ชื่อสินค้า:
ต้นน้ำตาพระศิวะ รุทรักษะ
รหัส:
378463
ประเภท:
ราคา:
500.00 บาท
/ต้น
ติดต่อ:
คุณปุณณภา งานสำเร็จ
ที่อยู่ร้าน:
อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 2 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
ค่าขนส่ง:
60 บาท
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
รุทรักษะ หรือ น้ำตาพระศิวะ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeocarpus ganitrus Roxb. ex G.Don
วงศ์ ELAEOCARPACEAE
ชื่อสามัญ blueberry beads,Rudraksha
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ต้นขนาดกลาง-ใหญ่ โตเร็ว เริ่มมีผลในสามถึงสี่ปี เมื่อต้นไม้เติบโตเต็มที่ รากจะค้ำจุนขึ้นใกล้ลำต้นอย่างแคบและแผ่กระจายไปตามพื้นผิวของพื้นดิน
ใบแก่สีแดงสด ผลสีฟ้าสุกใส จนได้ชื่อว่าเหมือนสีผิวของ"พระศิวะ"ตามความเชื่อของฮินดู, ผลสุกมีเปลือกหุ้มเป็นสีฟ้าอมเทา จึงมีชื่อสามัญอีกชื่อหนึ่งว่า ลูกปัดบลูเบอร์รี่ (blueberry beads)
นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
พบมากตามป่าชื้น เติบโตในพื้นที่ตั้งแต่ที่ราบคงคาบริเวณเชิงเขาหิมาลัยไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย นิวกินี กวม และฮาวาย
#ที่มาของชื่อ
เมล็ดน้ำตาพระศิวะ ชื่อในภาษาอินเดียและเนปาลว่า เมล็ดรุทรักษะ (Rudraksha) เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต 2 คำ คือ Rudra หมายถึงพระศิวะ และ akha หมายถึงดวงตา
เชื่อกันว่าเมื่อพระศิวะ ทรงเห็นความทุกข์ยากของเหล่ามนุษย์ น้ำพระอัสสุชล(น้ำตา)ขององค์พระศิวะหยดลงมาบนพื้นโลก และเมื่อหยดถึงพื้นดินนั้นก็เกิดเป็นต้นไม้ขึ้น พระศิวะจึงได้อำนวยพรให้กับต้นไม้นั้นโดยให้ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลและตั้งชื่อให้ว่าต้นรุทรักษะและอำนวยพรให้แก่มนุษย์ที่ได้นำเมล็ดรุทรักษะไปประดับหรือสวมใส่
สรรพคุณ
ต้นน้ำตาพระศิวะจัดได้ว่าเป็นกษัตริย์แห่งสมุนไพร ใช้กันมากในการแพทย์ของอินเดีย ทั้งอายุรเวท สิทธา อูนานิ และทางการแพทย์พื้นบ้านในอินเดียก็ใช้กันทั่วไป สำหรับแพทย์อายุรเวทเชื่อว่าถ้าได้ใส่สร้อยที่ร้อยมาจากเมล็ดของน้ำตาพระศิวะจะให้ผลดีต่อหัวใจและระบบประสาท ซึ่งทางประเทศอินเดียกล่าวว่าได้พิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า เมล็ดของน้ำตาพระศิวะมีประจุไฟค่อนข้างสูง ซึ่งน่าจะมีผลต่อหัวใจและประสาท
ในทางการแพทย์พื้นบ้านอินเดีย ยังมีการแบ่งประสิทธิภาพของการรักษาด้วยเมล็ดน้ำตาพระศิวะตามโครงสร้างของเมล็ด โดยใช้ร่องและความขรุขระบนผิวของเมล็ดซึ่งเรียกว่า “มูคิชส์”(mukhis) เป็นตัวจัดจำแนก พบว่าเมล็ดน้ำตาพระศิวะมีรูปร่างแตกต่างกันได้ถึง 38 แบบ หรือมีตั้งแต่ 1-38 มูคิชส์ เมล็ดที่มีจำนวน 1 มูคิชส์ พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มี 5 มูคิชส์ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของอินเดียเชื่อว่าเมล็ดน้ำตาพระศิวะ ที่มีมูคิชส์แตกต่างกันมีประสิทธิผลในการรักษาโรคแตกต่างกัน เช่น
1 มูคิชส์ ใช้รักษา โรคที่เกี่ยวข้องกับ ตา กระดูก หัวใจและลดอาการวิตกกังวล
2 มูคิชส์ ใช้รักษา อาการหอบหืด ไตพิการ ภาวะซึมเศร้า
3 มูคิชส์ ใช้รักษา ความดันโลหิตสูง ถุงน้ำดีไม่ปกติ ไข้ อ่อนเพลีย ประจำเดือนไม่ปกติ
4 มูคิชส์ ช่วยทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น รักษาโรคหลงลืม/ความจำเสื่อม ไอ/ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ
5 มูคิชส์ ใช้ควบคุมความดันโลหิต เบาหวาน ลดความเครียด เป็นต้น แก้ไขข้อมูลเมื่อ 26 May 24 08:34
ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeocarpus ganitrus Roxb. ex G.Don
วงศ์ ELAEOCARPACEAE
ชื่อสามัญ blueberry beads,Rudraksha
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ต้นขนาดกลาง-ใหญ่ โตเร็ว เริ่มมีผลในสามถึงสี่ปี เมื่อต้นไม้เติบโตเต็มที่ รากจะค้ำจุนขึ้นใกล้ลำต้นอย่างแคบและแผ่กระจายไปตามพื้นผิวของพื้นดิน
ใบแก่สีแดงสด ผลสีฟ้าสุกใส จนได้ชื่อว่าเหมือนสีผิวของ"พระศิวะ"ตามความเชื่อของฮินดู, ผลสุกมีเปลือกหุ้มเป็นสีฟ้าอมเทา จึงมีชื่อสามัญอีกชื่อหนึ่งว่า ลูกปัดบลูเบอร์รี่ (blueberry beads)
นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์
พบมากตามป่าชื้น เติบโตในพื้นที่ตั้งแต่ที่ราบคงคาบริเวณเชิงเขาหิมาลัยไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย นิวกินี กวม และฮาวาย
#ที่มาของชื่อ
เมล็ดน้ำตาพระศิวะ ชื่อในภาษาอินเดียและเนปาลว่า เมล็ดรุทรักษะ (Rudraksha) เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต 2 คำ คือ Rudra หมายถึงพระศิวะ และ akha หมายถึงดวงตา
เชื่อกันว่าเมื่อพระศิวะ ทรงเห็นความทุกข์ยากของเหล่ามนุษย์ น้ำพระอัสสุชล(น้ำตา)ขององค์พระศิวะหยดลงมาบนพื้นโลก และเมื่อหยดถึงพื้นดินนั้นก็เกิดเป็นต้นไม้ขึ้น พระศิวะจึงได้อำนวยพรให้กับต้นไม้นั้นโดยให้ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลและตั้งชื่อให้ว่าต้นรุทรักษะและอำนวยพรให้แก่มนุษย์ที่ได้นำเมล็ดรุทรักษะไปประดับหรือสวมใส่
สรรพคุณ
ต้นน้ำตาพระศิวะจัดได้ว่าเป็นกษัตริย์แห่งสมุนไพร ใช้กันมากในการแพทย์ของอินเดีย ทั้งอายุรเวท สิทธา อูนานิ และทางการแพทย์พื้นบ้านในอินเดียก็ใช้กันทั่วไป สำหรับแพทย์อายุรเวทเชื่อว่าถ้าได้ใส่สร้อยที่ร้อยมาจากเมล็ดของน้ำตาพระศิวะจะให้ผลดีต่อหัวใจและระบบประสาท ซึ่งทางประเทศอินเดียกล่าวว่าได้พิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า เมล็ดของน้ำตาพระศิวะมีประจุไฟค่อนข้างสูง ซึ่งน่าจะมีผลต่อหัวใจและประสาท
ในทางการแพทย์พื้นบ้านอินเดีย ยังมีการแบ่งประสิทธิภาพของการรักษาด้วยเมล็ดน้ำตาพระศิวะตามโครงสร้างของเมล็ด โดยใช้ร่องและความขรุขระบนผิวของเมล็ดซึ่งเรียกว่า “มูคิชส์”(mukhis) เป็นตัวจัดจำแนก พบว่าเมล็ดน้ำตาพระศิวะมีรูปร่างแตกต่างกันได้ถึง 38 แบบ หรือมีตั้งแต่ 1-38 มูคิชส์ เมล็ดที่มีจำนวน 1 มูคิชส์ พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มี 5 มูคิชส์ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของอินเดียเชื่อว่าเมล็ดน้ำตาพระศิวะ ที่มีมูคิชส์แตกต่างกันมีประสิทธิผลในการรักษาโรคแตกต่างกัน เช่น
1 มูคิชส์ ใช้รักษา โรคที่เกี่ยวข้องกับ ตา กระดูก หัวใจและลดอาการวิตกกังวล
2 มูคิชส์ ใช้รักษา อาการหอบหืด ไตพิการ ภาวะซึมเศร้า
3 มูคิชส์ ใช้รักษา ความดันโลหิตสูง ถุงน้ำดีไม่ปกติ ไข้ อ่อนเพลีย ประจำเดือนไม่ปกติ
4 มูคิชส์ ช่วยทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น รักษาโรคหลงลืม/ความจำเสื่อม ไอ/ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ
5 มูคิชส์ ใช้ควบคุมความดันโลหิต เบาหวาน ลดความเครียด เป็นต้น แก้ไขข้อมูลเมื่อ 26 May 24 08:34
คำสำคัญ:
ไม้มงคลหายาก
พันธุ์ไม้หายาก