษาหญ้าพันงูขาวเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หอบ หืด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก)[6]
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับปอด ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1] แก้ปอดบวม (ทั้งต้น)[7],[9]
ช่วยแก้อาการท้องร่วง ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1]
ใช้เป็นยาแก้บิด ด้วยการใช้หญ้าพันงูขาว 50-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำชงกับน้ำผึ้งกิน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดเช่นกัน ตำรับยาก็คือ ให้ใช้รากสด รากขี้ครอก ผักกาดน้ำ และแชกัว นำมาต้มน้ำผสมกับน้ำผึ้งกิน (ราก)[4],[6]
ยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้รากนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการปวดท้อง เจ็บท้องน้อย (ราก)[2] ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ปวดท้อง (ทั้งต้น)[9]
รากนำมาต้มกับน้ำกินแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นหน้าอก (ราก)[2]
ช่วยในการย่อยอาหาร (ทั้งต้น)[4],[9]
ใช้เป็นยาระบาย ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[9]
ในบางตำราจะใช้หญ้าพันงูขาวนำมาตากแห้งต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้มะเร็งลำไส้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา และแก้นิ่ว (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2],[3],[4] ดอกมีสรรพคุณช่วยละลายก้อนนิ่ว (ดอก)[4] ส่วนรากนำมาต้มเอาแต่น้ำกินจะเป็นยาแก้นิ่ว ขับปัสสาวะได้เช่นกัน (ราก)[1],[9]
แก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ราก)[4],[6]
ช่วยแก้โรคริดสีดวงทวาร (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[4]
ช่วยรักษาโรคซิฟิลิส (ลำต้น)[1] รักษาหนองใน (ทั้งต้น)[7]
ชาวเขาจะใช้ใบหรือทั้งต้น นำมาต้มกับน้ำให้หญิงหลังคลอดกิน และยังช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย (ใบ,ทั้งต้น)[2],[4]
ต้นมีสรรพคุณช่วยขับประจำเดือน (ต้น)[4],[9] ช่วยแก้ประจำเดือนไม่มาตามปกติของสตรี (ราก)[4],[6]
ในอินเดียจะใช้หญ้าพันงูเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของสตรี และใช้เป็นยาคุมกำเนิด รวมไปถึงใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยแก้ไตอักเสบ บวมน้ำ (ทั้งต้น)[3],[6],[7],[9] ช่วยแก้ท้องมาน บวมน้ำ (ราก)[4],[6],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้โรคไตพิการ (ราก)[5]
ช่วยรักษาโรคไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย (ราก)[6]
ใบนำมาขยี้ใช้ทารักษาแผลสด และช่วยห้ามเลือด (ใบ)[8]
ใบใช้พอกแก้อาการอักเสบ ทาแก้โรคผิวหนัง ถูกตะขาบกัด (ใบ)[8]
ใช้รักษาแผลหนองบวมอักเสบ และฝี ด้วยการใช้ทั้งต้นสดนำมากับเหล้า เอาแต่น้ำมากิน ส่วนกากที่เหลือใช้เป็นยาบริเวณที่เป็น (ทั้งต้น)[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทารักษาฝี (ราก)[2] หรือจะใช้ทั้งต้นนำมาตำพอกรักษาฝีก็ได้เช่นกัน (ทั้งต้น)[2]
ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยแก้พิษฝี (ทั้งต้น)[2]
ช่วยรักษาโรคเรื้อน (ทั้งต้น)[6]
ช่วยแก้แมลงสัตว์กัดต่อย (ดอก)[4]
ช่วยแก้อาการฟกช้ำอันเกิดจากการกระทบกระแทกหรือหกล้ม ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มผสมกับเหล้ากิน หรือจะใช้ทั้งต้นสด และผมคน 1 กระจุก นำมาต้มน้ำใช้ชะล้างบ่อย ๆ (ราก,ทั้งต้น)[3],[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทาแก้เล็บเป็นห้อเลือด (ราก)[2]
น้ำคั้นจากทั้งต้นนำมาดื่มหรือใช้ตำพอกแก้อาการปวดกระดูกได้ (ทั้งต้น)[2]
ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ไขข้ออักเสบ ปวดเมื่อยจากโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอว ด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาต้มกินหรืออาจต้มรวมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อเสริมฤทธิ์กันก็ได้ (ทั้งต้น)[3],[4],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ โดยใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาต้มกับขาหมูกินกับเหล้าแดงและน้ำอย่างละเท่ากัน (ราก)[4],[6]
ใช้ผสมเข้าตำรับยาแก้ปวดหลัง ด้วยการใช้รากพันงูขาวหรือรากพันงูน้อย รากพันงูแดง และรากเดือยหิน นำมาต้มกับน้ำกิน จะช่วยแก้อาการปวดหลังได้ (ราก)[2]
หมอยาพื้นบ้านที่ปราจีนบุรีจะใช้หญ้าพันงูนำมาต้มเป็นยาบำรุงกำลังร่างกายของหญิงวัยหมดประจำเดือน (ทั้งต้น)[8]
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [3],[6] ในส่วนของทั้งต้น หากใช้ภายในให้ใช้ต้นสดครั้งละ 35-60 กรัม ส่วนต้นแห้งให้ใช้เพียง 10-20 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน ส่วนการใช้ภายนอกให้นำมาตำพอกหรือต้มเอาน้ำมาชะล้างบริเวณที่เป็น โดยกะปริมาณได้ตามความเหมาะสม[3],[6] การใช้รากเป็นยาตาม [6] หากไม่ได้ระบุวิธีใช้ไว้ให้ใช้รากสดประมาณ 30-60 กรัม ถ้าแห้งใช้เพียง 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน[6] ส่วนการใช้ตาม [9] ให้ใช้ต้นใบ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว ประมาณ 15 นาที ใช้ดื่มเช้าและเย็น[9] หญ้าพันงูขาวมักถูกนำมาใช้ร่วมกับหญ้าพันงูแดง หรือที่เรียกว่า "หญ้าพันงูทั้งสอง"[2]
ข้อห้ามในการใช้สมุนไพรหญ้าพันงูขาว
สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้[3]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าพันงูขาว
สารที่พบคือสารจำพวก Flavone เช่นสาร Oleanolic acid, Ecdysterone ส่วนในเมล็ดพบสาร Alkaloid 1%[3] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าสารสำคัญที่พบ ได้แก่ Saponin, Saponin C, D arginine, Betaine, Histidine, Lysine, Sitostrol, Steric acid, Stimasterol, Tryptophan[9]
สารสกัดจากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวสามารถลดไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังไม่พบพิษเฉียบพลัน[2]
สารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูใหญ่สีขาวทดลองได้[6]
น้ำสกัดและสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากรากหญ้าพันงูขาวมีผลในการลดความดันเลือดได้อย่างรวดเร็ว แต่ออกฤทธิ์สั้น และไม่มีผลต่อการหายใจ หากใช้ยานี้มากจะมีฤทธิ์ไปกดการหายใจเล็กน้อย และในรากจะมีสารอัลคาลอยด์ Achy rantine ซึ่งมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต กดหัวใจ และขายหลอดเลือด ช่วยเพิ่มจังหวะและความแรงของการหายใจของสุนัขที่ทำให้สลบ[6]
เมื่อปี ค.ศ.1992 ที่ประเทศอินเดีย ได้ทำการทดลองโดยให้หนูกินหญ้าพันงูขาวเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ภายหลังการทดลองพบว่า หนูดังกล่าวมีน้ำหนักลดลงและมีค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ลดลง[9]
รากหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อที่ทำให้เกิดโรคคอตีบได้[3]
เมื่อนำสารสกัดที่ได้จากหญ้าพันงูขาว มาฉีดข้ากล้ามเนื้อของกระต่ายทดลอง พบว่าสามารถกระตุ้นหัวใจของกระต่ายให้เต้นแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะตอนที่หัวใจกำลังเต้นอ่อนลง จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน[3]
เมื่อนำหญ้าพันงูขาวทั้งต้นมาสกัดด้วยแอลกอฮอล์ พบว่ามีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็กและมดลูกที่มีการหดเกร็งได้ด้วย[3]
ในเมล็ดหญ้าพันงูขาวมีสารจำพวก Saponins ที่มีฤทธิ์ทำให้หัวใจที่แยกออกจากตัวของหนูตะเภา กระต่าย และกบ บีบแรงขึ้น และยังมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อที่หัวนมหดตัวแรงขึ้น นอกจากนี้สารดังกล่าวยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ และสามารถรักษาฤทธิ์ในการลดการขับปัสสาวะของ Adrenaline ในหนูใหญ่สีขาวได้ ส่วนผลในการขับปัสสาวะจะมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มการขับโซเดียมและโพแทสเซียมในการปัสสาวะ เช่นเดียวกับ Acetazolamide[6]
น้ำที่สกัดมีฤทธิ์ทำให้ลำไส้เล็กที่แยกจากตัวของกระต่ายเกิดการบีบตัวมากขึ้นและแงขึ้น น้ำที่สกัดในนาด 5 มิลลิลิตร เมื่อนำไปให้กระต่ายกิน จะเพิ่มการขับปัสสาวะมากขึ้น ส่วนเถ้าจากทั้งต้นหญ้าพันงูขาว จะมีปริมาณของโพแทสเซียมสูง และมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ[6]
นอกจากนี้หญ้าพันงูยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูง ยับยั้งคอเลสเตอรอลสูงในเลือด ต้านมาลาเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา ต้านแบคทีเรีย ต้านโรคเรื้อน ทำให้แท้ง มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งปริมาณของ Oxalate ในปัสสาวะสูงที่กว่าปกติ และยังมีรายการศึกษาในคนที่พบว่าหญ้าพันงูมีแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด[8],[9]
จ
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ครึ่งโล200สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บเงินปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09.จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณของหญ้าพันงูขาว
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงธาตุไฟ (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
ช่วยฟอกโลหิต (ทั้งต้น)[3]
ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น (ราก[4], ทั้งต้น[6],[9])
ช่วยทำให้นอนหลับ (ราก)[9]
ช่วยลดความดันโลหิต (ทั้งต้น)[6],[9]
ทั้งต้นมีรสขม เผ็ดเล็กน้อย เป็นยาเย็นจัด ออกฤทธิ์ต่อปอดและไต ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ (ทั้งต้น)[3]
ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ตรีโทษ (ทั้งต้น)[2]
ตำรับยาแก้ไข้จับสั่นหรือไข้มาลาเรีย ให้ใช้หญ้าพันงูขาวประมาณ 30-45 กรัม นำมาต้มกับเนื้อสันในของหมูรับประทาน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้จับสั่นเช่นกัน (ราก)[4]
ใช้เป็นยาแก้ไข้หวัด ลดไข้ ตัวร้อน แก้เจ็บคอ ให้ใช้หญ้าพันงูขาวนำมาต้มกับน้ำกินหรือใช้เข้ากับตำรายาอื่น (ทั้งต้น)[3],[7],[9]
ดอกใช้เป็นยาแก้และขับเสมหะ ช่วยแก้เสมหะที่คั่งค้างในทรวงอก แก้เสมหะในท้อง (ดอก)[1],[4],[9] ส่วนอีกตำรับให้ใช้รากพันงูขาว รากขัดน้อย พริก เหง้าขิง นำมาบดให้เป็นผงกินเป็นยาขับเสมหะ (ราก)[2]
ตำรายาไทยจะใช้ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินแก้โรคในลำคอ (ทั้งต้น)[2] ใบมีสรรพคุณช่วยแก้โรคในลำคอ แก้คออักเสบเป็นเม็ดยอดในคอ โรคในลำคอเป็นเม็ดเป็นตุ่ม (ใบ)[4],[9]
ผลมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ผล)[4] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าส่วนของใบมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ใบ)[9]
ช่วยแก้สะอึก (ดอก)[4],[9]
ใช้รักษาหูน้ำหนวก หรือหูชั้นกลางอักเสบ ด้วยการใช้รากสดนำมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วนำมาใช้หยอดหู (ราก)[6]
ใช้รักษาคางทูม (ทั้งต้น)[3]
ช่วยแก้คอตีบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก[6],ทั้งต้น[3])
ช่วยรักษาต่อมต่อมทอนซิลอักเสบ ด้วยการใช้รากแห้ง รากจ้ำเครือแห้ง และพิมเสน นำมาบดให้เป็นผงละเอียดใช้เป่าคอ (ราก)[6]
ในอินเดียจะใช้รักษาหญ้าพันงูขาวเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หอบ หืด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก)[6]
