ว่านดอกทอง (ดินสอฤาษี)

ว่านดอกทอง มีสรรพคุณช่วยเพิ่มพลังทางเพศจริงหรือไม่ มาไขข้อสงสัยไปด้วยกัน
หลังจากเราได้ยินชื่อ "รากราคะ" มาแล้วในละครเรื่อง "แรมพิศวาส" และ "ระบำดวงดาว" ที่ถูกกล่าวถึงในละครว่าเป็นว่านมหาเสน่ห์ มีฤทธิ์เสริมพลังทางเพศ หลายคนจึงโยงไปว่า "รากราคะ" น่าจะหมายถึง "ว่านดอกทอง" ที่มีฤทธิ์ดังที่กล่าวมา และชื่อของ "ว่านดอกทอง" ก็ถูกพูดถึงในละครเรื่อง "นาคี" ชวนให้เราสนใจใคร่รู้ว่าว่านชนิดนี้มีสรรพคุณเพิ่มพลังทางเพศได้จริงหรือ ตามไปหาคำตอบด้วยกันค่ะ
ว่านดอกทอง คืออะไร
"ว่านดอกทอง" หรือที่ในละครเรียกว่า "รากราคะ" หรือ "ว่านรากราคะ" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma spp. เป็นพืชอยู่ในวงศ์ซิงจิเบอร์เรซี (Zingiberaceae) ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ถือเป็นว่านโบราณหายาก และใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว โดยในประเทศไทยสามารถพบ "ว่านดอกทอง" ได้ที่ภาคตะวันตก และภาคเหนือ เช่น ในจังหวัดกาญจนบุรี ตาก และลำปาง
ลักษณะของรากราคะ หรือว่านดอกทอง
"ว่านดอกทอง" จะมีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว 5-10 นิ้ว รากเป็นเส้นใหญ่สีน้ำตาล ไม่แตกรากฝอย ลำต้นประกอบด้วยกาบของก้านใบหลายกาบซ้อนกัน ถ้าเป็นตัวผู้ เนื้อในหัวจะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียจะเรียกอีกอย่างว่า "ดินสอฤาษี" ลักษณะต้นและใบจะไม่มีสีแดงเจือปน เมื่อหักหัวออกจะมีเนื้อสีขาว มีกลิ่นคาวจัดคล้ายอสุจิของคน
ใบของ "ว่านดอกทอง" เป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก เส้นกลางใบมีสีแดง ทั้งต้นสูงประมาณ 1 ฟุต ดอกของว่านดอกทอง จะออกในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องฤดูฝน ลักษณะคล้ายดอกกระเจียว มีสีขาวอมเหลือง แต่ไม่มีก้านดอก อยู่ติดกับพื้นดิน โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบ
วิธีปลูกรากราคะ หรือว่านดอกทอง
"ว่านดอกทอง" สามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ และปลูกขึ้นในดินร่วนปนทราย ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ดังนั้นรดน้ำได้ แต่อย่าให้ดินแฉะเกินไป และควรวางให้ได้รับแสงแดดรำไรบ้างพอสมควร
สรรพคุณของรากราคะ หรือว่านดอกทอง
สำหรับสรรพคุณของ "ว่านดอกทอง" นั้น ตามตำราโบราณ ระบุว่า "ว่านดอกทอง" เป็นว่านที่ทำให้เกิดพลังทางเพศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้านำหัว ใบ หรือต้นว่านดอกทอง ใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำ และทานเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก หรือเพียงแค่ปลูกไว้แล้วได้กลิ่นดอกโชยมา ก็ชวนให้หลงใหลในโลกีย์ได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการเด็ดดอกของ "ว่านดอกทอง" ออกเสีย
ในสมัยโบราณ ชายหนุ่มมักจะเสาะแสวงหา "ว่านดอกทอง" มาเก็บสะสมไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้ทาตัว หรือบดรวมกับสีผึ้งไว้ทาปากในเวลาที่จะไปพบหญิงสาว เพราะเชื่อกันว่า หากหญิงใดได้กลิ่น หรือต่อคารมด้วยจะใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย แต่จะนิยมเก็บ "ว่านดอกทอง" ก่อนที่ดอกจะบาน
และนอกจากความเชื่อที่ว่า "ว่านดอกทอง" จะช่วยเสริมพลังทางเพศแล้ว ยังมีความเชื่อที่ว่า "ว่านดอกทอง" สามารถสร้างเมตตามหานิยมได้ด้วย หากปลูกไว้ที่บ้าน จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ใครเห็นใครก็รัก หากปลูกไว้ที่ร้านค้า ก็จะทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำมาหากินคล่อง
ดังนั้นแล้วจะเชื่อไปในทิศทางใดก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน แก้ไขข้อมูลเมื่อ 03 Aug 21 01:18