ค้นหาสินค้า

พุทรา (Jujube Tree)

ร้าน สวนขวัญพรรณไม้
พุทรานมสด | สวนขวัญพรรณไม้ - สันทราย เชียงใหม่

สวนขวัญพรรณไม้ | สันทราย เชียงใหม่
พุทรานมสด เป็นการผสมข้ามพันธ์ระหว่างพุทราที่นำมาจากประเทศไต้หวันคือพันธ์จูจู๊บ ฮันนี่ผสมกับพุทราพันธ์ ดกพิเศษของไทย ซึ่งต่อกิ่งข้ามพันธ์มา 5 ปี การต่อกิ่งครั้งแรกใช้พันธ์พื้นเมืองของไทย ต่อกิ่งกับพันธ์ฮันนี่ของไต้หวัน เมื่อผลผลิตในปีแรกออกมามีลักษณะลูกกลมยาวแต่ไม่ใหญ่มากนัก ขนาด 13-16 ผล/กิโลกรัม ความหวาน 6-8 บริกซ์ อมเปรี้ยว กรอบเนื้อแน่น ผิวบาง เลี้ยงกิ่งมาตั้งแต่อายุ 15 เดือนจึงตัดกิ่งและนำมาต่อกิ่งกับพันธ์ดกพิเศษ ซึ่งเป็นพันธ์ที่มาจากประเทศอินเดีย ใบใหญ่ ปลายใบมนและเหยียดตรง ผลมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ ผลจะยาว หัวท้ายมน ออกดอกติดผลดกมาก ประมาณ 3-6 ผลต่อข้อ เปลือกบาง รสหวาน กรอบ ผลแก่ร่วงง่าย ผลใหญ่ น้ำหนักต่อผลประมาณ 100-130 กรัมปริมาณการติดผลต้นละประมาณ 50 กก./ต้น/ปี ความหวานอยู่ที่ 8-10 บริกซ์ และเลี้ยงกิ่งจนอายุ 1 ปี จึงนำมาต่อกิ่งกับพันธ์พื้นเมืองที่เลี้ยงไว้อยู่แล้วได้ความหวานอยู่ที่ 8-10 บริกซ์ เลี้ยงกิ่งจนอายุ 1 ปี จึงนำมาต่อกิ่งกับพันธ์พื้นเมืองที่เลี้ยงกิ่งพร้อมที่จะขยายพันธ์ในไร่จุ่นจันทร์ ต.แม่แตง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ในระยะแรกจำนวน 10 ไร่ โดยปลูกระยะห่าง 3x5 เมตร ยกร่องตรงกลาง เพื่อป้องกันน้ำท่วม มีจำนวน 400 กว่าต้นและใช้ปุ๋ยเคมีฉีดพ่นทางใบใช้สูตร 13-27-27 ก่อนออกดอก 30 วัน ในอัตรา 5 ช้อนแกง/น้ำ 20 ลิตร ฉีดทุกๆ 7-10 วัน ก่อนเก็บเกี่ยวจะใช้สูตร 13-13-21 หลังติดผลแล้ว ประมาณ 1 เดือน และใส่ห่างกันทุก 2 เดือนจนกว่าจะเก็บผล ใช้อัตรา 2-5 กก.ต้นต่อปี เมื่อผลผลิตออกมาความหวานอยู่ที่ 8-10 บริกซ์ แต่ผลที่ออกมามีผลผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ ในต้นเดียวกันคือมีผลใหญ่เล็กปะปนกันไป รูปทรงไม่ดีคือเบี้ยว ตรงกลางลูกขอด ดินที่ปลูกมีลักษณะแข็ง มีน้ำท้วมขังในหน้าฝนและแห้งในหน้าร้อน ลำต้นไม่ใหญ่และแข็งแรง จึงได้จ้างนักวิชาการจากต่างประเทศไต้หวันมาปรับปรุงดิน ในเบื้องต้นปรับปรุงให้สภาพดี โดยการใช้รำละเอียด มูลวัว แกลบเผา และน้ำชีวภาพที่ใช้เปลือกผลไม้หมักกับกากน้ำตาล จนได้น้ำปุ๋ยหมักและนำมาผสมกันในอัตราส่วน มูลวัว 3/1/1 และนำไปคลุกเคล้ากับปุ๋ยที่ใช้เปลือกผลไม้ปลูกพุทรานมสดที่ปลูกไว้ทุกๆ 3 เดือน และใช้ปุ๋ยหมักผสมน้ำเต้าหู้ ผสมในอัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดเข้าใต้ผิวดินทุก 5 วัน จนอายุถึง 6 เดือนจึงใช้ปุ๋ยสูตรนมสด ผสมรำข้าว ไข่ไก่ ในอัตราส่วน 3/1/1 ฉีดเข้าใต้ผิวดิน รอเวลาจนเก็บผลผลิตพุทรา จะช่วยให้ผลผลิตพุทรานมสด มีความหวานประมาณ 14-16 บริกซ์ ผลมีขนาดโตสม่ำเสมอ หวานกรอบ เมื่อรับประทานจะมีกลิ่นน้ำนม จึงเป็นที่มาของคำว่า “พุทรานมสด” ขณะนี้ได้ทำการจดทะเบียนการค้าเบื้องต้นพร้อมขอจดทะเบียนสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
การปลูกพุทรานมสด
พุทรานมสด สามารถปลูกได้ทั้งในที่ดอนและที่ราบลุ่ม ตั้งแต่ดินเหนียว ดินทราย จนถึงดินลูกรัง การปลูกควรปลูกในแนวทิศเหนือ-ใต้ เพราะจะได้รับแสงแดดเต็มที่ หากปลูกในที่ดอน ควรใช้ระยะห่าง 5x5 เมตร หากเป็นที่ลุ่มควรยกร่องและปลูกเดี่ยวกลางร่อง ระยะห่างนั้นตามแต่ขนาดของร่อง ควรตากดินทิ้งไว้ 15 วัน จากนั้นจึงนำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกคลุกเคล้าดิน ปลูกลงในหลุม จึงนำต้นพุทราลงปลูก ใช้ไม้ปักหลักผูกให้แน่นเพื่อป้องกันลมโยก จะช่วยให้พุทราตั้งตัวได้เร็วขึ้น
การปฏิบัติดูแลรักษา
พุทราเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆได้ดี การดูแลรักษาเช่นเดียวกับการปลูกพืชชนิดอื่นๆ ควรให้น้ำวันละ 1 ครั้ง หลังปลูกจนถึง 3 เดือน จากนั้นจึงให้น้ำวันเว้นวันไปจนถึงเดือนที่ 6 พอเริ่มเดือนที่ 7 ต้นพุทราก็จะเริ่มติดดอกพร้อมให้ผลผลิต ช่วงนี้จะต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง การกำจัดวัชพืชควรกำจัดปีละ 2 ครั้ง โดยใช้มือถอนหรือดายหญ้าพร้อมกับการพรวนดิน การใส่ปุ๋ย เกษตรกรจะต้องใช้ปุ๋ยนมสดที่ผลิตขึ้นเองจากการนำเอาปุ๋ยหมักมาผสมกับน้ำนมสดหมักทิ้งไว้ประมาณ 20 วันจึงนำไปใช้ได้ การใส่ปุ๋ยจะใช้วิธีฉีดลงไปในดิน บริเวณรากของต้นพุทรา โดยใช้ปุ๋ยผสมน้ำ 1 ต่อ 20 ลิตร ฉีดเข้าใต้ผิวดินทุก 5 วันจนต้นพุทราอายุได้ 6 เดือน จะช่วยให้ผลมีขนาดใหญ่ กรอบนุ่ม และมีกลิ่นของนมสดการตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตได้เร็วมาก หากไม่มีการตัดแต่งกิ่งจะให้ผลที่มีขนากเล็กและปริมาณน้อย การตัดแต่งกิ่งเรียกว่าเป็นการตัดแต่งอย่างหนัก นั่นคือตัดแต่งให้เหลือแต่ก้านใหญ่ๆจนถึงเหลือแต่ตอ คงเหลือกิ่งใหญ่ไว้ประมาณ 4-5 กิ่งรอบทิศทางทรงต้น จะช่วยให้โครงสร้างต้นที่แข็งแรงกิ่งจะสมบูรณ์กว่ากิ่งเก่า สะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่าย อีกทั้งเป็นการบังคับให้แตกกิ่งก้านพร้อมๆกัน และให้ผลผลิตอย่างสม่ำเสมอ หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จแล้วควรทาแผลด้วยปูนแดง ป้องกันเชื้อราเข้าไปทำลายที่จะทำให้ต้นพุทราตายได้ ระยะเวลาตัดแต่งกิ่งควรเป็นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะทำให้เก็บผลผลิตได้ประมาณเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม หากเกษตรกรปลูกในที่ลุ่ม ควรตัดแต่งกิ่งประมาณเดือนสิงหาคม จะทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม การตัดแต่งกิ่งเพื่อบังคับหรือคำนวณเวลาที่เหมาะสมนั้น จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 2 ครั้ง การค้ำกิ่งและจัดระเบียบกิ่ง การค้ำกิ่งจะช่วยให้การรับน้ำหนักของกิ่งไม่ฉีกขาด และผลพุทราจะไม่โน้มถึงพื้นดินทำให้สกปรกและเกิดโรคได้ การค้ำกิ่งจะทำเมื่อกระโดงกิ่งแตกขึ้นมาใหม่ ยาวประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร ใช้ไม้รวกปักบนดินแล้วดึงกิ่งมาผูกไว้กับไม้รวกที่ทำเป็นสี่เหลียมคล้ายคอกสี่เหลี่ยม เมื่อกิ่งยื่นยาวออกไปจะต้องเพิ่มกิ่งไม้รวกขึ้นอีก พร้อมกับตัดแต่งกิ่งให้แยกออกไปรอบๆทรงต้น ไม่ให้กิ่งทับซ้อนกัน หลังจากตัดแต่งกิ่งประมาณ 1-2 เดือน กิ่งใหม่ก็จะเริ่มออกดอกตามข้อ ดอกจะออกเป็นพะวงหรือเป็นกระจุก ในหนึ่งพวงจะมีดอกประมาณ 10-15 ดอก ดอกจะร่วงและเหลือติดข้อประมาณ 1-6 ผลผลผลิต พุทรานมสดจะให้ผลผลิตหลังจากปลูกประมาณ 6 เดือน ระยะแรกไม่ควรเก็บผลผลิต ควรปลิดทิ้งเพราะต้นพุทราอายุน้อยเกินไป ต้นยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ควรตัดแต่งรอผลผลิตรุ่นที่สอง หลังจากตัดแต่งกิ่งประมาณ 4-6 เดือน จากนั้นพุทราจะให้ผลผลิตเกือบตลอดทั้งปี แต่เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพพุทรานมสด ควรเก็บผลผลิตปีละครั้ง ก็ได้ผลผลิตที่คุ้มทุน มีกำไรมากเพียงพอกว่าปลูกพืชชนิดอื่น
สำหรับรายได้ โดยเฉลี่ยแล้วพื้นที่ 1 ไร่ ใช้ระยะปลูก 5x5 เมตร สามารถปลูกได้ 64 ต้น จะได้ผลผลิตปีละ 50 กิโลกรัมต่อต้น ในรอบ 1 ปี จะได้รับผลผลิตประมาณ 3,200 กิโลกรัม ราคาขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 31 บาท เกษตรกรจะได้รายได้เฉลี่ยปีละ 112,000 บาทต่อไร่
ข้อมูลดีๆ จากเปิดโลกเกษตรกับ ดร.พรชัย เหลืองอาภาพงษ์ ดูรายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://img685.imageshack.us/img685/354/78168626.jpg

ราคา 150.00 บาท ติดต่อ สุขใจ จีนอ่อน โทร. 0891758253 0891758253

ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 10 เดือน

โทรศัพท์