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับปอด ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1] แก้ปอดบวม (ทั้งต้น)[7],[9]
ช่วยแก้อาการท้องร่วง ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1]
ใช้เป็นยาแก้บิด ด้วยการใช้หญ้าพันงูขาว 50-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำชงกับน้ำผึ้งกิน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดเช่นกัน ตำรับยาก็คือ ให้ใช้รากสด รากขี้ครอก ผักกาดน้ำ และแชกัว นำมาต้มน้ำผสมกับน้ำผึ้งกิน (ราก)[4],[6]
ยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้รากนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการปวดท้อง เจ็บท้องน้อย (ราก)[2] ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ปวดท้อง (ทั้งต้น)[9]
รากนำมาต้มกับน้ำกินแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นหน้าอก (ราก)[2]
ช่วยในการย่อยอาหาร (ทั้งต้น)[4],[9]
ใช้เป็นยาระบาย ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[9]
ในบางตำราจะใช้หญ้าพันงูขาวนำมาตากแห้งต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้มะเร็งลำไส้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา และแก้นิ่ว (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2],[3],[4] ดอกมีสรรพคุณช่วยละลายก้อนนิ่ว (ดอก)[4] ส่วนรากนำมาต้มเอาแต่น้ำกินจะเป็นยาแก้นิ่ว ขับปัสสาวะได้เช่นกัน (ราก)[1],[9]
แก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ราก)[4],[6]
ช่วยแก้โรคริดสีดวงทวาร (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[4]
ช่วยรักษาโรคซิฟิลิส (ลำต้น)[1] รักษาหนองใน (ทั้งต้น)[7]
ชาวเขาจะใช้ใบหรือทั้งต้น นำมาต้มกับน้ำให้หญิงหลังคลอดกิน และยังช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย (ใบ,ทั้งต้น)[2],[4]
ต้นมีสรรพคุณช่วยขับประจำเดือน (ต้น)[4],[9] ช่วยแก้ประจำเดือนไม่มาตามปกติของสตรี (ราก)[4],[6]
ในอินเดียจะใช้หญ้าพันงูเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของสตรี และใช้เป็นยาคุมกำเนิด รวมไปถึงใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยแก้ไตอักเสบ บวมน้ำ (ทั้งต้น)[3],[6],[7],[9] ช่วยแก้ท้องมาน บวมน้ำ (ราก)[4],[6],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้โรคไตพิการ (ราก)[5]
ช่วยรักษาโรคไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย (ราก)[6]
ใบนำมาขยี้ใช้ทารักษาแผลสด และช่วยห้ามเลือด (ใบ)[8]
ใบใช้พอกแก้อาการอักเสบ ทาแก้โรคผิวหนัง ถูกตะขาบกัด (ใบ)[8]
ใช้รักษาแผลหนองบวมอักเสบ และฝี ด้วยการใช้ทั้งต้นสดนำมากับเหล้า เอาแต่น้ำมากิน ส่วนกากที่เหลือใช้เป็นยาบริเวณที่เป็น (ทั้งต้น)[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทารักษาฝี (ราก)[2] หรือจะใช้ทั้งต้นนำมาตำพอกรักษาฝีก็ได้เช่นกัน (ทั้งต้น)[2]
ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยแก้พิษฝี (ทั้งต้น)[2]
ช่วยรักษาโรคเรื้อน (ทั้งต้น)[6]
ช่วยแก้แมลงสัตว์กัดต่อย (ดอก)[4]
ช่วยแก้อาการฟกช้ำอันเกิดจากการกระทบกระแทกหรือหกล้ม ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มผสมกับเหล้ากิน หรือจะใช้ทั้งต้นสด และผมคน 1 กระจุก นำมาต้มน้ำใช้ชะล้างบ่อย ๆ (ราก,ทั้งต้น)[3],[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทาแก้เล็บเป็นห้อเลือด (ราก)[2]
น้ำคั้นจากทั้งต้นนำมาดื่มหรือใช้ตำพอกแก้อาการปวดกระดูกได้ (ทั้งต้น)[2]
ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ไขข้ออักเสบ ปวดเมื่อยจากโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอว ด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาต้มกินหรืออาจต้มรวมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อเสริมฤทธิ์กันก็ได้ (ทั้งต้น)[3],[4],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ โดยใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาต้มกับขาหมูกินกับเหล้าแดงและน้ำอย่างละเท่ากัน (ราก)[4],[6]
ใช้ผสมเข้าตำรับยาแก้ปวดหลัง ด้วยการใช้รากพันงูขาวหรือรากพันงูน้อย รากพันงูแดง และรากเดือยหิน นำมาต้มกับน้ำกิน จะช่วยแก้อาการปวดหลังได้ (ราก)[2]
หมอยาพื้นบ้านที่ปราจีนบุรีจะใช้หญ้าพันงูนำมาต้มเป็นยาบำรุงกำลังร่างกายของหญิงวัยหมดประจำเดือน (ทั้งต้น)[8]
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [3],[6] ในส่วนของทั้งต้น หากใช้ภายในให้ใช้ต้นสดครั้งละ 35-60 กรัม ส่วนต้นแห้งให้ใช้เพียง 10-20 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน ส่วนการใช้ภายนอกให้นำมาตำพอกหรือต้มเอาน้ำมาชะล้างบริเวณที่เป็น โดยกะปริมาณได้ตามความเหมาะสม[3],[6] การใช้รากเป็นยาตาม [6] หากไม่ได้ระบุวิธีใช้ไว้ให้ใช้รากสดประมาณ 30-60 กรัม ถ้าแห้งใช้เพียง 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน[6] ส่วนการใช้ตาม [9] ให้ใช้ต้นใบ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว ประมาณ 15 นาที ใช้ดื่มเช้าและเย็น[9] หญ้าพันงูขาวมักถูกนำมาใช้ร่วมกับหญ้าพันงูแดง หรือที่เรียกว่า "หญ้าพันงูทั้งสอง"[2]
ข้อห้ามในการใช้สมุนไพรหญ้าพันงูขาว
สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้[3]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าพันงูขาว
สารที่พบคือสารจำพวก Flavone เช่นสาร Oleanolic acid, Ecdysterone ส่วนในเมล็ดพบสาร Alkaloid 1%[3] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าสารสำคัญที่พบ ได้แก่ Saponin, Saponin C, D arginine, Betaine, Histidine, Lysine, Sitostrol, Steric acid, Stimasterol, Tryptophan[9]
สารสกัดจากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวสามารถลดไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังไม่พบพิษเฉียบพลัน[2]
สารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูใหญ่สีขาวทดลองได้[6]
น้ำสกัดและสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากรากหญ้าพันงูขาวมีผลในการลดความดันเลือดได้อย่างรวดเร็ว แต่ออกฤทธิ์สั้น และไม่มีผลต่อการหายใจ หากใช้ยานี้มากจะมีฤทธิ์ไปกดการหายใจเล็กน้อย และในรากจะมีสารอัลคาลอยด์ Achy rantine ซึ่งมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต กดหัวใจ และขายหลอดเลือด ช่วยเพิ่มจังหวะและความแรงของการหายใจของสุนัขที่ทำให้สลบ[6]
เมื่อปี ค.ศ.1992 ที่ประเทศอินเดีย ได้ทำการทดลองโดยให้หนูกินหญ้าพันงูขาวเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ภายหลังการทดลองพบว่า หนูดังกล่าวมีน้ำหนักลดลงและมีค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ลดลง[9]
รากหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อที่ทำให้เกิดโรคคอตีบได้[3]
เมื่อนำสารสกัดที่ได้จากหญ้าพันงูขาว มาฉีดข้ากล้ามเนื้อของกระต่ายทดลอง พบว่าสามารถกระตุ้นหัวใจของกระต่ายให้เต้นแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะตอนที่หัวใจกำลังเต้นอ่อนลง จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน[3]
เมื่อนำหญ้าพันงูขาวทั้งต้นมาสกัดด้วยแอลกอฮอล์ พบว่ามีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็กและมดลูกที่มีการหดเกร็งได้ด้วย[3]
ในเมล็ดหญ้าพันงูขาวมีสารจำพวก Saponins ที่มีฤทธิ์ทำให้หัวใจที่แยกออกจากตัวของหนูตะเภา กระต่าย และกบ บีบแรงขึ้น และยังมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อที่หัวนมหดตัวแรงขึ้น นอกจากนี้สารดังกล่าวยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ และสามารถรักษาฤทธิ์ในการลดการขับปัสสาวะของ Adrenaline ในหนูใหญ่สีขาวได้ ส่วนผลในการขับปัสสาวะจะมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มการขับโซเดียมและโพแทสเซียมในการปัสสาวะ เช่นเดียวกับ Acetazolamide[6]
น้ำที่สกัดมีฤทธิ์ทำให้ลำไส้เล็กที่แยกจากตัวของกระต่ายเกิดการบีบตัวมากขึ้นและแงขึ้น น้ำที่สกัดในนาด 5 มิลลิลิตร เมื่อนำไปให้กระต่ายกิน จะเพิ่มการขับปัสสาวะมากขึ้น ส่วนเถ้าจากทั้งต้นหญ้าพันงูขาว จะมีปริมาณของโพแทสเซียมสูง และมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ[6]
นอกจากนี้หญ้าพันงูยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูง ยับยั้งคอเลสเตอรอลสูงในเลือด ต้านมาลาเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา ต้านแบคทีเรีย ต้านโรคเรื้อน ทำให้แท้ง มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งปริมาณของ Oxalate ในปัสสาวะสูงที่กว่าปกติ และยังมีรายการศึกษาในคนที่พบว่าหญ้าพันงูมีแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด[8],[9]
จ
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
ครึ่งโล200สนใจแจ้งจำนวนที่ต้องการและแจ้งที่อยู่จัดส่งได้เลยคะส่งเคอรี่เก็บเงินปลายทางสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09.จัดส่งทั่วประเทศมีบริการเก็บเงินปลายทาง #สรรพคุณของหญ้าพันงูขาว
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงธาตุไฟ (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
ช่วยฟอกโลหิต (ทั้งต้น)[3]
ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น (ราก[4], ทั้งต้น[6],[9])
ช่วยทำให้นอนหลับ (ราก)[9]
ช่วยลดความดันโลหิต (ทั้งต้น)[6],[9]
ทั้งต้นมีรสขม เผ็ดเล็กน้อย เป็นยาเย็นจัด ออกฤทธิ์ต่อปอดและไต ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ (ทั้งต้น)[3]
ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ตรีโทษ (ทั้งต้น)[2]
ตำรับยาแก้ไข้จับสั่นหรือไข้มาลาเรีย ให้ใช้หญ้าพันงูขาวประมาณ 30-45 กรัม นำมาต้มกับเนื้อสันในของหมูรับประทาน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้จับสั่นเช่นกัน (ราก)[4]
ใช้เป็นยาแก้ไข้หวัด ลดไข้ ตัวร้อน แก้เจ็บคอ ให้ใช้หญ้าพันงูขาวนำมาต้มกับน้ำกินหรือใช้เข้ากับตำรายาอื่น (ทั้งต้น)[3],[7],[9]
ดอกใช้เป็นยาแก้และขับเสมหะ ช่วยแก้เสมหะที่คั่งค้างในทรวงอก แก้เสมหะในท้อง (ดอก)[1],[4],[9] ส่วนอีกตำรับให้ใช้รากพันงูขาว รากขัดน้อย พริก เหง้าขิง นำมาบดให้เป็นผงกินเป็นยาขับเสมหะ (ราก)[2]
ตำรายาไทยจะใช้ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกินแก้โรคในลำคอ (ทั้งต้น)[2] ใบมีสรรพคุณช่วยแก้โรคในลำคอ แก้คออักเสบเป็นเม็ดยอดในคอ โรคในลำคอเป็นเม็ดเป็นตุ่ม (ใบ)[4],[9]
ผลมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ผล)[4] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าส่วนของใบมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ใบ)[9]
ช่วยแก้สะอึก (ดอก)[4],[9]
ใช้รักษาหูน้ำหนวก หรือหูชั้นกลางอักเสบ ด้วยการใช้รากสดนำมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วนำมาใช้หยอดหู (ราก)[6]
ใช้รักษาคางทูม (ทั้งต้น)[3]
ช่วยแก้คอตีบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก[6],ทั้งต้น[3])
ช่วยรักษาต่อมต่อมทอนซิลอักเสบ ด้วยการใช้รากแห้ง รากจ้ำเครือแห้ง และพิมเสน นำมาบดให้เป็นผงละเอียดใช้เป่าคอ (ราก)[6]
ในอินเดียจะใช้รักษาหญ้าพันงูขาวเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หอบ หืด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ด้วยการใช้รากสด รากบ่วงหนี่แช นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำตาลทรายพอสมควร ใช้ชงกับน้ำอุ่นกิน (ราก)[6]
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับปอด ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1] แก้ปอดบวม (ทั้งต้น)[7],[9]
