B1-5 มะรุ่ง กระบองเพชรกินได้ พันธุ์โอ.ฟิคัสอินดิก้า เดคูมานา

ID-PA-B1-5 พันธุ์ "มะรุ่ง" กระบองเพชรกินได้ สายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิกาเดคูมานา 5 ขนาด ตัดสดให้เลือก
ขายพันธุ์กระบองเพชรกินได้สายพันธุ์ยอดนิยมโอพันเทียฟิคัสอินดิก้าเดคูมานา Opuntia Ficus Indica var Decumana ขนาดมาตรฐาน ตัดสด ทาน้ำยาเร่งรากและปูนแดงกันเน่าให้แล้ว พร้อมปลูกไม่ต้องทาซ้ำไม่ต้องล้างออก ลงชำเรียกรากได้เลย
ขายพันธุ์กระบองเพชรกินได้เพื่อปลูก
แพด(กิ่ง)ตัดสดขนาดมาตรฐานเล็กถึงจัมโบ้ B1-B5 ขนาดตามรูป 10,12,14,16,18 นิ้ว ราคา 290,390,590,790,990 บาทตามลำดับ
ความยาวตามนี้ความกว้างตามปกติของสายพันธุ์
B1 ยาว 10 นิ้ว 290 บาท
B2 ยาว 12 นิ้ว 390 บาท
B3 ยาว 14 นิ้ว 590 บาท
B4 ยาว 16 นิ้ว 790 บาท
B5 ยาว 18 นิ้ว 990 บาท
ค่าส่งเริ่มต้นที่ 60 บาท (รับจำนวนมากส่งฟรี มีเรทราคาส่ง)

มะรุ่ง กระบองเพชรกินได้แบบกิ่งแบน
สายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิก้าเดคูมานา Opuntia Ficus Indica var Decumana กินได้ทั้งแพด(กิ่ง)และผล
แพด(กิ่ง)มีรสชาติเปรี้ยว ผลมีขนาดใหญ่รสชาติหวาน

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่จริงๆในบ้านเราฉะนั้น เรามารู้จักสิ่งเหล่านี้กันก่อนนะคะในอนาคตเราจะได้พูดคุยกันได้คุยกับใครก็รู้เรื่องค่ะ
เมื่อพูดถึงกระบองเพชรกินได้ (กล่าวถึงเฉพาะตระกูลโอพันเทียก่อนพวกคอลัมน์หรือแท่งหนามทั้งหลายพักไว้) นิยามที่แท้จริงหมายถึงสิ่งที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า
-Prickly Pear พริคลีย์แพร์
-Cactus Pear แคคตัสแพร์
-Indian Fig อินเดียนฟิก
-Barbary Fig บาบารีฟิก
-Tuna ทูน่า (ไม่ใช่ปลาทูน่านะคะ)

บ้านเราเรียกผลว่ามะรุ่ง สรุปมะรุ่งหรือกระบองเพชรกินได้แบบกิ่งแบนในที่นี้คือกระบองเพชรกลุ่มโอพันเทียนั่นเอง โอพันเทียคือกระบองเพชรแบบกิ่งแบน
มีบางชนิดที่ไม่นิยมกินเพราะหนามโหดดุหรือระคายเคืองเกินไปจัดการหนามยาก ไม่มีเนื้อ ขนาดเล็กเกินไป หรือรสชาติไม่อร่อย หรือไม่มีใครนำมาทำตลาดเพราะมีตัวอื่นที่น่าทำตลาดกว่า (ประมาณนั้น)

ว่าด้วยเรื่องของการทานใบ กระบองเพชรในกลุ่มโอพันเทียส่วนใหญ่ก็ทานใบได้เช่นกันตราบที่เค้ามีใบขนาดใหญ่พอสมควร มีเนื้อให้ทาน ไม่มีหนามอันตราย (อาจมีหนามเล็กนับหมื่นคันยุกยิกหรือแข็งหนามใหญ่ยาวอันนี้ต้องพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพล้วนๆ) ง่ายๆคือถ้าไม่มีโคตรหนามเป็นอุปสรรคโดยปกติแล้วกระบองเพชรชนิดนี้ก็ *ทานใบ* ได้เช่นกัน

เรียกว่าใบจริงๆหรือ ก่อนหน้านี้คำว่า “ทานใบ” ยังใช้ได้เพราะเพื่อให้เข้าใจโดยง่ายจึงใช้คำว่า “ทานใบ” กัน
แท้จริงแล้วใบของกระบองเพชรกลุ่มนี้ขนาดเล็กมากเนื่องจากกระบองเพชรเป็นพืชที่ต้องรักษาอัตราการคายน้ำ “ใบ” จึงถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก และเมื่อแพดโตเต็มวัยใบเหล่านี้ก็จะร่วงไปทิ้งไว้ก็แต่หนามขนเพื่อนเก่าเท่านั้น

อ้าว แล้วที่เราเรียกกันว่า “กินใบ กินใบ” ล่ะ
นี่แหละคะ พอเริ่มเข้าใจคำว่า “กินใบ” ในทางเทคนิคก็ “ผิด” ทันที (แต่ในทางภาษายังใช้กันอยู่แม้จะเพราะความเข้าใจผิดก็ตาม)

มารู้จักกับคำว่าแพดกันนะคะ
แพด Pad คือลำต้น มีลักษณะแบนๆคล้ายใบ หลายคนเริ่มเก็ทละ
ใช่ค่ะสิ่งที่เรากินนั้นในทางเทคนิคมันคือลำต้นนะคะ, Stem, Cladodes นั่นเอง
ใกล้ได้ที่แล้วค่ะ อีกคำหนึ่ง คำว่า “โนปาล”
คำว่าโนปาล Nopal หรือ Nopales มาจากคำว่าโนปาลิโทส Nopalitos เป็นภาษาสเปนคือการกินแพดของกระบองเพชรเป็นผัก ใช้ทำอาหาร ต่อมาก็ใช้กันอย่างแพร่หลายในความหมายของผักชนิดหนึ่งชื่อว่า “กระบองเพชร”
พูดง่ายๆพอบอกโนปาลคือแพดของกระบองเพชรที่นำมากินในแบบของผักนั่นเอง ลึกนะลึก

เราเรียกว่าผักกระบองเพชรจะดีไหมนะ

ว่าด้วยเรื่องสายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิกาเดคูมานา (Opuntia Ficus Indica var Decumana) เป็นกระบองเพชรทานผลสายพันธุ์หนึ่ง แพดมีขนาดใหญ่ที่สุดผลก็มีขนาดใหญ่ที่สุดเช่นกันจึงเป็นที่นิยมปลูกมากที่สุดเป็นพืชที่แพร่หลายและมีความสำคัญทางการค้ามากที่สุดทั่วพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้งของโลก มีทั้งชนิดมีหนาม(ยาว)และไร้หนาม(ยาว) เน้นคำว่ายาวเพราะแม้ไร้หนาม(ยาว)แต่หนามขนยังอยู่
ตัวนี้พัฒนาต่อมาจาก Opuntia Ficus Indica สายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิกา จากผลผลิตที่สวนเห็นว่า ผลสุกหอมหวานติดลิ้น และเมล็ดน้อยมากกก เป็นตัวที่แนะนำให้ปลูกอีกตัวเลยค่ะ
หนามยาว Spines/Thorns Original ดั้งเดิม
หนามขน Glochids Spineless ไร้หนาม ปัจจุบัน (ส่วนใหญ่)
ไม่มีหนาม Inermis อันนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่เลยค่ะที่พัฒนาต่อจากสายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิกาเช่นกัน

กระบองเพชรกินได้มีหลายสายพันธุ์/หลายร้อยสปีชีส์
เนื่องจากสายพันธุ์หลักๆที่กินกันอยู่ส่วนใหญ่ก็มีหลายสายพันธุ์ ในเม็กซิโกเองยังมีสายพันธุ์ที่นิยมปลูกถึง 18 สายพันธุ์ (ข้อมูลปี 2014
สายพันธุ์ยอดนิยมสายพันธุ์หนึ่งคือ สายพันธุ์โอพันเทียฟิคัสอินดิกา Opuntia Ficus Indica และสายพันธุ์ที่พัฒนาต่อมา กลุ่มสายพันธุ์นี้กินได้ทั้งแพด(กิ่ง)และผล
แพดสีเขียวอ่อนเขียวเข้มมีลักษณะแบนแคปกว่าอินดิก้าแบบเดิม คือแพดเรียวและหนากว่าแบบเดิม ยาวได้ถึง 2 ฟุต ต้นสูงปกติ 1.5 เมตร สูงได้ถึง3-5เมตร ดอกมีสีส้มออกชมพูแดง ผลมีแดงม่วง ผลยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร แพด(กิ่ง)มีรสชาติเปรี้ยว ผลมีขนาดใหญ่รสชาติหวาน เมล็ดแข็งเหมือนเมล็ดฝรั่งแต่มีลักษณะแบนนูนตรงกลางคล้ายเมล็ดพริก *มีเมล็ดน้อยมาก ทุกส่วนของกระบองเพชรกินได้กินได้หมดยกเว้นหนามและเยื่อที่แก่เกินไป

ตัวที่ปลูกในไทยร้อยละเกือบร้อยเป็นแบบหนามน้อยนะคะก็เลยไม่เน้นย้ำว่า ‘หนามน้อย' คำว่าหนามน้อยของกระบองเพชรนั้นคือไร้หนามยาวที่มีลักษณะเหมือนเข็ม (Thons/Spines) แต่ยังมีหนามเล็กใสที่มีลักษณะเหมือนขน (Glochids)

เค้าสามารถผสมเกสรได้เองในต้นเดียวกัน

ปลูกได้ในที่สูง/ที่ราบ ต้องการดินที่ระบายน้ำได้เร็ว ไม่ชอบดินเหนียว ที่ลุ่มน้ำขัง ต้องการแสงอาทิตย์อย่างน้อย5ชั่วโมงหากได้แดดตลอดวันยิ่งดี

ความเข้าใจผิดที่เห็นได้บ่อยเกี่ยวกับกระบองเพชรทานผล
1. ส่วนใหญ่คิดว่าเขาชอบที่ร้อนแห้งแล้ง อันที่จริงเขาแค่ชอบแสงจ้าไม่ได้ชอบร้อน ทนแล้งไม่ได้ชอบแล้งนะคะ ถ้าอยู่ในที่ร่มก็จะยืดหาแสงยาวจนเลื้อนยได้เลย และเขาก็ชอบน้ำมากกว่าแคคตัสพวกยิมโน ฉะนั้นถ้าเราปล่อยให้ขาดน้ำบ่อยๆการเจริญเติบโตก็จะชะงักเรื่อยๆค่ะ ระบบรากมีรากหลายชนิดแต่ละชนิดมีชื่อเรียก มีรากชนิดหนึ่งชื่อเรนรูท (รากน้ำฝน) เค้างอกและยาวทำให้ต้นไม้โตผิดหูผิดตาภายในเวลาแค่สองชั่วโมงที่ได้น้ำ และก็ตายไปอย่างรวดเร็ว(หมายถึงเฉพาะรากตาย)เมื่อขาดน้ำ ถ้าขาดน้ำเป็นเวลานานแพดก็จะย่นขาดความหนาและความแข็งแรงไป อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นกระบองเพชร อัตราการคายน้ำต่ำให้น้ำแต่น้อย2-3วันหนดีที่สุด ถ้ารดจนชุ่ม 7-10 วัน (อันนี้แล้วแต่ความชื้นต้องหัดสังเกต-ไม่ยากค่ะ) ช่วงร้อนและแห้งจัดเช่นมีนาคม-เมษายนอาจรดบ่อยขึ้นสังเกตวัสดุปลูกถ้าแห้งก็รด
2. เข้าใจว่าเป็นชนิดเดียวกันกับเสมา (ที่เห็นบ่อยๆตามข้างรั้วในบ้านเรา) เสมาไม่ใช่ชนิดกินผลนะคะกินได้แต่ที่ไม่นิยมเพราะเนื้อน้อย รสชาติไม่ดี หนามปลิวว่อนจัดการยาก ชื่อวิทยาศาสตร์: Opuntia cochenillifera ทั่วไปไม่นับเป็นอาหาร หรือไม่ติดตลาดอาหาร แม้ช่วงปีที่ผ่านมามีร้านเมนูกระบองเพชรในเวียดนามขายเสมาก็ตาม (ไม่ทราบยังอยู่ไหม) หลายประเทศแม้จะมีปลูกก็ไม่ได้ได้ปลูกในแง่ของอาหารมนุษย์ บ้านเราการใช้เสมามีการนำมาเข้าสูตรยาบางสูตร เช่น ยารักษางูกัด หรือริดสีดวงทวาร การจะกินต้องให้มั่นใจว่ากำจัดหนามหมดแล้วเราพเค้ามีหนามเล็กๆที่เอาออกยากด้วย

คุณสมบัติทางยาของกระบองเพชรกินได้รวบรวมไว้ด้านล่างนะคะ ข้อมูลจากหนังสือออกโดยหน่อยงานราชการ ชื่อ “นิเวศวิทยาของพืชไร่การเพาะปลูกและการใช้กระบองเพชรกินได้”
เผยแพร่โดย องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ และ ศูนย์วิจัยการเกษตรระหว่างประเทศในพื้นที่แห้งแล้ง โรม, 2017
แปลโดย น้ำเพชรสวนกระบองเพชรกินได้

Anti Obesity ลดโรคอ้วน
Anti Inflammatory ลดการอักเสบ
Cicatrizant การรักษาแผล
Antiviral ต้านไวรัส
Cholesterol Reducing Action ลดคอเลสเตอรอล
Anti Cancer ต้านมะเร็ง
DNA Protector ปกป้อง DNA
Anti Genoxotic ต้านสารก่อมะเร็ง
Neuro Protector ดูแลระบบประสาท
Hepato Protector ดูแลตับ
Hypoglycemiant รักษาระดับน้ำตาลในเลือด
Anti Ulcerogenic รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร
Anti Hyperlipidemic ต้านภาวะไขมันในเลือดสูง

ผล การกิน

ผลปอกกินเหมือนแก้วมังกร ใช้แปรงแปรงขนออกก่อน
เมล็ดจะแข็งกว่าแต่เมล็ดก็มีประโยชน์เช่นกัน

ผลสามารถกินเล่นหรือแปลรูปเป็น
น้ำคั้นสด
ไวน์
แยม

เมล็ดสามารถ
สกัดน้ำมันมาทำอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางค์

แพดสามารถทานสดหรือทำให้สุกได้ทุกวิธี
กินเล่น
ปั่นเป็นเมนูสุขภาพ
ใส่ยำ
ใส่สลัด
ทำหมูมะนาว
กุ้งแช่น้ำปลา
พล่าต่างๆ
กินกับลาบ น้ำตก
แกงส้มใต้
ย่างกินกับน้ำพริกที่เผ็ดๆเค็มๆ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ _/\_

#กระบองเพชรกินได้
#กระบองเพชรกินใบ
#กระบองเพชรกินผล
#กระบองเพชรทานใบ
#กระบองเพชรทานผล
#น้ำเพชร
#สวนกระบองเพชรกินได้
#PricklyPear
#CactusPear
#EdibleCactus
#Nopal
#Nopales
วิธีการปลูก

ชำเรียกรากก่อนปลูกดีกว่าไหม
ดีกว่าแน่นอนค่ะ
ดีอย่างไร
ไม้ตั้งตัวได้เร็วแข็งแรงเร็วกว่า
โตเร็ว
ลดอัตราการตาย ชำก่อนดีต่อใจกว่า

วิธีชำ
ใช้ทรายหยาบ(ทรายก่อสร้างชนิดหยาบทรายก่อ ส่วนชนิดละเอียดที่ใช้ฉาบไม่เอาเพราะระบายน้ำไม่ดี) หรือหินภูเขาไฟเบอร์ 000 เป็นวัสดุชำ
ใส่ทรายในกระถางครึ่งกระถาง
จับแพด(กิ่ง)ที่เตรียมไว้ตั้งตรงกลาง เติมทรายให้สูงขึ้นมา 1 ใน 3 ส่วนของความสูงแพด
รดน้ำให้ชุ่ม
วางไว้ในที่ได้รับ แก้ไขข้อมูลเมื่อ 20 Sep 22 12:34