ค้นหาสินค้า

ต้นสกุณี

ร้าน วรากรสมุนไพร
ชื่อสินค้า:

ต้นสกุณี

รหัส:
387287
ราคา:
300.00 บาท /ต้น
ติดต่อ:
คุณปุณณภา งานสำเร็จ
ที่อยู่ร้าน:
อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์ เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
ปุ่มติดต่อ:
ค่าขนส่ง:
70 บาท
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
ต้นสกุณี สกุณี
ชื่อสามัญ Philippine almond, Yellow terminalia
ชื่อวิทยาศาสตร์ Terminalia calamansanay Rolfe
วงศ์สมอ (COMBRETACEAE)
ชื่อท้องถิ่น แฮ้น (นครสวรรค์, ชุมพร), ตีนนก (จันทบุรี, ตราด), สัตคุณี (ราชบุรี), ขี้มอด (นครปฐม), ตาโหลน (สตูล), แหนแดง (ภาคเหนือ), ประคำขี้ควาย (ภาคใต้), เปียแคร้ (เขมร-จันทบุรี) เป็นต้น
ลักษณะของสกุณี ต้นสกุณี จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ต้นมีความสูงได้ประมาณ 8-30 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาที่เรือนยอดของต้น ซึ่งจะแผ่กว้างแบนและมักมีพูพอนขนาดเล็กที่โคนต้น เปลือกต้นแตกเป็นร่องตื้น ๆ ตามยาว สีน้ำตาลอมเทา เปลือกในเป็นสีน้ำตาล ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนขึ้นปกคลุมหรืออาจเกลี้ยง ทิ้งใบในช่วงสั้น ๆ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนและใช้เมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย พบขึ้นทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงฟิลิปปินส์และนิวกินี ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นตามป่าเบญจพรรณในระดับต่ำที่ความสูงไม่เกิน 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ใบสกุณี ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับไปตามข้อต้นอัดกันแน่นใกล้ปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 9-18 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง มีขนนุ่มขึ้นปกคลุมทั้งสองด้าน หลังใบด้านบนมักเป็นมันเงาและมีตุ่มเล็ก ๆ บนผิวใบ ส่วนท้องใบด้านล่างมีนวลสีน้ำตาลเทา เส้นกลางใบนูนด้านบน มีเส้นแขนงใบข้างละ 6-8 เส้น โค้งจรดกันก่อนถึงขอบใบ ส่วนเส้นใบย่อยเป็นแบบขั้นบันได ก้านใบเรียว ยาวประมาณ 1-4 เซนติเมตร และมักมีต่อมหนึ่งคู่อยู่บริเวณกึ่งกลางก้านใบหรือใกล้โคนใบ ขนาดประมาณ 0.1-0.3 มิลลิเมตร ใบก่อนร่วงจะเป็นสีเหลือง
ดอกสกุณี ออกดอกเป็นแกนช่อตามซอกใบและที่ปลายยอด ช่อดอกเป็นแบบช่อเชิงลด ยาวประมาณ 8-16 เซนติเมตร มีขนนุ่มขึ้นปกคลุมอยู่ด้วย ดอกเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวแกมเหลือง มีกลิ่นเหม็น ไม่มีกลีบดอก กลีบเลี้ยงที่โคนเชื่อมติดกัน ส่วนปลายแยกเป็น 5 กลีบ เป็นรูปถ้วยตื้น ๆ ลักษณะของกลีบเป็นรูปสามเหลี่ยม ขนาดยาวประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร ด้านในมีขนยาวประปราย ปลายกลีบโค้งเข้า หลอดกลีบเลี้ยงยาวประมาณ 0.5-0.8 มิลลิเมตร ไม่มีสันตามยาว ดอกเพศผู้จะอยู่ส่วนปลายช่อ ใบประดับรูปเส้นด้าย ยาวประมาณ 0.8-1 มิลลิเมตร ร่วงง่าย ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร อับเรณูติดไหวได้ จานฐานดอกเป็นแฉก จานฐานรองดอกรวมรังไข่ ยาวประมาณ 2-5 มิลลิเมตร รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ รูปพีระมิด มี 1 ช่อง มีออวุล 2-3 เม็ด ส่วนก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 3.5-4 มิลลิเมตร มีขนขึ้นปกคลุม เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 2-2.5 มิลลิเมตร โดยจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม[1],ผลสกุณี ลักษณะของผลเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปีกหนา 2 ปีก อยู่ปีกละข้างของผล มีขนสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างและขนาดของผลนั้นจะต่างกัน โดยผลจะมีขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ผลแห้งจะไม่แตก ภายในผลมีเมล็ดเดี่ยว จะติดผลในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน
สรรพคุณของสกุณี
-เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ
-เปลือกต้นสกุณีใช้ผสมกับรากต้นรักดอกขาว นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ตานซางในเด็ก
-ตำรายาไทยจะใช้เป็นยาแก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
-เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้ตกเลือด
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของสกุณี
สารในกลุ่ม ellagitannins ที่แยกได้จากต้นสกุณี (Terminalia calamansanai (Blanco) Rolfe) ได้แก่ 1--O -galloylpunicalagin, 2-O -galloylpunicalin, punicalagin, sanguiin H-4 ความเข้มข้น 100 ไมโครโมล เมื่อนำมาทดสอบกับเซลล์มะเร็ง HL-60 พบว่ามีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 65.2, 74.8, 42.2, และ 38.0 ไมโครโมล ตามลำดับ และเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งแบบ apoptosis โดยทำให้เกิดการแตกหักของ DNA (DNA fragmentation) และกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ caspase 3 แต่จะไม่มีผลต่อเซลล์ปกติ แสดงว่าสาร ellagitannins อาจนำมาพัฒนาเป็นยาป้องกันและรักษาโรคมะเร็งได้[5] ประโยชน์ของสกุณี เนื้อไม้ไม่ค่อยทนทาน แต่ยังสามารถนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน ใช้ในการก่อสร้างภายในตัวอาคารหรือในร่มที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากนัก
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 31 Aug 24 08:05