ช่วยแก้อาการท้องร่วง ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น)[1]
ใช้เป็นยาแก้บิด ด้วยการใช้หญ้าพันงูขาว 50-60 กรัม นำมาต้มกับน้ำชงกับน้ำผึ้งกิน (ทั้งต้น)[3] ส่วนรากก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดเช่นกัน ตำรับยาก็คือ ให้ใช้รากสด รากขี้ครอก ผักกาดน้ำ และแชกัว นำมาต้มน้ำผสมกับน้ำผึ้งกิน (ราก)[4],[6]
ยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้รากนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการปวดท้อง เจ็บท้องน้อย (ราก)[2] ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ปวดท้อง (ทั้งต้น)[9]
รากนำมาต้มกับน้ำกินแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นหน้าอก (ราก)[2]
ช่วยในการย่อยอาหาร (ทั้งต้น)[4],[9]
ใช้เป็นยาระบาย ด้วยการใช้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำกิน (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[9]
ในบางตำราจะใช้หญ้าพันงูขาวนำมาตากแห้งต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้มะเร็งลำไส้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา และแก้นิ่ว (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[2],[3],[4] ดอกมีสรรพคุณช่วยละลายก้อนนิ่ว (ดอก)[4] ส่วนรากนำมาต้มเอาแต่น้ำกินจะเป็นยาแก้นิ่ว ขับปัสสาวะได้เช่นกัน (ราก)[1],[9]
แก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ราก)[4],[6]
ช่วยแก้โรคริดสีดวงทวาร (ลำต้น,ทั้งต้น)[1],[4]
ช่วยรักษาโรคซิฟิลิส (ลำต้น)[1] รักษาหนองใน (ทั้งต้น)[7]
ชาวเขาจะใช้ใบหรือทั้งต้น นำมาต้มกับน้ำให้หญิงหลังคลอดกิน และยังช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย (ใบ,ทั้งต้น)[2],[4]
ต้นมีสรรพคุณช่วยขับประจำเดือน (ต้น)[4],[9] ช่วยแก้ประจำเดือนไม่มาตามปกติของสตรี (ราก)[4],[6]
ในอินเดียจะใช้หญ้าพันงูเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของสตรี และใช้เป็นยาคุมกำเนิด รวมไปถึงใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[8]
ช่วยแก้ไตอักเสบ บวมน้ำ (ทั้งต้น)[3],[6],[7],[9] ช่วยแก้ท้องมาน บวมน้ำ (ราก)[4],[6],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้โรคไตพิการ (ราก)[5]
ช่วยรักษาโรคไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย (ราก)[6]
ใบนำมาขยี้ใช้ทารักษาแผลสด และช่วยห้ามเลือด (ใบ)[8]
ใบใช้พอกแก้อาการอักเสบ ทาแก้โรคผิวหนัง ถูกตะขาบกัด (ใบ)[8]
ใช้รักษาแผลหนองบวมอักเสบ และฝี ด้วยการใช้ทั้งต้นสดนำมากับเหล้า เอาแต่น้ำมากิน ส่วนกากที่เหลือใช้เป็นยาบริเวณที่เป็น (ทั้งต้น)[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทารักษาฝี (ราก)[2] หรือจะใช้ทั้งต้นนำมาตำพอกรักษาฝีก็ได้เช่นกัน (ทั้งต้น)[2]
ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยแก้พิษฝี (ทั้งต้น)[2]
ช่วยรักษาโรคเรื้อน (ทั้งต้น)[6]
ช่วยแก้แมลงสัตว์กัดต่อย (ดอก)[4]
ช่วยแก้อาการฟกช้ำอันเกิดจากการกระทบกระแทกหรือหกล้ม ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มผสมกับเหล้ากิน หรือจะใช้ทั้งต้นสด และผมคน 1 กระจุก นำมาต้มน้ำใช้ชะล้างบ่อย ๆ (ราก,ทั้งต้น)[3],[6]
รากใช้ฝนกับน้ำทาแก้เล็บเป็นห้อเลือด (ราก)[2]
น้ำคั้นจากทั้งต้นนำมาดื่มหรือใช้ตำพอกแก้อาการปวดกระดูกได้ (ทั้งต้น)[2]
ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ไขข้ออักเสบ ปวดเมื่อยจากโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอว ด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาต้มกินหรืออาจต้มรวมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อเสริมฤทธิ์กันก็ได้ (ทั้งต้น)[3],[4],[8]
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ โดยใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาต้มกับขาหมูกินกับเหล้าแดงและน้ำอย่างละเท่ากัน (ราก)[4],[6]
ใช้ผสมเข้าตำรับยาแก้ปวดหลัง ด้วยการใช้รากพันงูขาวหรือรากพันงูน้อย รากพันงูแดง และรากเดือยหิน นำมาต้มกับน้ำกิน จะช่วยแก้อาการปวดหลังได้ (ราก)[2]
หมอยาพื้นบ้านที่ปราจีนบุรีจะใช้หญ้าพันงูนำมาต้มเป็นยาบำรุงกำลังร่างกายของหญิงวัยหมดประจำเดือน (ทั้งต้น)[8]
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [3],[6] ในส่วนของทั้งต้น หากใช้ภายในให้ใช้ต้นสดครั้งละ 35-60 กรัม ส่วนต้นแห้งให้ใช้เพียง 10-20 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน ส่วนการใช้ภายนอกให้นำมาตำพอกหรือต้มเอาน้ำมาชะล้างบริเวณที่เป็น โดยกะปริมาณได้ตามความเหมาะสม[3],[6] การใช้รากเป็นยาตาม [6] หากไม่ได้ระบุวิธีใช้ไว้ให้ใช้รากสดประมาณ 30-60 กรัม ถ้าแห้งใช้เพียง 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน[6] ส่วนการใช้ตาม [9] ให้ใช้ต้นใบ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว ประมาณ 15 นาที ใช้ดื่มเช้าและเย็น[9] หญ้าพันงูขาวมักถูกนำมาใช้ร่วมกับหญ้าพันงูแดง หรือที่เรียกว่า "หญ้าพันงูทั้งสอง"[2]
ข้อห้ามในการใช้สมุนไพรหญ้าพันงูขาว
สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้[3]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าพันงูขาว
สารที่พบคือสารจำพวก Flavone เช่นสาร Oleanolic acid, Ecdysterone ส่วนในเมล็ดพบสาร Alkaloid 1%[3] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าสารสำคัญที่พบ ได้แก่ Saponin, Saponin C, D arginine, Betaine, Histidine, Lysine, Sitostrol, Steric acid, Stimasterol, Tryptophan[9]
สารสกัดจากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวสามารถลดไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังไม่พบพิษเฉียบพลัน[2]
สารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากทั้งต้นของหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูใหญ่สีขาวทดลองได้[6]
น้ำสกัดและสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากรากหญ้าพันงูขาวมีผลในการลดความดันเลือดได้อย่างรวดเร็ว แต่ออกฤทธิ์สั้น และไม่มีผลต่อการหายใจ หากใช้ยานี้มากจะมีฤทธิ์ไปกดการหายใจเล็กน้อย และในรากจะมีสารอัลคาลอยด์ Achy rantine ซึ่งมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต กดหัวใจ และขายหลอดเลือด ช่วยเพิ่มจังหวะและความแรงของการหายใจของสุนัขที่ทำให้สลบ[6]
เมื่อปี ค.ศ.1992 ที่ประเทศอินเดีย ได้ทำการทดลองโดยให้หนูกินหญ้าพันงูขาวเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ภายหลังการทดลองพบว่า หนูดังกล่าวมีน้ำหนักลดลงและมีค่าคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ลดลง[9]
รากหญ้าพันงูขาวมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อที่ทำให้เกิดโรคคอตีบได้[3]
เมื่อนำสารสกัดที่ได้จากหญ้าพันงูขาว มาฉีดข้ากล้ามเนื้อของกระต่ายทดลอง พบว่าสามารถกระตุ้นหัวใจของกระต่ายให้เต้นแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะตอนที่หัวใจกำลังเต้นอ่อนลง จะเห็นผลได้อย่างชัดเจน[3]
เมื่อนำหญ้าพันงูขาวทั้งต้นมาสกัดด้วยแอลกอฮอล์ พบว่ามีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็กและมดลูกที่มีการหดเกร็งได้ด้วย[3]
ในเมล็ดหญ้าพันงูขาวมีสารจำพวก Saponins ที่มีฤทธิ์ทำให้หัวใจที่แยกออกจากตัวของหนูตะเภา กระต่าย และกบ บีบแรงขึ้น และยังมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อที่หัวนมหดตัวแรงขึ้น นอกจากนี้สารดังกล่าวยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ และสามารถรักษาฤทธิ์ในการลดการขับปัสสาวะของ Adrenaline ในหนูใหญ่สีขาวได้ ส่วนผลในการขับปัสสาวะจะมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มการขับโซเดียมและโพแทสเซียมในการปัสสาวะ เช่นเดียวกับ Acetazolamide[6]
น้ำที่สกัดมีฤทธิ์ทำให้ลำไส้เล็กที่แยกจากตัวของกระต่ายเกิดการบีบตัวมากขึ้นและแงขึ้น น้ำที่สกัดในนาด 5 มิลลิลิตร เมื่อนำไปให้กระต่ายกิน จะเพิ่มการขับปัสสาวะมากขึ้น ส่วนเถ้าจากทั้งต้นหญ้าพันงูขาว จะมีปริมาณของโพแทสเซียมสูง และมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ[6]
นอกจากนี้หญ้าพันงูยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูง ยับยั้งคอเลสเตอรอลสูงในเลือด ต้านมาลาเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา ต้านแบคทีเรีย ต้านโรคเรื้อน ทำให้แท้ง มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งปริมาณของ Oxalate ในปัสสาวะสูงที่กว่าปกติ และยังมีรายการศึกษาในคนที่พบว่าหญ้าพันงูมีแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด[8],[9]
จ
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
สนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09. สรรพคุณของปีบ
ดอกมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง (ดอก)
ช่วยบำรุงโลหิต (ดอก)
รากช่วยบำรุงปอด (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค (ราก)
ใช้เป็นยารักษาไซนัสอักเสบ (ดอก)
ช่วยรักษาริดสีดวงจมูก ด้วยการใช้ดอกที่ตากแห้งแล้วนำมามวนเป็นบุหรี่สูบเพื่อรักษาอาการ (ดอก)
ช่วยรักษาอาการหอบหืด หอบเหนื่อย ทำให้ระบบการหายใจดียิ่งขึ้นด้วยการใช้ดอกปีบแห้งประมาณ 6-7 ดอก แล้วมวนเป็นบุหรี่สูบ เพื่อรักษาอาการหอบหืดได้ (ราก, ดอก)
ช่วยรักษาปอดพิการ (ราก)
ใช้เป็นยาแก้ลม (ดอก)
ใบใช้มวนเป็นบุหรี่สูบแทนฝิ่น เพื่อช่วยขยายหลอดลมและรักษาอาการหอบหืดได้เช่นกัน (ใบ)
ประโยชน์ของปีบ
ดอกนำมาตากแห้งแล้วผสมกับยาสูบมวนบุหรี่ ใช้สูบทำให้ชุ่มคอ ทำให้ปากหอม และยังมีกลิ่นควันบุหรี่ที่หอมดีอีกด้วย
ดอกช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำดี (cholagogue) และเพิ่มรสชาติ (ดอก)
ดอกปีบนำมาตากแห้ง นำมาชงใส่น้ำร้อนดื่มเป็นชาก็ได้ โดยดอกปีบชงนี้จะมีกลิ่นหอมละมุนอ่อน ๆ มีรสชาติหวานแบบนุ่มนวล ไม่ขม แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
สารสกัดจากใบที่สกัดด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของคะน้า (ใบ)
เนื้อไม้ของต้นปีบมีสีขาวอ่อน สามารถเลื่อยหรือไสกบเพื่อตกแต่งให้ขึ้นเงาได้ง่าย จึงเหมาะแก่การนำมาใช้ทำเป็นเครื่องเรือน เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้
เปลือกของต้นปีบ เมื่อก่อนสามารถนำมาใช้แทนไม้ก๊อกสำหรับทุกจุกขวดได้
ปีบเป็นไม้พุ่มมีใบและดอกสวย แถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย จึงสามารถปลูกไว้ประดับสวน ปลูกเพื่อให้ร่มเงาในลานจอดรถหรือริมถนนข้างทาง และที่สำคัญต้นไม้ชนิดนี้ยังทนน้ำท่วมขังได้ดีอีกด้วย
ดอกปีบเป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลไทย โดยความหมายของต้นไม้ชนิดนี้ คือ เป็นต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นแก่ชีวิต ซึ่งหมายถึง "พยาบาล" และดอกปีบยังหมายถึงยาอายุวัฒนะ ซึ่งเปรียบเสมือนพยาบาลที่ให้การดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพแก่คนทั่วไป ต้นปีบเป็นต้นไม้ที่โตเร็ว เกิดขึ้นได้ในป่าทุกชนิด สามารถช่วยสร้างเสริมธรรมชาติที่ชุบและดำรงชีวิตให้แก่มวลมนุษย์ตลอดกาล เช่นเดียวกับพยาบาล ที่จะเป็นการบริการสุขภาพที่มีความจำเป็นต่อสังคมตลอดไป (ดอกปีบยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดปราจีนบุรีและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาอีกด้วย)
