ชื่อสินค้า:
ต้นชะเมา หว้าดง
รหัส:
381561
ประเภท:
ราคา:
400.00 บาท
/ต้น
ติดต่อ:
คุณปุณณภา งานสำเร็จ
ที่อยู่ร้าน:
อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 1 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
ค่าขนส่ง:
60 บาท
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
ขายต้นชะเมา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium grande (Wight.) Walp.
ชื่อวงศ์ : MYRTACEAE
ชื่อสามัญ : Sea apple tree
ชื่ออื่นๆ : หว้าดง (กาญจนบุรี), กะเมา ขะเม่า เม่า (ภาคใต้), ยามูยิมมา (มลายู-นราธิวาส)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นสูง 20 - 30 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูงถึงค่อนข้างกลม โคนต้นบางครั้งพบว่ามีรากค้ำยันต่ำๆ เปลือกสีเทาแกมขาว ถึงเทาแกมน้ำตาลอ่อน ขรุขระและมักแตกเป็นสะเก็ดหนา เปลือกชั้นในสีน้ำตาล แผ่นใบกว้าง รูปรีถึงรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 8 - 12 เซนติเมตร ยาว 20 - 25 เซนติเมตร ปลายใบทู่ถึงเรียวแหลม โคนใบสอบ กว้างแล้วเรียวแคบตามก้านใบ เส้นแขนงใบ 11 - 14 คู่ ปลายเส้นโค้งจรดกันห่างจากขอบใบ 5 -10 มิลลิเมตร และมีเส้นบางชิดขอบใบอีก 1 เส้น ก้านใบยาว 1.5 - 2 เซนติเมตร
ดอก : ดอกสีขาว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร เกิดเป็นช่อแยกแขนงสั้นๆ ตามง่ามใบและปลายกิ่ง ออกดอกระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มกราคม
ผล : ผลกลมรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 2 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 3 - 3.5 เซนติเมตร ผลแก่สุกสีเขียว บางครั้งแต้มด้วยสีม่วง ผลแก่ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
นิเวศวิทยา และการกระจายพันธุ์ : พบขึ้นในป่าดิบชื้นในที่ราบใกล้ชายฝั่งทะเล และบริเวณป่าพรุทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย บางครั้งพบขึ้นในป่าที่สูง ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในต่างประเทศพบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน ไปจนถึงบอร์เนียว
ประโยชน์
-ลำต้นใช้ประโยชน์เป็นไม้เนื้อแข็งให้น้ำหนักดี
-ดอกมีความสวยงามสีขาว เมื่อบานจะฟูสวยงาม
-ผล จะมีสีเขียว ทานได้ รสมันๆ มักเป็นอาหารของค้างคาวและกระรอก แก้ไขข้อมูลเมื่อ 04 Jun 24 04:17
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium grande (Wight.) Walp.
ชื่อวงศ์ : MYRTACEAE
ชื่อสามัญ : Sea apple tree
ชื่ออื่นๆ : หว้าดง (กาญจนบุรี), กะเมา ขะเม่า เม่า (ภาคใต้), ยามูยิมมา (มลายู-นราธิวาส)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นสูง 20 - 30 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูงถึงค่อนข้างกลม โคนต้นบางครั้งพบว่ามีรากค้ำยันต่ำๆ เปลือกสีเทาแกมขาว ถึงเทาแกมน้ำตาลอ่อน ขรุขระและมักแตกเป็นสะเก็ดหนา เปลือกชั้นในสีน้ำตาล แผ่นใบกว้าง รูปรีถึงรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 8 - 12 เซนติเมตร ยาว 20 - 25 เซนติเมตร ปลายใบทู่ถึงเรียวแหลม โคนใบสอบ กว้างแล้วเรียวแคบตามก้านใบ เส้นแขนงใบ 11 - 14 คู่ ปลายเส้นโค้งจรดกันห่างจากขอบใบ 5 -10 มิลลิเมตร และมีเส้นบางชิดขอบใบอีก 1 เส้น ก้านใบยาว 1.5 - 2 เซนติเมตร
ดอก : ดอกสีขาว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร เกิดเป็นช่อแยกแขนงสั้นๆ ตามง่ามใบและปลายกิ่ง ออกดอกระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มกราคม
ผล : ผลกลมรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 2 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 3 - 3.5 เซนติเมตร ผลแก่สุกสีเขียว บางครั้งแต้มด้วยสีม่วง ผลแก่ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
นิเวศวิทยา และการกระจายพันธุ์ : พบขึ้นในป่าดิบชื้นในที่ราบใกล้ชายฝั่งทะเล และบริเวณป่าพรุทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย บางครั้งพบขึ้นในป่าที่สูง ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในต่างประเทศพบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน ไปจนถึงบอร์เนียว
ประโยชน์
-ลำต้นใช้ประโยชน์เป็นไม้เนื้อแข็งให้น้ำหนักดี
-ดอกมีความสวยงามสีขาว เมื่อบานจะฟูสวยงาม
-ผล จะมีสีเขียว ทานได้ รสมันๆ มักเป็นอาหารของค้างคาวและกระรอก แก้ไขข้อมูลเมื่อ 04 Jun 24 04:17
คำสำคัญ:
พันธุ์ไม้หายาก