พรรณไม้น้ำ (Aquatic Plant)

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
กกอียิปต์

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไผ่ปล้องดำราคาถูกต้นใหญ่ ที่นี้เป็นแหล่งผลิตไผ่ปล้องดำ ไม้น้ำสำหรับตกแต่งสวน
บ่อบัว และตกแต่งขอบสระบ่อ หรือบึงเพื่อให้เกิดความสวยงาม

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ชื่อไทย : สาหร่ายเส้นด้าย สาหร่ายนา
ชื่อสามัญ : Bushy pond weed
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Najas graminea Del.
ชื่อวงศ์ : NAJADACEAE
ถิ่นกำเนิด : -
ข้อมูลทั่วไป :
เป็นสาหร่ายน้ำจืดมีอายุหลายฤดู ชอบขึ้นในที่น้ำนิ่ง เช่นหนองบึง สระน้ำทั่วไป ลักษณะลำต้นกลม ผอม ยาว แตกกิ่งก้านมาก มีรากออกตามข้อ ใบมีลักษณะแคบยาวเป็นเส้นเดี่ยว ขอบใบจักเป็นฟันเล็ก ๆ ห่าง ๆ โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ใบมีเป็นจำนวนมาก เรียงตัวตรงข้ามกัน ดอกมีขนาดเล็กมากออกตามมุมโคนใบ
ประโยชน์ :
เป็นอาหารของสัตว์น้ำต่างๆในหนองน้ำและทุ่งนา แก้เสมหะ แก้ในทางเตโชธาตุ ถอนพิษผิดสำแดง หรือที่เรียกว่าอาหารเป็นพิษ
แหนแดง (อังกฤษ: Mosquito fern, Water fern) เป็นพืชน้ำเล็ก ๆ พวกเฟิร์นพบเจริญเติบโตอยู่บนผิวน้ำในที่มีน้ำขังในเขตร้อนและอบอุ่นทั่วไป
แหนแดงเป็นเฟินน้ำ ขนาดเล็ก ลอยบนผิวน้ำ ต้นแก่ที่ได้รับแสงเต็มที่จะเป็นสีแดงคล้ำ ต้นอ่อนหรือได้รับแสงไม่เต็มที่จะเป็นสีเขียว แตกกิ่งแบบขนนก รากเป็นรากพิเศษ ยาวอยู่ทางด้านใต้ของลำต้น ทั้งต้นและกิ่งมีใบขนาดเล็กปกคลุม เรียงสลับซ้อนกัน ใบแต่ละใบแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนบนหนา สีเขียวหรือสีแดง ส่วนล่างบางอยู่ใต้น้ำ ไม่ค่อยมีสี ใบล่างสุดสร้าง sporocrap 2-4 อัน ที่แกนของใบด้านใต้ใบ ภายในมีเมกะสปอร์และไมโครสปอร์
ในใบของแหนแดงมีโพรงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของ Anabenaeซึ่งเป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน Anabenaeได้รับสารอาหารจากแหนแดง ส่วนแหนแดงจะได้ไนโตรเจนจากการตรึงไนโตรเจนของ Anabenae
องค์ประกอบที่สำคัญได้แก่โปรตีน ไขมัน และเซลลูโลส แร่ธาตุ แหนแดงต้องการธาตุอาหารหลักที่สำคัญได้แก่ ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุโปตัสเซียม และจุลธาตุที่สำคัญได้แก่ เหล็ก และ โมลิบดินัม ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเอนไซม์ไนโตรจิเนส ในการตรึงไนโตรเจน แหนแดงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่อุณหภูมิ 5 – 45องศาเซลเซียส เจริญได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 20 – 30 องศาเซลเซียส แหนแดงจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดที่มีแสงประมาณ 50 – 70 เปอร์เซ็นต์ของแสงสว่าง พีเอชที่เหมาะสมที่แหนแดงเจริญเติบโตได้ดีที่สุดคือ 4.0 – 5.5 ความลึกของน้ำความลึกที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแหนแดงคือประมาณ 10 เซนติเมตร
ประโยชน์ของแหนแดง
แหนแดงเป็นพืชน้ำมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย เป็นทรัพยากรที่ใช้ไม่หมดสิ้น และแหนแดงมีโปรตีนสูง เน่าสลายปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย มีประโยชน์ดังต่อไปนี้
ใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าวทดแทนปุ๋ยเคมีไนโตรเจน โดยที่ในโพรงใบแหนแดง สามารถดึงเอาไนโตรเจนจากอากาศมาใช้สำหรับการเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ แหนแดงมีอัตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C : N) อยู่ระหว่าง 8 – 13 หลังถูกไถกลบ จะย่อยสลายและปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาในระยะเวลาที่สั้นประมาณ 8 สัปดาห์ ทำให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เร็วขึ้น ลดปริมาณวัชพืชในนาข้าว แหนแดงจะคลุมผิวน้ำป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องลงไปในน้ำ ทำให้วัชพืชในน้ำเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
แหนแดงสามารถเลี้ยงได้ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแหนแดงในนาข้าวร่วมกับการเลี้ยงปลา พบว่า มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตข้าวใกล้เคียงกับการเลี้ยงปลาในนาข้าวโดยใช้ปุ๋ยเคมีตามปกติ และยังให้ผลผลิตสูงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนเพียงอย่างเดียว
โครงสร้างของชีวมวลของแหนแดงมีหมู่คาร์บอกซิลและหมู่ฟอสเฟตจึงใช้เป็นตัวดูดซับโลหะหนักได้ โดยแหนแดงที่ทำปฏิกิริยากับแมกนีเซียมคลอไรด์จะดูดซับ ตะกั่ว แคดเมียม ทองแดงและสังกะสีในน้ำเสียได้ดี
เมื่อนำต้นข้าวอ่อนลงปักดำ แหนแดงจะป้องกันต้นข้าวจากการรบกวนของศัตรูพืช เช่น หอยเชอรี่ เพราะหอยจะไปกินแหนแดงแทน นอกจากนี้ ยังทำให้อุณหภูมิของน้ำไม่ร้อนจนเกินไป เมื่อต้นข้าวเจริญเติบโตและแผ่ใบปกคลุมผืนน้ำ แหนแดงจะค่อยๆ ตายเนื่องจากขาดแสงอาทิตย์ ซากแหนแดงเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดีขณะที่ธาตุไนโตรเจนในสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินจะสลายตัวเข้าบำรุงชั้นดินและน้ำให้อุดมสมบูรณ์ภายใน 8 สัปดาห์
แหนแดงมีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ วิตามิน และแคโรตีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประกอบอยู่ในแหนแดงถึง 360 ม.ล.ต่อน้ำหนักแห้ง 1 ก.ก. เมื่อนำไปกินเป็นผักสลัดจึงช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดอาการแก่ก่อนวัย หรือหากเหลือใช้จริงๆ สามารถนำไปใช้เป็นอาหารปศุสัตว์ต่อไปได้ โดยทดลองให้เป็ดกินแล้วพบว่าไข่เป็ดมีสีแดงและมีวิตามินเอสูงกว่าไข่ทั่วไป

