ชื่อสินค้า:
ทานาคาผง เกรดA ไม่ผสมแป้ง ราคาถูก
รหัส:
303240
ประเภท:
ราคา:
180.00 บาท
ติดต่อ:
คุณโพธิ์พญา เฮิร์บ
ที่อยู่ร้าน:
อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 6 ปี 7 เดือน
โทรศัพท์:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
ทานาคาบดผง เกรดA ทานาคาแท้100% ไม่ผสมแป้ง ผงละเอียด
1 กิโลกรัม 180 บาท
3 กิโลกรัม 170 บาท
10 กิโลกรัม 160 บาท
-------------------------------------
ติดต่อสอบถามได้ที่
line ID >>> @bvg9351z
facebook >>> โพธิ์พญาเฮิร์บ
www.popayaherb.com
Tel. 084 696 5105
-------------------------------------
ทานาคามีสารสำคัญที่ชื่อว่าสารมาร์เมซิน (Marmesin) มีฤทธิ์ปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลต สารอาร์บูติน (Arbutin) ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ป้องกันการเกิดฝ้า กระ และสารซูเบอโรซิน (Suberosin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยป้องกันและรักษาสิว แต่สรรพคุณบำรุงผิวพรรณของทานาคานั้นเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด มีข้อมูลทางวิทยาศาตร์กล่าวไว้ดังต่อไปนี้
บำรุงและรักษาปัญหาผิวพรรณ ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ชาวพม่านิยมใช้แป้งทานาคาทาบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ลดริ้วรอย และรักษาปัญหาสิวฝ้ามาเป็นเวลาช้านาน จนผลิตภัณฑ์แป้งทานาคาสำเร็จรูปเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่สาวไทยในเวลาต่อมา มีให้เลือกใช้ทั้งชนิดผงแป้งที่ต้องผสมกับน้ำก่อนทา และชนิดครีม ซึ่งหลายคนก็ไม่แน่ใจว่าแป้งทานาคานั้นจะมีสรรพคุณตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
สำหรับข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในด้านนี้ มีงานวิจัยในห้องทดลองที่ทดสอบการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากทานาคาและความปลอดภัยในการใช้ พบว่าสารสกัดดังกล่าวมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบสูง ซึ่งอาจช่วยชะลอริ้วรอยและการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ทั้งยังมีสรรพคุณต้านแบคทีเรียได้เล็กน้อย จึงอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาและป้องกันสิว
นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวพบว่าทานาคามีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งกระบวนการสร้างเม็ดสีเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ หรือรอยด่างดำบนผิวหนังตามมา สอดคล้องกันงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่าเนื้อไม้จากต้นทานาคามีสารอาร์บูตินที่ทำหน้าที่ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินเช่นเดียวกัน
ด้านการศึกษาในพม่าเมื่อไม่นานมานี้ก็มีผลการวิจัยที่ชี้ถึงคุณสมบัติของทานาคาในด้านการบำรุงผิวพรรณให้เห็นเช่นกัน งานวิจัยดังกล่าวพบว่าสารสกัดจากทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ สารต้านการอักเสบอย่างสเตียรอยด์ รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์และแบคทีเรียบางชนิด ที่สำคัญ ไม่พบว่ามีสารอันตรายอย่างปรอทและสารหนูในสารสกัดดังกล่าวแต่อย่างใด
การศึกษาเหล่านี้พอจะช่วยพิสูจน์ว่าทานาคาอาจเป็นตัวเลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติสำหรับนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว แต่กว่าจะยืนยันความปลอดภัยและสรรพคุณการบำรุงผิวพรรณในด้านต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนนั้น ยังคงต้องมีการศึกษาโดยใช้ผลิตภัณฑ์จากทานาคาทาบนผิวหนังของคนโดยตรงเพิ่มเติม
ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ไม่เพียงแต่เป็นตัวช่วยในการบำรุงผิว ทานาคาถูกนำมาทาเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดมาตั้งแต่อดีต และไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงในพม่า แต่มีใช้ในประเทศอื่น ๆ เช่นกัน ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน เป็นต้น
ทานาคาอาจมีคุณสมบัติเป็นเสมือนครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่เป็นต้นเหตุของปัญหาริ้วรอยและความเสื่อมสภาพของผิว มีงานวิจัยในห้องทดลองชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากเปลือกลำต้นของทานาคามีสารมาร์เมซินที่เป็นตัวดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต โดยเฉพาะรังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งพบได้ทั่วไปบนโลกมากกว่ารังสียูวีบี (UVB) และซึมผ่านไปได้ถึงผิวหนังชั้นลึก นอกจากนี้ นักวิจัยคาดว่าสารมาร์เมซินนั้นอาจนำมาใช้เป็นส่วนประกอบธรรมชาติในผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อช่วยกรองรังสียูวีเอได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องอยู่ในที่ที่มีแดดควรทาครีมกันแดดป้องกันเป็นดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากรังสียูวีบีด้วยเช่นกัน เพราะแม้รังสีชนิดนี้จะมีน้อย แต่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมากกว่ารังสียูวีเอ โดยสามารถทำให้ผิวไหม้ ผิวแดง หรือเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แก้ไขข้อมูลเมื่อ 25 Mar 19 03:39