การปลูกต้นปีบเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน เชื่อว่าการปลูกไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มากขึ้น และยังทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วย โดยควรปลูกต้นปีบไว้ในทางทิศตะวันตกและผู้ปลูกควรปลูกในเสาร์เพื่อเอาเคล็ด แต่ถ้าจะให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้ที่เกิดในวันจันทร์ (ส่วนผู้อยู่อาศัยหากเกิดวันจันทร์ด้วยแล้วจะยิ่งเป็นสิริมงคลยิ่งนัก) เพราะปีบเป็นดอกไม้ประจำของนางโคราคะเทวี ซึ่งเป็นนางประจำวันจันทร์ในธิดาของพระอินทร์นั่นเอง
ราคา 200.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
สมุนไพรกระทกรกป่าตากแห้งครึ่งโล200 ขายเมล็ดพันธุ์กระทกรกป่า เมล็ดละ1บาทสนใจโทร0876069955 ไอดีไลน์ aungsara09. สรรพคุณของกะทกรก
เปลือกใช้เป็นยาชูกำลัง (เปลือก)
เนื้อไม้ใช้เป็นยาควบคุมธาตุในร่างกาย (เนื้อไม้)ส่วนเถาใช้เป็นยาธาตุ (เถา)
รากสดหรือรากตากแห้งใช้ชงกับน้ำดื่มเป็นชา จะช่วยทำให้สดชื่น (ราก)
ผลดิบมีรสเมาเบื่อ ส่วนผลสุกมีรสหวานเย็น ช่วยบำรุงปอด (ผล)
ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ (ทั้งต้น)
ช่วยถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด (เนื้อไม้)
ช่วยแก้ความดันโลหิตสูง (ราก)
แพทย์ชาวเวียดนามใช้ใบเป็นสงบระงับ ระงับความเครียดและความวิตกกังวล ด้วยการใช้ใบแห้งประมาณ 10-15 กรัม (ต่อวัน) นำมาต้มกับน้ำกิน (ใบ)
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ด้วยการใช้ใบนำมาตำใช้พอกหรือประคบที่ศีรษะ (ใบ)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้จับสั่น (ราก)
ใบใช้ตำพอกศีรษะ ช่วยแก้อาการหวัด คัดจมูก (ใบ)
ช่วยแก้อาการไอ (ใบ, ดอก, ต้น, ทั้งต้น)
ช่วยขับเสมหะ (ใบ, ต้น, ทั้งต้น)
เมล็ดใช้แก้เด็กที่มีอาการท้องอืดเฟ้อ ช่วยทำให้ผายลม ด้วยการนำเมล็ดมาตำให้ละเอียด ใช้ผสมกับน้ำส้มและรมควันให้อุ่น แล้วเอาไปทาท้องเด็ก (เมล็ด)
ใบนำมาตำให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยาเบื่อและยาขับพยาธิ (ใบ)
ดอก ใบ และทั้งต้นมีรสเบื่อเมา ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ใบ, ดอก, ต้น, ทั้งต้น)
เถาและรากสดใช้ต้มเป็นยาแก้ปัสสาวะขุ่นข้น (ราก)
ช่วยแก้กามโรค (ราก)
ช่วยรักษาบาดแผล (เนื้อไม้, ใบ, ผล และเถาใช้เป็นยาพอกรักษาแผล (เถา)
ใบใช้ตำพอกฆ่าเชื้อบาดแผล (ใบ)
เปลือกใช้ตำเคี่ยวกับน้ำมะพร้าว ช่วยแก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวก (เปลือก)
เปลือกช่วยทำให้แผลเน่าเปื่อยแห้ง (เปลือก)
ใบสดนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำพอสมควร นำมาทาวันละ 3-4 ครั้ง เพื่อใช้รักษาโรคผิวหนัง แก้อาการคัน แก้หิด แก้หืด (ใบ)
ช่วยแก้อาการปวด (ผล)
ช่วยแก้อาการบวม (ใบ, ต้น, ทั้งต้น) แก้อาการบวมที่ไม่รู้สาเหตุ (ทั้งต้น)
ช่วยแก้อาการเหน็บชา โดยนำมาสับตากแดด แล้วนำมาต้มกิน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ใบนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำใช้พอกรักษาสิว (ใบ)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกะทกรก
ผลอ่อนและใบอ่อนมีสารประกอบไซยาไนต์คือ ไซยาโนจีนิก ไกลโคไซด์ ส่วนอีกรายพบว่าใบกะทกรกมีกรดไฮโดรไซยานิก ซึ่งเป็นสารพิษ แต่พิษจะสลายไปเมื่อถูกความร้อนที่นานพอ และในงานวิจัยยังใช้ส่วนของลำต้นและใบ เพื่อนำมาประเมินคุณสมบัติทางกายภาพและคุณสมบัติทางเคมี โดยสกัดด้วยวิธีการสกัดต่อเรื่องด้วยเครื่องสกัดต่อเนื่อง ด้วยเอทานอล 95% จะได้ปริมาณสารสกัดเท่ากับ 23.37% โดยน้ำหนัก ซึ่งสารสกัดที่ได้จะเป็นของเหลวที่มีลักษณะข้นหนืด เป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นเฉพาะตัว
เมื่อให้สารสกัดกะทกรกทางปากในสัตว์ทดลองซึ่งเป็นหนูตัวผู้พันธุ์วิสตาร์ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 180-220 กรัม เป็นระยะเวลา 28 วัน พบว่าสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางอย่างกว้างขวาง มีฤทธิ์ทำให้สงบระงับได้ สามารถช่วยระงับความวิตกกังวล ช่วยลดอาการซึมเศร้า ลดอาการความจำบกพร่อง และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเซลล์ประสาทในสมองส่วนฮิปโปแคมปัส นอกจากนี้ยังสามารถนำไปพัฒนาเป็นสารสกัดกะทกรกด้วยเอทานอลในรูปแบบของยาเม็ดขนาด 125 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งจะได้เป็นยาเม็ดที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานของการผลิตเป็นยาสมุนไพรที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ และยังมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพดี มีความคงตัวสูง
ประโยชน์ของกะทกรก
ยอดอ่อน ผลอ่อน ผลสุก ผลแก่ รวมทั้งรกหุ้ม สามารถใช้รับประทานเป็นผักสด หรือนำมาต้มหรือลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก และแกงเลียง ผลสามารถนำมาปั่นเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มได้
ในด้านทางการเกษตร เนื่องจากต้นกะทกรกมีสารพิษชื่อว่า Cyanpgenetic glycosides ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นยาฆ่าและป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ โดยเฉพาะตัวด้วงถั่วเขียว ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะไปยับยั้งการเกิดเป็นตัว
ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดินและทำปุ๋ยหมักได้ เนื่องจากต้นกะทกรกมีกลิ่นเหม็นเขียว จึงช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เข้ามาทำลายได้
ข้อควรระวังในการรับประทานกะทกรก
ทั้งต้นสดมีรสเบื่อเมาและเป็นพิษ หากนำมากินอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่พิษจะสลายไปเมื่อถูกความร้อน ดังนั้นจึงต้องนำไปต้มให้สุกก่อนนำมาใช้[1]
ผลอ่อนมีพิษ เนื่องจากมีสารไซยาโนจีนิก ไกลโคไซด์ (Cyanogenetic glucoside) เปลือกผล เมล็ด และใบมีสารที่ไม่คงตัว เมื่อสารดังกล่าวสลายตัวจะทำให้ Acetone และ Hydrocyanic acid (สารชนิดหลังเป็นพิษ) ทำให้เม็ดเลือดแดงขาดออกซิเจน ทำให้เกิดอาการอาเจียน
