ชื่อสินค้า:
พิลังกาสา ขายเมล็ดพันธุ์/ต้นกล้า/ใบสดตากแห้ง
รหัส:
389111
ประเภท:
ราคา:
50.00 บาท
/1 ชุด 50 บาทบรรจุ 200 เมล็ด
ติดต่อ:
คุณอังศรา ไพฑูรย์
ที่อยู่ร้าน:
อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 10 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
แบรนด์:
เมล็ดพันธุ์ดีเกษตรวิถีไทย
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
สมุนไพรพิลังกาสาขายเมล็ดพันธุ์ 1 ชุด 50 บาทบรรจุ 100 เมล็ดต้นกล้าต้นละ 100 บาทขนาดประมาณ 50-60 cm สนใจโทร 087-606-9955 ID LINE a u n g s a r a 09 เก็บเงินปลายทาง สรรพคุณของพิลังกาสา
ผลสุกนำมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน หรือใช้ผงยา 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำครึ่งแก้วดื่มช่วยบำรุงโลหิต (ผล)
ช่วยแก้ธาตุพิการ (ผล)
ผลใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ในกองอติสารโรค (ผล)
ใบมีรสร้อน ช่วยแก้อาการไอ (ใบ)
ใบใช้เป็นยาแก้ลม (ใบ)
ช่วยแก้ปอดพิการ (ใบ)
ใบและผลช่วยแก้ท้องเสีย (ใบ, ผล)
ดอกใช้เป็นยาแก้พยาธิ (ดอก)
รากใช้เป็นยาแก้กามโรค หนองใน (ราก)
ช่วยแก้โรคระดูของสตรี ด้วยการนำผลสุกมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน (ผล)
ใบใช้เป็นยารักษาโรคตับพิการ (ใบ)
รากใช้เป็นยาพอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด แก้พิษงู หรือใช้กากพอกแผล เอาน้ำกิน (ราก)
เมล็ดช่วยแก้ลมพิษ (เมล็ด ผล
ดอกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค (ดอก)
ต้นใช้เป็นยาฆ่าพยาธิผิวหนัง (ต้น)
ต้นใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน กุฏฐัง (ต้น) ส่วนผลใช้แก้โรคเรื้อน (ผล)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของพิลังกาสา
สารที่พบ คือ -amyrin, rapanone
สมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยยับยั้ง platelet activating factor receptor binding[2] มีฤทธิ์เหมือนฮีสตามีน ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด รักษามาลาเรีย แก้อาการท้องเสีย แก้เกลื้อน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อ Aspergillus
ประโยชน์ของพิลังกาสา
ผลอ่อน ใบอ่อน ยอดอ่อนมีรสชาติฝาดมัน เปรี้ยวอมหวาน ใช้รับประทานเป็นผักเหนาะได้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยได้นำผลสุกของพิลังกาสามาทำเป็น “ไวน์พิลังกาสา” และได้นำไวน์นั้นไปตรวจวิเคราะห์ พบว่ามีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin), สารฟีโนลิค (Phenolic) และฟลาโวนอยด์ (Phenolic flavannoid) สูง จึงเหมาะจะส่งเสริมทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ เนื่องจากสารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันเส้นเลือดตีบและเส้นเลือดอุดตัน ฯลฯ
ผลของพิลังกาสาสุกจะเป็นสีม่วงเข้มจนเกือบดำ โดยสีม่วงนี้จะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองอุดตัน นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไล (E. coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษได้อีกด้วย
ต้นพิลังกาสาเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามสถานที่ราชการหรือตามสวนสาธารณะทั่วไป เพาะปลูกได้ง่าย อีกทั้งดอกยังมีความสวยงามและออกดอกดกเป็นกลุ่มใหญ่
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 25 Jan 25 01:15
ผลสุกนำมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน หรือใช้ผงยา 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำครึ่งแก้วดื่มช่วยบำรุงโลหิต (ผล)
ช่วยแก้ธาตุพิการ (ผล)
ผลใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ในกองอติสารโรค (ผล)
ใบมีรสร้อน ช่วยแก้อาการไอ (ใบ)
ใบใช้เป็นยาแก้ลม (ใบ)
ช่วยแก้ปอดพิการ (ใบ)
ใบและผลช่วยแก้ท้องเสีย (ใบ, ผล)
ดอกใช้เป็นยาแก้พยาธิ (ดอก)
รากใช้เป็นยาแก้กามโรค หนองใน (ราก)
ช่วยแก้โรคระดูของสตรี ด้วยการนำผลสุกมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน (ผล)
ใบใช้เป็นยารักษาโรคตับพิการ (ใบ)
รากใช้เป็นยาพอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด แก้พิษงู หรือใช้กากพอกแผล เอาน้ำกิน (ราก)
เมล็ดช่วยแก้ลมพิษ (เมล็ด ผล
ดอกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค (ดอก)
ต้นใช้เป็นยาฆ่าพยาธิผิวหนัง (ต้น)
ต้นใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน กุฏฐัง (ต้น) ส่วนผลใช้แก้โรคเรื้อน (ผล)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของพิลังกาสา
สารที่พบ คือ -amyrin, rapanone
สมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยยับยั้ง platelet activating factor receptor binding[2] มีฤทธิ์เหมือนฮีสตามีน ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด รักษามาลาเรีย แก้อาการท้องเสีย แก้เกลื้อน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อ Aspergillus
ประโยชน์ของพิลังกาสา
ผลอ่อน ใบอ่อน ยอดอ่อนมีรสชาติฝาดมัน เปรี้ยวอมหวาน ใช้รับประทานเป็นผักเหนาะได้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยได้นำผลสุกของพิลังกาสามาทำเป็น “ไวน์พิลังกาสา” และได้นำไวน์นั้นไปตรวจวิเคราะห์ พบว่ามีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin), สารฟีโนลิค (Phenolic) และฟลาโวนอยด์ (Phenolic flavannoid) สูง จึงเหมาะจะส่งเสริมทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ เนื่องจากสารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันเส้นเลือดตีบและเส้นเลือดอุดตัน ฯลฯ
ผลของพิลังกาสาสุกจะเป็นสีม่วงเข้มจนเกือบดำ โดยสีม่วงนี้จะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองอุดตัน นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไล (E. coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษได้อีกด้วย
ต้นพิลังกาสาเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามสถานที่ราชการหรือตามสวนสาธารณะทั่วไป เพาะปลูกได้ง่าย อีกทั้งดอกยังมีความสวยงามและออกดอกดกเป็นกลุ่มใหญ่
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 25 Jan 25 01:15