1 กิโลกรัม 180 บาท
3 กิโลกรัม 170 บาท
10 กิโลกรัม 160 บาท
-------------------------------------
ติดต่อสอบถามได้ที่
line ID >>> @bvg9351z
facebook >>> โพธิ์พญาเฮิร์บ
www.popayaherb.com
Tel. 084 696 5105
-------------------------------------
ทานาคามีสารสำคัญที่ชื่อว่าสารมาร์เมซิน (Marmesin) มีฤทธิ์ปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลต สารอาร์บูติน (Arbutin) ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ป้องกันการเกิดฝ้า กระ และสารซูเบอโรซิน (Suberosin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยป้องกันและรักษาสิว แต่สรรพคุณบำรุงผิวพรรณของทานาคานั้นเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด มีข้อมูลทางวิทยาศาตร์กล่าวไว้ดังต่อไปนี้
บำรุงและรักษาปัญหาผิวพรรณ ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ชาวพม่านิยมใช้แป้งทานาคาทาบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ลดริ้วรอย และรักษาปัญหาสิวฝ้ามาเป็นเวลาช้านาน จนผลิตภัณฑ์แป้งทานาคาสำเร็จรูปเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่สาวไทยในเวลาต่อมา มีให้เลือกใช้ทั้งชนิดผงแป้งที่ต้องผสมกับน้ำก่อนทา และชนิดครีม ซึ่งหลายคนก็ไม่แน่ใจว่าแป้งทานาคานั้นจะมีสรรพคุณตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
สำหรับข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในด้านนี้ มีงานวิจัยในห้องทดลองที่ทดสอบการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากทานาคาและความปลอดภัยในการใช้ พบว่าสารสกัดดังกล่าวมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบสูง ซึ่งอาจช่วยชะลอริ้วรอยและการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ทั้งยังมีสรรพคุณต้านแบคทีเรียได้เล็กน้อย จึงอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาและป้องกันสิว
นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวพบว่าทานาคามีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งกระบวนการสร้างเม็ดสีเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ หรือรอยด่างดำบนผิวหนังตามมา สอดคล้องกันงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่าเนื้อไม้จากต้นทานาคามีสารอาร์บูตินที่ทำหน้าที่ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินเช่นเดียวกัน
ด้านการศึกษาในพม่าเมื่อไม่นานมานี้ก็มีผลการวิจัยที่ชี้ถึงคุณสมบัติของทานาคาในด้านการบำรุงผิวพรรณให้เห็นเช่นกัน งานวิจัยดังกล่าวพบว่าสารสกัดจากทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ สารต้านการอักเสบอย่างสเตียรอยด์ รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์และแบคทีเรียบางชนิด ที่สำคัญ ไม่พบว่ามีสารอันตรายอย่างปรอทและสารหนูในสารสกัดดังกล่าวแต่อย่างใด
การศึกษาเหล่านี้พอจะช่วยพิสูจน์ว่าทานาคาอาจเป็นตัวเลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติสำหรับนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว แต่กว่าจะยืนยันความปลอดภัยและสรรพคุณการบำรุงผิวพรรณในด้านต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนนั้น ยังคงต้องมีการศึกษาโดยใช้ผลิตภัณฑ์จากทานาคาทาบนผิวหนังของคนโดยตรงเพิ่มเติม
ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ไม่เพียงแต่เป็นตัวช่วยในการบำรุงผิว ทานาคาถูกนำมาทาเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดมาตั้งแต่อดีต และไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงในพม่า แต่มีใช้ในประเทศอื่น ๆ เช่นกัน ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน เป็นต้น
ทานาคาอาจมีคุณสมบัติเป็นเสมือนครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่เป็นต้นเหตุของปัญหาริ้วรอยและความเสื่อมสภาพของผิว มีงานวิจัยในห้องทดลองชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากเปลือกลำต้นของทานาคามีสารมาร์เมซินที่เป็นตัวดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต โดยเฉพาะรังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งพบได้ทั่วไปบนโลกมากกว่ารังสียูวีบี (UVB) และซึมผ่านไปได้ถึงผิวหนังชั้นลึก นอกจากนี้ นักวิจัยคาดว่าสารมาร์เมซินนั้นอาจนำมาใช้เป็นส่วนประกอบธรรมชาติในผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อช่วยกรองรังสียูวีเอได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องอยู่ในที่ที่มีแดดควรทาครีมกันแดดป้องกันเป็นดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยจากรังสียูวีบีด้วยเช่นกัน เพราะแม้รังสีชนิดนี้จะมีน้อย แต่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมากกว่ารังสียูวีเอ โดยสามารถทำให้ผิวไหม้ ผิวแดง หรือเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แก้ไขข้อมูลเมื่อ 25 Mar 19 03:39
คำสำคัญ:
ทานาคา
สมุนไพรบดผง