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
จอก ดอกละ 40 บาท
ลักษณะทั่วไปของต้นจอก
ต้น เป็นพรรณไม้ที่ชึ้นลอยและเติบโตอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งลำต้นจะอวบน้ำ และมีรากเป็นกระจุก
ใบจอก ออกใบเดี่ยว มีสีเขียว การเรียงใบนั้นจะเป็นวงคล้ายกับรูปถ้วยลักษณะของใบปลายมนจะบานแผ่ออกคล้ายกับใบพันยาว 1-4นิ้วตรงโคนใบจะนูนออกทางด้านหลัง และมีขนอยู่ระหว่างใบกับด้านทั้งสองด้านทั้งสองด้าน
ดอกจอก ออกเป็นช่ออยู่ตรงกลางต้นหรือตรงโคนใบระหว่างกลาง ซึ่งดอกนี้จะมีกาบห่อหุ้มดอกอยู่ 2-3 อันมีเกสรตัวผู้และเมียอยู่ในช่อเดียวกัน
ผล : ลักษณะของผลเป็นแผ่นบาง ๆ ภายในผลมีเมล็ดอยู่ 2-3 เม็ดเปลือกเมล็ดจะมีรอยย่น ๆ
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้น้ำชอบแดดจัด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หรือแยกต้นแขนงอออก ชอบน้ำจืด
ส่วนที่ใช้ : ใบจอก
สรรพคุณของต้นจอก
ใบจอก นำใบที่เจริญเติบโตเต็มที่ และควรจะเก็บใบในหน้าร้อน ถึงจะดีนำมาล้างให้สะอาดตัดรากออกให้หมดพยายามอย่าให้รากติดได้ยิ่งดี นำมาตากแห้งซึ่งจะมีรสเค็ม เย็น และฉุนจะเป็นยาแก้หัดผื่นหรือมีน้ำเหลืองแก้บอบช้ำ ขับปัสสาวะซึ่งวิธีทำคือนำเอาใบแห้งมาต้มกับน้ำ
ข้อห้ามใช้
1. รากมีพิษเล็กน้อย เวลาที่เรานำใบมาต้มควรจะล้างให้สะอาดและตัดรากออกให้หมด
2. สตรีที่ตั้งครรภ์ห้ามรับประทาน
3. จอกเป็นพรรณไม้ที่ดูดสารมีพิษได้ดีมาก ฉะนั้นถ้าขึ้นอยู่ในท้องน้ำที่เป็นพิษ หรือต้นมีรสขมอย่านำมารับประทานเป็นอันขาด
ตำรับยา
1.นำใบสดประมาณ 100 กรัมตากให้แห้งหรือผิงไฟให้แห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งทำเป็นยาเม็ด เพื่อแก้ผื่นคันมีน้ำเหลือง ทยอยกินให้หมดภายใน 1 วัน
2.ใช้ใบสดต้มผสมกับน้ำตาลทรายโดยใช้อย่างละ120กรัมต่อน้ำ 3ถ้วยต้มให้ข้นจนเหลือถ้วยเดียวแล้วรับประทานให้ได้ 3 ครั้งเพื่อที่เป็นยาแก้ท้องมาน หรือบวมน้ำ พอกินเข้าไปแล้วก็จะปัสสาวะออกมาจำนวนมาก
3. หรือให้ใบสดผสมกับน้ำตาลกรวดดำ อุ่นให้ร้อนใช้พอกบริเวณที่ได้รับการกระทบกระเทือน หรือฟกช้ำสารเคมีที่พบ :ใบสดนั้นมีพวกวิตามิน A , B และ C ,มาก มีความชื้นอยู่ 92.9%ไขมัน 0.3%คาร์โบไฮเดรต 2.6 % โปรตีน 1.4 % เส้นใย 0.9 % ฟอสฟอรัส 0.06% แคลเซียม0.20%

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
พรรณไม้น้ำ Elephant's ear เป็นพรรณไม้น้ำขนาดเท่าหูช้าง และมีลักษณะคล้ายหูช้าง
ใช้ตกอต่งสระและบ่อปลาเพื่อความสวยงาม อีกสายพรรณหนึ่ง

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
พรรณไม้น้ำ Arrowhead แอร์โรว์เฮด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Sagittaria montevidensis Cham. et Schlecht) ชื่อสามัญ: Arrow Head, Aztex Head, Giant Arrow Head เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง มีใบที่ดูเหมือนหัวลูกศรหรือหัวปลายธนู เป็นไม้น้ำขนาดกลางไม้โผล่เหนือน้ำ เจริญเป็นกอ สูงประมาณ 50 ซม. ใบเดี่ยวรูปหัวลูกศรเรียงเวียนรอบตัน แผ่นใบหนาสีเขียวเป็นมัน ก้านใบอวบน้ำ ดอกสีขาวแต้มสีน้ำตาลแดงและสีเหลืองที่โคน เกสรสีเหลือง ดอกแบบแยกเพศ ดอกเพศผู้อยู่ด้านบนของช่อดอก ดอกเพศเมียอยู่ด้านล่าง ออกดอกเป็นช่อตั้งที่ซอกใบ ช่อดอกชูขึ้นเหนือพุ่มใบ ออกดอกตลอดปี การขยายพันธุ์ ใช้ปักชำต้นอ่อนที่แตกจากช่อดอก แยกกอ หรือใช้เมล็ด เพาะลงในดินตม ประมาณ 6-7 วัน ต้นอ่อนก็จะงอก ใช้บำบัดน้ำได้เป็นอย่างดี

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
พรรณไม้น้ำ Anachris Egeria Densa เป็นพรรณไม้น้ำบำบัดน้ำได้อย่างดีและตกแต่งสระ
และบ่อได้สวยงาม

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ปัจจุบันสาหร่ายหางกระรอก hydrilla ผักขี้เต่า หาอยากมากขึ้นทุกที เกิดจากขยายตัวของเมืองจึงทำให้พื้นที่บ่อ บึง ลำคลองไม่มีอีกแล้ว ทางลัดดา ได้ทำการเตรียมสาหร่ายหางกระรอกไว้กว่า 17 ไร่ ประโยชน์ของส่าหร่ายคือบำบัดน้ำเสียได้ดีที่สุด ตกแต่งสระน้ำ
และบ่อให้สวยงามสร้างความสมดุลของน้ำ และปลา เป็นอาหาร นี้คือสาเหตุที่ทำให้สาหร่ายหางกระรอกมีค่าเพราะหายาก ทางเราจำหน่ายกิโลกรัมละ 200 บาท สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 082-3224827
ประโยชน์ที่แท้จริง
จากการศึกษาถึงประสิทธิภาพของสาหร่ายหางกระรอก มวล 500 กรัม ต่อการเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำเลี้ยงปลา ปริมาตร 80 ลิตรพบว่าสาหร่ายหางกระรอกมีประสิทธิภาพในการเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำเลี้ยงปลาจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช โดยในช่วงเวลากลางวัน ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำมีปริมาณสูงกว่า 5 มิลลิกรัมต่อลิตรในทุกวันทดลองซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลา ในการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำเลี้ยงปลากับกลุ่มทดลองต่าง ๆ พบว่า กลุ่มทดลองการเลี้ยงปลาในน้ำที่ปลูกสาหร่ายหางกระรอก มีปริมาณออกซิเจนในน้ำสูงกว่ากลุ่มทดลองเลี้ยงปลาเพียงอย่างเดียวแต่ถึงอย่างไรก็ตามเครื่องปั้มอากาศก็ยังให้ผลดีกว่าสาหร่ายหางกระรอก แต่การเลี้ยงปลากัดซึ่งไม่จำเป็นต้องปั้มอากาศอาจใช้ทางเลือกของสาหร่ายหางกระรอก
เพื่อให้ปลากัดของท่านเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากสภาพน้ำเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของปลาครับ หากท่านไม่มีเวลาเปลี่ยนน้ำหรือดูดขี้ปลาออกทุกวันๆ สาหร่ายหากกระรอกจึงเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว เพราะสาหร่ายหางกระรอกนั้นจะช่วยจับขี้ปลาให้ติดอยู่กับต้นของสาหร่ายหางกระรอก และทำให้น้ำเน่าเสียช้ากว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสวยงามให้กับเหลี่ยมปลาของท่านอีกด้วย

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
เหงือกปลาหมอ(แก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด)
รายละเอียด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำรายาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆ แม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะบรรเทาเบาบางลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสเอดส์ แม้จะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาหมอเป็นทั้งยากินและต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะบรรเทาเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและวิธีใช้ยาก็มีหลายวิธี คือ
วิธีต้มยากินและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆ ใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มกินขณะอุ่นๆ ครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แต่ถ้ามีเหงือกปลาหมอเป็นจำนวนมาก อาจจะต้มยาเพื่อแช่ทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้ง 5 ทีตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กอาจจะกินครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและน้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า-เย็น กินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาย แต่ถ้าเป็นโรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันบกพร่องก็ต้องกินตลอดไป
วิธีทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการร่อนเป็นผงละเอียดเหมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนอาหาร เด็กลดลงตามส่วน
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณมากมาย เช่น
-ราก มีสรรพคุณในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีสรรพคุณรักษาโรคหลายชนิด โดยใช้ต้นตำผสมน้ำดื่มรักษาวัณโรค อาการซูบผอม ถ้าใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆ ก็จะได้สรรพคุณทางยาแตกต่างกันออกไปอีก
-ทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มกินแก้พิษฝีดาษ ฝีทั้งปวง ผลกินเป็นยาขับโลหิตระดู นอกจากนั้น ถ้าตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาทั้งตัว
- ทั้งต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน คุดทะราด เป็นไข้จับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ซูบผอมเหลืองทั้งตัว กินทุกวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือนิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำจนเดือดให้งวดจึงยกลง กลั้นใจกินขณะอุ่นจนหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว เวียนหัว ตามัว เจ็บระบมทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" ทั้ง 5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามต้องการ ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้จักเหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงเพราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงกินกับน้ำร้อนถ้าผิวแตกทั้งตัวหายได้ ทั้งหมดที่บอกเป็นตำรายาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ รู้ไว้เป็นวิชา

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไผ่น้ำปล้องดำ Equisetum เป็นไผ่ที่มีความสวยงามและเหมาะกับการนำไปตกแต่งสระ บ่อน้ำ สวนสวยได้ เพิ่มความสวยงามได้เป็นอย่างดี เรามีเพียงพอสำหรับงานโครงการและงานใหญ่ งานเล็กๆ งานแสดงสินค้า สนใจข้อมูล

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ลักษณะ :
พืชล้มลุกอายุหลายปี มีเหง้าใหญ่ ต้นเหนือดินเป็นกอ สูง 30-120 ซม. ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับ คล้ายรูปโล่ กว้าง 5-18 ซม. ยาว 7-20 ซม. โคนใบเว้าลึกคล้ายรูปศรก้านใบยาว 60 ซม. ส่วนโคนแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ดอก สีม่วง ออกเป็นช่อใกล้ส่วนปลายก้านใบ มีกายรองรับ ดอกย่อยจำนวนมาก กลีบรวม 6 กลีบ เรียงตัว 2 ชั้น เกสรผู้ 6 อัน แบ่งเป็นสีเหลือง 5 อัน และสีม่วง 1 อัน ขนาดผ่านศูนย์กลาง 2 ซม. เมื่อดอกได้รับการผสม กลีบรวมจะรัดห่อหุ้มผล ส่วนปลายกลีบบิดเป็นเกลียว ผล รูปรี ขนาด 1ซม. แห้งแล้วแตก เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ผิวเป็นสันนูนตามยาว ขนาด 0.8 ซม
การกระจายพันธุ์ : มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบขึ้นตามริมหนองน้ำ คลองและบึง ทั่วทุกภาคของประเทศออกดอกตลอดปี
ประโยชน์ :
ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบอ่อนรับประทานเป็นผักสด หรือตากแห้งใช้จักสาน ทุกส่วนหั่นฝอยนำมาเลี้ยงสุกร หรือทำปุ๋ยหมักได้

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
โพลงก้านเหลี่ยม โพลงก้านเหลี่ยม", "ผักตบแอฟริกัน"
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Monochoria elata Ridl. var.quardrata
ชื่อวงศ์ :PONTEDERIACEAE
ลักษณะทั่วไป :เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบกอายุข้ามฤดู ชอบขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มในน้ำที่ท่วมขังตื้น ๆ เช่นในนาข้าว คูน้ำข้างถนน แต่พบไม่มากนัก มีรากหยั่งดิน ก้านใบผอมเรียวยาวเป็นเหลี่ยม ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบแคบเรียวยาวคล้ายหัวลูกศร ฐานใบเว้าลึก มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับก้านใบ ดอกออกเป็นช่อสีม่วงที่ก้านใบ มีกาบหุ้มคล้ายดอกผักตบไทย แต่มีก้านช่อดอกยาวกว่าผักตบไทย

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
พรรณไม้น้ำ : ผักตบฮาวาย
"โพลงก้านเหลี่ยม", "ผักตบฮาวาย"
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Monochoria elata Ridl. var.quardrata
ชื่อวงศ์ :PONTEDERIACEAE
ลักษณะทั่วไป :เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบกอายุข้ามฤดู ชอบขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มในน้ำที่ท่วมขังตื้น ๆ เช่นในนาข้าว

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ผักตบไทย
ประเภทพรรณไม้น้ำที่ขึ้นริมคู ประเภทนี้เป็นไม้น้ำที่มีความอดทนมาก เลี้ยงง่าย และเจริญเติบโตโดยไม่ต้องมีการดูแลรักษามากนัก เหมาะสมหรับสวนที่ออกแบบอิงตามธรรมชาติมาก บางครั้งต้นอยู่บนฝั่งแต่สามารถแตกหน่อเลื้อยลงไปสู่น้ำและมีการขยายพันธ์ไปเรื่อย ๆ พรรณไม้น้ำประเภทนี้ ก็จำพวก ต้นเตย ต้นขาเขียด ต้นตาลปัตรฤาษี ต้นโมกข์น้ำ เป็นต้น มักเป็นที่นิยมสำหรับการสร้างบรรยากาศธรรมชาติในริมสระขนาดใหญ่ เช่น ตามร้านอาหาร หรือสวนกลางน้ำที่ใช้สระน้ำเป็นตัวช่วยในการสร้างเสริมบรรยากาศ

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ลักษณะทั่วไป :
เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบกอายุฤดูเดียว ชอบขึ้นในที่น้ำท่วมขังตื้น ๆ เช่นในนาข้าว มีราก
หยั่งดิน ใบเป็นรูปหัวใจสีเขียวเข้มเป็นมันใบแตกแบบสลับเป็นสองแถบ ก้านใบยาวโคนก้าน
แผ่ ออกเป็นกาบ ช่อดอกออกที่บริเวณโคนก้านใบ โดยแทงช่อออกมาตรงข้ามกับกาบที่หุ้ม
ช่อดอก ช่อดอกหนึ่ง ๆ จะมีดอกย่อยสีม่วง 6-15 ดอก กลีบดอกมี 6 กลีบ โคนกลีบติดกัน
มีเมล็ดมาก
ประโยชน์ :
ดอกอ่อนและก้านใบใช้รับประทานได้

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
PONTEDERIACEAE พรรณไม้น้ำ : ผักตบแอฟริกัน
"โพลงก้านเหลี่ยม", "ผักตบแอฟริกัน"
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Monochoria elata Ridl. var.quardrata
ชื่อวงศ์ :PONTEDERIACEAE
ลักษณะทั่วไป :เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบกอายุข้ามฤดู ชอบขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มในน้ำที่ท่วมขังตื้น ๆ เช่นในนาข้าว คูน้ำข้างถนน แต่พบไม่มากนัก มีรากหยั่งดิน ก้านใบผอมเรียวยาวเป็นเหลี่ยม ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบแคบเรียวยาวคล้ายหัวลูกศร ฐานใบเว้าลึก มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับก้านใบ ดอกออกเป็นช่อสีม่วงที่ก้านใบ มีกาบหุ้มคล้ายดอกผักตบไทย แต่มีก้านช่อดอกยาวกว่าผักตบไทย

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
โพลงก้านเหลี่ยม "ผักตบแอฟริกัน"
ปัจจุบัน พันธุ์ไม้น้ำ ชื่อ โพลงก้านเหลี่ยม "ผักตบแอฟริกัน" หายากขึ้นทุกวัน เพราะพื้นที่ถูกนำไปปลูกอาคาร ที่พักอาศัยกันมาก จึงทำ โพลงก้านเหลี่ยม "ผักตบแอฟริกัน" ค่อยๆเลื่อนหายจากวัฐจักรพรรณไม้น้ำ กลายเป็นพรรณไม้น้ำหายากในที่สุด ทางสวนบัวลัดดา มีการรวบรวมสายพันธู์ไม้น้ำหายากไว้มากมาย เพื่อการศึกษและจำหน่ายสำหรับผู้ที่กำลังมองหาในเรื่องการนำไปแปลรูป สมุนไร หรือตกแต่งสวยได้ดี สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 082-3224827

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ชื่อที่เรียก
ปรงทะเล ปรงทอง ปรงไข่
ชื่ออื่นๆ
ปรงทะเล ปรงทอง ปรงไข่
หมวดหมู่ทรัพยากร
พืช
ลักษณะ
จัดเป็นพวกเฟิร์นที่มีขนาดใหญ่ ชอบขึ้นในที่น้ำเค็มขึ้นถึง แต่ก็สามารถเจริญเติบโตในเขตน้ำจืดได้ดี พบมากบริเวณชายคลอง หรือพื้นที่ราบใกล้แม่น้ำ มีลำต้นใต้ดินเป็นแท่งใบมีขนาดใหญ่เป็นใบประกอบคล้ายขนนก ยาวประมาณ 1 เมตร ใบย่อยยาวประมาณ 30 ซม. รูปร่างคล้ายหอกแคบยาว ปลายใบมน ชอบใบเรียบเป็นคลื่น ด้านล่างของใบย่อยสร้างสปอร์ มีอับสปอร์กระจายคลุมผิวใบท้องใบมักมีจุดสีน้ำตาลแดง ยอดอ่อนมีสีออกแดง
ประโยชน์
ประดับตกแต่ง
แหล่งที่พบ
ทั่วไป
ตำบล
หนามแท่ง
อำเภอ
ศรีเมืองใหม่
จังหวัด
อุบลราชธานี
ฤดูกาลใช้ประโยชน์
ทุกฤดู
ศักยภาพการใช้งาน
ประดับตกแต่ง
ชื่อสามัญ
Leather fern, Swamp fern
ชื่อวิทยาศาสตร์
Acrostichum aureum L.
ชื่อวงศ์
DENNSTAEDTIACEAE
แหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.ku.ac.th/AgrInfo/thaifish/aqplant/aqpin

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ปรงทะเลใบสีเพลิง เป็นสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ลักษณะสีของใบเป็นสีเพลิง
งดงาม เหมาะกับการตกแต่งขอบบ่อ สระ งานออกแบบสวนต่างๆ จะทำให้เกิดความงามแบบป่าดิบชื่น สไตร์บาหลี ของมีจำนวนจำกัด

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ชื่อที่เรียก
ปรงทะเล ปรงทอง ปรงไข่
ชื่ออื่นๆ
ปรงทะเล ปรงทอง ปรงไข่
หมวดหมู่ทรัพยากร
พืช
ลักษณะ
จัดเป็นพวกเฟิร์นที่มีขนาดใหญ่ ชอบขึ้นในที่น้ำเค็มขึ้นถึง แต่ก็สามารถเจริญเติบโตในเขตน้ำจืดได้ดี พบมากบริเวณชายคลอง หรือพื้นที่ราบใกล้แม่น้ำ มีลำต้นใต้ดินเป็นแท่งใบมีขนาดใหญ่เป็นใบประกอบคล้ายขนนก ยาวประมาณ 1 เมตร ใบย่อยยาวประมาณ 30 ซม. รูปร่างคล้ายหอกแคบยาว ปลายใบมน ชอบใบเรียบเป็นคลื่น ด้านล่างของใบย่อยสร้างสปอร์ มีอับสปอร์กระจายคลุมผิวใบท้องใบมักมีจุดสีน้ำตาลแดง ยอดอ่อนมีสีออกแดง
ประโยชน์
ประดับตกแต่ง
แหล่งที่พบ
ทั่วไป
ตำบล
หนามแท่ง
อำเภอ
ศรีเมืองใหม่
จังหวัด
อุบลราชธานี
ฤดูกาลใช้ประโยชน์
ทุกฤดู
ศักยภาพการใช้งาน
ประดับตกแต่ง
ชื่อสามัญ
Leather fern, Swamp fern
ชื่อวิทยาศาสตร์
Acrostichum aureum L.
ชื่อวงศ์
DENNSTAEDTIACEAE
แหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.ku.ac.th/AgrInfo/thaifish/aqplant/aqpin

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไม้น้ำ ต้นหูกวางน้ำ เป็นไม้น้ำพันธุ์ใหม่จากสวนบัวลัดดา มีความสวยงาม เขียวสด กิ่งก้านเหมือนเขากว้าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะแก่การตกแต่งสระ และบ่อบัว ตามสถานที่ต่าง
ที่ต้องใช้ไม้น้ำตกแต่ง ของมีจำนวนจำกัดและอยู่สินค้าขายดีที่สุดของปี 2012

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
เป็นไม้น้ำจากประเทศญี่ปุ่นสวยงาม น่ารัก ออกดอกเยอาะ มีที่เราเพียงที่เดียว
สีชมบานเย็น กำลังเป็นที่นิยม เหมาะกับการตกแต่งสวนน้ำ บ่อ สระ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ทำให้น้ำสะอาด

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
เป็นไม้น้ำจากประเทศญี่ปุ่นสวยงาม น่ารัก ออกดอกเยอาะ มีที่เราเพียงที่เดียว
สีชมบานเย็น กำลังเป็นที่นิยม เหมาะกับการตกแต่งสวนน้ำ บ่อ สระ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ทำให้น้ำสะอาด

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
La Flor del Camalote blue ion เป็นไม้น้ำที่หายากชนิดหนึ่งให้สี ฟ้าอ่อน สวยงาม มีเสนห์
เหมาะกับตกแต่ บ่อ สระ ทำให้บริเวณนั้นมีชิวิต ชีวา

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
สวนบัวลัดดามี พรรณไม้น้ำ มากมายบนพื้นที่ 17 ไร่ มีทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างประเทศที่น่าสนใจเหมาะกับการตกแต่งสวนที่มีความหลายหลายรูปแบบที่จำเป็นต้องใช้ไม้น้ำ เราจึงเป็นตลาดส่งออกไม้น้ำที่ใหญที่สุดในเอเชีย ราคาและคุณภาพเป็นของที่สวนบัวลัดดารักษามากว่า 60 ปี

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ชื่อวิทยาศาสตร์ ottelia alismoides
(L.) Pers.
อันดับ -
ชื่อวงศ์ HYDROCHARITACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่อพื้นบ้าน สันตะวา ผักโตวา ผักกะโต
วา ผักโหมเหบ น้ำไหล
โฮมเฮม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ต้น ไม้น้ำมีรากยึดติดดินส่วนต่างๆ ของต้นอยู่ใต้น้ำ (ยกเว้นดอก) ลำต้นสั้นมากไม่มีไหล
มีแต่รากย่อย
- ใบ ใบเดี่ยวรูปร่างของใบเป็นรูปหัวใจหรือรูปใบหอก ใบกว้าง 3-15 ซม. ยาว 5-17 ซม.
ก้านใบยาวแผ่นใบไม่เรียบมีลักษณะขยุกขยิกเป็นคลื่นบางและกรอบ ฐานใบกลมหรือมักเว้าเป็นรูป
หัวใจ ขอบใบเรียบหรือหยิกเป็นคลื่น
- ดอก ดอกเดี่ยวสีขาวก้านดอกยาวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเล็กน้อย โคนกลีบสีเหลืองมีกลีบ
3 กลีบ กลีบดอกร่วงง่าย
- ผล ผลมีปีกขยุกขยิกเช่นเดียวกับแผ่นใบ เมล็ดมีจำนวนมากเมื่อแก่มีสีม่วงดำ
กลุ่มพรรณไม้น้ำ
ประเภทลอยน้ำ
แหล่งที่พบ
พบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ
ประโยชน์และความสำคัญ
ใบอ่อนและยอดอ่อนนำมาประกอบอาหารได้

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไม้น้ำใช้ในการตกแต่งสวนน้ำ สระบัว ทางสวนบัวลัดดามีมากและเพียงพอสำหรับงานออกแบบโครงการหรือบ้านพักอาศัยเพื่อให้ที่พักอาศัยของท่านเขียวชะอุ่มและสดชื่นยาวนาน

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไม้น้ำใช้ในการตกแต่งสวนน้ำ สระบัว ทางสวนบัวลัดดามีมากและเพียงพอสำหรับงานออกแบบโครงการหรือบ้านพักอาศัยเพื่อให้ที่พักอาศัยของท่านเขียวชะอุ่มและสดชื่นยาวนาน

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไม้น้ำใช้ในการตกแต่งสวนน้ำ สระบัว ทางสวนบัวลัดดามีมากและเพียงพอสำหรับงานออกแบบโครงการหรือบ้านพักอาศัยเพื่อให้ที่พักอาศัยของท่านเขียวชะอุ่มและสดชื่นยาวนาน

laddagarden | ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี
ไม้น้ำใช้ในการตกแต่งสวนน้ำ สระบัว ทางสวนบัวลัดดามีมากและเพียงพอสำหรับงานออกแบบโครงการหรือบ้านพักอาศัยเพื่อให้ที่พักอาศัยของท่านเขียวชะอุ่มและสดชื่นยาวนาน