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
เมล็ดพันธุ์ดี เกษตรวิถีไทย | เมืองระยอง ระยอง
สมุนไพรกระทกรกป่าตากแห้งครึ่งโล200 ขายเมล็ดพันธุ์กระทกรกป่า เมล็ดละ1บาทสนใจโทร0876069955 ไอดีไลน์ aungsara09. สรรพคุณของกะทกรก
เปลือกใช้เป็นยาชูกำลัง (เปลือก)
เนื้อไม้ใช้เป็นยาควบคุมธาตุในร่างกาย (เนื้อไม้)ส่วนเถาใช้เป็นยาธาตุ (เถา)
รากสดหรือรากตากแห้งใช้ชงกับน้ำดื่มเป็นชา จะช่วยทำให้สดชื่น (ราก)
ผลดิบมีรสเมาเบื่อ ส่วนผลสุกมีรสหวานเย็น ช่วยบำรุงปอด (ผล)
ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ (ทั้งต้น)
ช่วยถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด (เนื้อไม้)
ช่วยแก้ความดันโลหิตสูง (ราก)
แพทย์ชาวเวียดนามใช้ใบเป็นสงบระงับ ระงับความเครียดและความวิตกกังวล ด้วยการใช้ใบแห้งประมาณ 10-15 กรัม (ต่อวัน) นำมาต้มกับน้ำกิน (ใบ)
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ด้วยการใช้ใบนำมาตำใช้พอกหรือประคบที่ศีรษะ (ใบ)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้จับสั่น (ราก)
ใบใช้ตำพอกศีรษะ ช่วยแก้อาการหวัด คัดจมูก (ใบ)
ช่วยแก้อาการไอ (ใบ, ดอก, ต้น, ทั้งต้น)
ช่วยขับเสมหะ (ใบ, ต้น, ทั้งต้น)
เมล็ดใช้แก้เด็กที่มีอาการท้องอืดเฟ้อ ช่วยทำให้ผายลม ด้วยการนำเมล็ดมาตำให้ละเอียด ใช้ผสมกับน้ำส้มและรมควันให้อุ่น แล้วเอาไปทาท้องเด็ก (เมล็ด)
ใบนำมาตำให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยาเบื่อและยาขับพยาธิ (ใบ)
ดอก ใบ และทั้งต้นมีรสเบื่อเมา ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ใบ, ดอก, ต้น, ทั้งต้น)
เถาและรากสดใช้ต้มเป็นยาแก้ปัสสาวะขุ่นข้น (ราก)
ช่วยแก้กามโรค (ราก)
ช่วยรักษาบาดแผล (เนื้อไม้, ใบ, ผล และเถาใช้เป็นยาพอกรักษาแผล (เถา)
ใบใช้ตำพอกฆ่าเชื้อบาดแผล (ใบ)
เปลือกใช้ตำเคี่ยวกับน้ำมะพร้าว ช่วยแก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวก (เปลือก)
เปลือกช่วยทำให้แผลเน่าเปื่อยแห้ง (เปลือก)
ใบสดนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำพอสมควร นำมาทาวันละ 3-4 ครั้ง เพื่อใช้รักษาโรคผิวหนัง แก้อาการคัน แก้หิด แก้หืด (ใบ)
ช่วยแก้อาการปวด (ผล)
ช่วยแก้อาการบวม (ใบ, ต้น, ทั้งต้น) แก้อาการบวมที่ไม่รู้สาเหตุ (ทั้งต้น)
ช่วยแก้อาการเหน็บชา โดยนำมาสับตากแดด แล้วนำมาต้มกิน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ใบนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำใช้พอกรักษาสิว (ใบ)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกะทกรก
ผลอ่อนและใบอ่อนมีสารประกอบไซยาไนต์คือ ไซยาโนจีนิก ไกลโคไซด์ ส่วนอีกรายพบว่าใบกะทกรกมีกรดไฮโดรไซยานิก ซึ่งเป็นสารพิษ แต่พิษจะสลายไปเมื่อถูกความร้อนที่นานพอ และในงานวิจัยยังใช้ส่วนของลำต้นและใบ เพื่อนำมาประเมินคุณสมบัติทางกายภาพและคุณสมบัติทางเคมี โดยสกัดด้วยวิธีการสกัดต่อเรื่องด้วยเครื่องสกัดต่อเนื่อง ด้วยเอทานอล 95% จะได้ปริมาณสารสกัดเท่ากับ 23.37% โดยน้ำหนัก ซึ่งสารสกัดที่ได้จะเป็นของเหลวที่มีลักษณะข้นหนืด เป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นเฉพาะตัว
เมื่อให้สารสกัดกะทกรกทางปากในสัตว์ทดลองซึ่งเป็นหนูตัวผู้พันธุ์วิสตาร์ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 180-220 กรัม เป็นระยะเวลา 28 วัน พบว่าสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางอย่างกว้างขวาง มีฤทธิ์ทำให้สงบระงับได้ สามารถช่วยระงับความวิตกกังวล ช่วยลดอาการซึมเศร้า ลดอาการความจำบกพร่อง และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเซลล์ประสาทในสมองส่วนฮิปโปแคมปัส นอกจากนี้ยังสามารถนำไปพัฒนาเป็นสารสกัดกะทกรกด้วยเอทานอลในรูปแบบของยาเม็ดขนาด 125 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งจะได้เป็นยาเม็ดที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานของการผลิตเป็นยาสมุนไพรที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ และยังมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพดี มีความคงตัวสูง
ประโยชน์ของกะทกรก
ยอดอ่อน ผลอ่อน ผลสุก ผลแก่ รวมทั้งรกหุ้ม สามารถใช้รับประทานเป็นผักสด หรือนำมาต้มหรือลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก และแกงเลียง ผลสามารถนำมาปั่นเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มได้
ในด้านทางการเกษตร เนื่องจากต้นกะทกรกมีสารพิษชื่อว่า Cyanpgenetic glycosides ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นยาฆ่าและป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ โดยเฉพาะตัวด้วงถั่วเขียว ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะไปยับยั้งการเกิดเป็นตัว
ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดินและทำปุ๋ยหมักได้ เนื่องจากต้นกะทกรกมีกลิ่นเหม็นเขียว จึงช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เข้ามาทำลายได้
ข้อควรระวังในการรับประทานกะทกรก
ทั้งต้นสดมีรสเบื่อเมาและเป็นพิษ หากนำมากินอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่พิษจะสลายไปเมื่อถูกความร้อน ดังนั้นจึงต้องนำไปต้มให้สุกก่อนนำมาใช้[1]
ผลอ่อนมีพิษ เนื่องจากมีสารไซยาโนจีนิก ไกลโคไซด์ (Cyanogenetic glucoside) เปลือกผล เมล็ด และใบมีสารที่ไม่คงตัว เมื่อสารดังกล่าวสลายตัวจะทำให้ Acetone และ Hydrocyanic acid (สารชนิดหลังเป็นพิษ) ทำให้เม็ดเลือดแดงขาดออกซิเจน ทำให้เกิดอาการอาเจียน
ราคา 1.00 บาท ติดต่อ อังศรา ไพฑูรย์ โทร. 0876069955 0876069955 ไอดีไลน์ @043efhjv
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน