ชื่อสินค้า:
รักม่วง รักขาวขายกิ่งปักชำรักม่วง
รหัส:
363554
ประเภท:
ราคา:
100.00 บาท
/ชุด
ติดต่อ:
คุณอังศรา ไพฑูรย์
ที่อยู่ร้าน:
อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 7 ปี 8 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
ขายกิ่งปักชำรักม่วง1ชุด20กิ่ง100บาทสนใจโทร0876069955ไอดีไลน์aungsara09เก็บปลายทางรัก สรรพคุณและประโยชน์ของดอกรัก ต้นรัก 29 ข้อ !
#สรรพคุณของต้นรัก
ดอกมีรสเฝื่อน สรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร (ดอก)
ต้นมีรสเฝื่อนขม มีสรรพคุณช่วยบำรุงทวารทั้งห้า (ต้น)
ยางจากต้นเป็นยาแก้อาการปวดหู ปวดฟัน (ยางขาวจากต้น)
รากใช้เป็นยาแก้ไข้ (ราก) แก้ไข้เหนือ (ราก)
ช่วยแก้อาการไอ อาการหวัด แก้หอบหืด (ดอก)
ช่วยทำให้อาเจียน (เปลือกต้นราก เปลือกราก
ช่วยขับเหงื่อ (รากเปลือกราก)
เปลือกรากมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะได้ (เปลือกราก)
ช่วยในการย่อย (ดอก)
ใช้เป็นยารักษาโรคบิด (รากเปลือกราก) แก้บิดมูกเลือด (ราก)
ยางขาวจากต้นมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง (ยางขาวจากต้น)
ใช้เป็นยาขับพยาธิ ใช้ยางขาวจากต้นนำมาทาตัวปลาช่อนแล้วย่างไฟให้เด็กกินเป็นยาเบื่อพยาธิไส้เดือน (ยางขาวจากต้น)
ช่วยแก้ริดสีดวงในลำไส้ (ยางขาวจากต้น)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ใบ)
ยางขาวจากต้นมีฤทธิ์เป็นยาขับเลือด ทำให้แท้งได้
เปลือกต้นมีสรรพคุณช่วยขับน้ำเหลืองเสีย (เปลือกต้น)
ยางไม้ใช้ใส่แผลสดเป็นยาฆ่าเชื้อ (ยางขาวจากต้น)[
ช่วยแกคุดทะราด (ใบ)
ช่วยแก้กลากเกลื้อน (ยางขาวจากต้น, ดอก)
น้ำยางจากต้นใช้รักษาโรคเรื้อน (ยางขาวจากต้น)[4]
ผลหรือฝัก ใช้แก้รังแคบนหนังศีรษะ (ผล)
ใบสดใช้เป็นยาพอกเพื่อบรรเทาอาการของโรคไขข้อ (ใบ)
#ประโยชน์ของต้นรัก
ในทางไสยศาสตร์จะนิยมใช้รากของต้นรักที่มีดอกซ้อนสีขาวมาแกะเป็นรูปพระปิดตา รูปนางกวัก หรือรูปเด็กขนาดเล็กที่นำมารวมกับรูปเด็กที่แกะได้จากรากของมะยม หรือที่เรียกว่า “รักยม” แล้วนำมาแช่ในขวดเล็ก ๆ ที่ใส่น้ำมันจันทน์ ก็นับว่าเป็นของขลังอีกอย่างหนึ่งที่ชายไทยสมัยก่อนนิยมพกติดตัวเวลาออกจากบ้าน ส่วนใบของต้นรักนั้นก็นำมาใช้ทำเสน่ห์ให้คนรักได้ โดยใช้เฉพาะใบจากต้นรักซ้อนสีขาวเช่นเดียวกัน
สำหรับชาวฮาวายถือว่ามาลัยดอกรักที่นำมาทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือ สัญลักษณ์ของความเป็นกษัตริย์
ดอกรักนับว่าเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยต้องการใช้ตลอดปี เพราะนำมาใช้ในการร้อยพวงมาลัย บางพื้นที่มีการปลูกต้นรักเอาไว้เก็บดอกเพื่อนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยไว้ขายเองโดยเฉพาะ โดยมักจะปลูกร่วมกับต้นมะลิ เพราะต้องใช้ประกอบเป็นพวงมาลัยที่คนไทยคุ้นเคยกันมากที่สุด และดอกยังสามารถนำมาใช้ทำดอกไม้ประดิษฐ์ได้อีกด้วย
ในพิธีงานแต่งของคนไทยภาคกลาง นอกจากเราจะใช้ดอกรักนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยสวมให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแล้ว ก็ยังใช้ใบของต้นรักนำมารองก้นขันใส่สินสอดและขันใส่เงินทุนที่ให้แก่คู่สมรสอีกด้วย
ในประเทศอินเดียจะใช้น้ำจากผลเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “บาร์”
เส้นใยจากลำต้นและผลนำมายัดใส่หมอน[5] และมีรายงานว่าปุยจากเมล็ดสามารถนำไปใช้ทำเส้นด้ายที่ใช้ทอผ้า และนำมาใช้แทนนุ่นได้
เนื้อไม้นำมาเผาเป็นถ่านที่ใช้สำหรับผสมดินปืน
พิษของต้นรัก
ยางจากต้นรักเป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตา ดังนั้นในการเก็บเกี่ยวดอกรัก จึงต้องแต่งกายอย่างรัดกุมมิดชิด สวมถุงมือยาง แว่นตา และใช้ผ้าปิดปากและจมูก
ยางและใบมีสารพิษ Digitalis ซึ่งออกฤทธิ์เป็นพิษต่อหัวใจและเลือด ทำให้มีอาการระคายเคืองเยื่อบุปากและกระเพาะอาหารก่อน แล้วตามด้วยอาการอาเจียน ปวดศีรษะ ท้องเดิน และปวดท้อง ถ้ารับประทานเข้าไปมากและล้างท้องไม่ทัน สารพิษจะถูกดูดซึมผ่านลำไส้และแสดงความเป็นพิษต่อหัวใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับชนิดของไกลโคไซด์
วิธีการรักษาพิษ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการล้างท้อง และรักษาไปตามอาการ และถ้าจาก EKG พบว่ามี Ventricular tachycardia ควรให้ potossium chloride (5-10 g) หรือให้ K+ (80 mEq/L) ถ้ามีอาการเจ็บแขนก็อาจจะช่วยด้วยการนวดและประคบน้ำร้อน
การเก็บรักษาดอกรัก
การเก็บดอกรักโดยใช้อุณหภูมิต่ำจะสามารถช่วยยืดอายุและชะลอการเสื่อมสภาพของดอกรักได้นาน 7-10วัน (โดยเฉลี่ย 7.6 วัน) ส่วนดอกรักที่เก็บในอุณหภูมิห้องปกติจะมีอายุการเก็บรักษาโดยเฉลี่ยเพียง 2 วัน
การเก็บดอกรักควรเก็บโดยการนำมาบรรจุลงในถุงพลาสติกแล้วแช่ในน้ำแข็งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาดอกรักได้ดีที่สุดโดยเฉลี่ยประมา 11.3 วัน แก้ไขข้อมูลเมื่อ 23 Aug 22 08:26
#สรรพคุณของต้นรัก
ดอกมีรสเฝื่อน สรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร (ดอก)
ต้นมีรสเฝื่อนขม มีสรรพคุณช่วยบำรุงทวารทั้งห้า (ต้น)
ยางจากต้นเป็นยาแก้อาการปวดหู ปวดฟัน (ยางขาวจากต้น)
รากใช้เป็นยาแก้ไข้ (ราก) แก้ไข้เหนือ (ราก)
ช่วยแก้อาการไอ อาการหวัด แก้หอบหืด (ดอก)
ช่วยทำให้อาเจียน (เปลือกต้นราก เปลือกราก
ช่วยขับเหงื่อ (รากเปลือกราก)
เปลือกรากมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะได้ (เปลือกราก)
ช่วยในการย่อย (ดอก)
ใช้เป็นยารักษาโรคบิด (รากเปลือกราก) แก้บิดมูกเลือด (ราก)
ยางขาวจากต้นมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง (ยางขาวจากต้น)
ใช้เป็นยาขับพยาธิ ใช้ยางขาวจากต้นนำมาทาตัวปลาช่อนแล้วย่างไฟให้เด็กกินเป็นยาเบื่อพยาธิไส้เดือน (ยางขาวจากต้น)
ช่วยแก้ริดสีดวงในลำไส้ (ยางขาวจากต้น)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ใบ)
ยางขาวจากต้นมีฤทธิ์เป็นยาขับเลือด ทำให้แท้งได้
เปลือกต้นมีสรรพคุณช่วยขับน้ำเหลืองเสีย (เปลือกต้น)
ยางไม้ใช้ใส่แผลสดเป็นยาฆ่าเชื้อ (ยางขาวจากต้น)[
ช่วยแกคุดทะราด (ใบ)
ช่วยแก้กลากเกลื้อน (ยางขาวจากต้น, ดอก)
น้ำยางจากต้นใช้รักษาโรคเรื้อน (ยางขาวจากต้น)[4]
ผลหรือฝัก ใช้แก้รังแคบนหนังศีรษะ (ผล)
ใบสดใช้เป็นยาพอกเพื่อบรรเทาอาการของโรคไขข้อ (ใบ)
#ประโยชน์ของต้นรัก
ในทางไสยศาสตร์จะนิยมใช้รากของต้นรักที่มีดอกซ้อนสีขาวมาแกะเป็นรูปพระปิดตา รูปนางกวัก หรือรูปเด็กขนาดเล็กที่นำมารวมกับรูปเด็กที่แกะได้จากรากของมะยม หรือที่เรียกว่า “รักยม” แล้วนำมาแช่ในขวดเล็ก ๆ ที่ใส่น้ำมันจันทน์ ก็นับว่าเป็นของขลังอีกอย่างหนึ่งที่ชายไทยสมัยก่อนนิยมพกติดตัวเวลาออกจากบ้าน ส่วนใบของต้นรักนั้นก็นำมาใช้ทำเสน่ห์ให้คนรักได้ โดยใช้เฉพาะใบจากต้นรักซ้อนสีขาวเช่นเดียวกัน
สำหรับชาวฮาวายถือว่ามาลัยดอกรักที่นำมาทำเป็นสร้อยคอ (lei) คือ สัญลักษณ์ของความเป็นกษัตริย์
ดอกรักนับว่าเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยต้องการใช้ตลอดปี เพราะนำมาใช้ในการร้อยพวงมาลัย บางพื้นที่มีการปลูกต้นรักเอาไว้เก็บดอกเพื่อนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยไว้ขายเองโดยเฉพาะ โดยมักจะปลูกร่วมกับต้นมะลิ เพราะต้องใช้ประกอบเป็นพวงมาลัยที่คนไทยคุ้นเคยกันมากที่สุด และดอกยังสามารถนำมาใช้ทำดอกไม้ประดิษฐ์ได้อีกด้วย
ในพิธีงานแต่งของคนไทยภาคกลาง นอกจากเราจะใช้ดอกรักนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยสวมให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแล้ว ก็ยังใช้ใบของต้นรักนำมารองก้นขันใส่สินสอดและขันใส่เงินทุนที่ให้แก่คู่สมรสอีกด้วย
ในประเทศอินเดียจะใช้น้ำจากผลเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “บาร์”
เส้นใยจากลำต้นและผลนำมายัดใส่หมอน[5] และมีรายงานว่าปุยจากเมล็ดสามารถนำไปใช้ทำเส้นด้ายที่ใช้ทอผ้า และนำมาใช้แทนนุ่นได้
เนื้อไม้นำมาเผาเป็นถ่านที่ใช้สำหรับผสมดินปืน
พิษของต้นรัก
ยางจากต้นรักเป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตา ดังนั้นในการเก็บเกี่ยวดอกรัก จึงต้องแต่งกายอย่างรัดกุมมิดชิด สวมถุงมือยาง แว่นตา และใช้ผ้าปิดปากและจมูก
ยางและใบมีสารพิษ Digitalis ซึ่งออกฤทธิ์เป็นพิษต่อหัวใจและเลือด ทำให้มีอาการระคายเคืองเยื่อบุปากและกระเพาะอาหารก่อน แล้วตามด้วยอาการอาเจียน ปวดศีรษะ ท้องเดิน และปวดท้อง ถ้ารับประทานเข้าไปมากและล้างท้องไม่ทัน สารพิษจะถูกดูดซึมผ่านลำไส้และแสดงความเป็นพิษต่อหัวใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับชนิดของไกลโคไซด์
วิธีการรักษาพิษ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการล้างท้อง และรักษาไปตามอาการ และถ้าจาก EKG พบว่ามี Ventricular tachycardia ควรให้ potossium chloride (5-10 g) หรือให้ K+ (80 mEq/L) ถ้ามีอาการเจ็บแขนก็อาจจะช่วยด้วยการนวดและประคบน้ำร้อน
การเก็บรักษาดอกรัก
การเก็บดอกรักโดยใช้อุณหภูมิต่ำจะสามารถช่วยยืดอายุและชะลอการเสื่อมสภาพของดอกรักได้นาน 7-10วัน (โดยเฉลี่ย 7.6 วัน) ส่วนดอกรักที่เก็บในอุณหภูมิห้องปกติจะมีอายุการเก็บรักษาโดยเฉลี่ยเพียง 2 วัน
การเก็บดอกรักควรเก็บโดยการนำมาบรรจุลงในถุงพลาสติกแล้วแช่ในน้ำแข็งจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาดอกรักได้ดีที่สุดโดยเฉลี่ยประมา 11.3 วัน แก้ไขข้อมูลเมื่อ 23 Aug 22 08:26
คำสำคัญ:
ดอกรัก