ชื่อสินค้า:
โสมไทย
รหัส:
301387
ประเภท:
ราคา:
50.00 บาท
ติดต่อ:
คุณกุสุมา ตุ่นแก้ว
ที่อยู่ร้าน:
จ.เชียงใหม่
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 11 ปี 6 เดือน
โทรศัพท์:
ปุ่มติดต่อ:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
โสมไทย ชื่อสามัญ Fame Flower, Ceylon Spinach, Sweetheart, Surinam Purslane[4]
โสมไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ Talinum paniculatum (Jacq.) Gaertn.[2] (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Claytonia patens (L.) Kuntze, Portulaca paniculata Jacq., Portulaca patens L., Talinum patens (L.) Willd.)[1] ปัจจุบันจัดอยู่ในวงศ์ TALINACEAE
สมุนไพรโสมไทย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า โสม โสมคน (ภาคกลาง), ว่านผักปัง (เชียงใหม่), โทวหนิ่งเซียม (จีน), ถู่เหยินเซิน (จีนกลาง) เป็นต้น
สรรพคุณของโสมไทย
รากโสมไทยมีรสชุ่ม ขมเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ไม่มีพิษ ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย (ราก)[2] ส่วนเหง้าโสมไทยมีรสหวานร้อน ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย โดยใช้เหง้านำมาดองกับเหล้ากิน (เหง้า)[3],[4]
หากร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย อันเนื่องมาจากการตรากตรำทำงานหนัก ให้ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาผสมกับรากทงฮวย และน้ำตาลกรวด แล้วนำมาตุ๋นกินกับไก่ (ราก)[1],[3] ส่วนอีกตำรับยาแก้อาการอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง ให้ใช้รากแห้ง 35 กรัม นำมาตุ๋นกินกับปลาหมึกแห้ง 1 ตัว (ราก)[2]
หากมีเหงื่อออกมากผิดปกติ เหงื่อออกไม่รู้ตัว ให้ใช้รากแห้งประมาณ 60 กรัม นำมาตุ๋นกับกระเพาะหมูหนึ่งใบแล้วนำมากิน (ราก)[1],[2],[3]
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (ราก)[5]
ใช้เป็นยาบำรุงร่างกายหลังการฟื้นไข้ใหม่ ๆ ด้วยการใช้รากแห้ง 30 กรัม รากโชยกึงป๊วก 30 กรัม และโหงวจี้ม่อท้อ 15 กรัม นำมาผสมกันต้มกับน้ำกิน (ราก)[1],[3]
รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ศีรษะมีไข้ (ราก)[1],[3]
รากใช้เป็นยาแก้อาการไอ ไอเป็นเลือด ไอแห้ง แก้ปวดร้อนแห้ง ตำรับยาแก้ไอ ให้ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาผสมกับรากทงฮวย และน้ำตาลกรวด ใช้ตุ๋นกินกับไก่ (ราก)[1],[2],[3]
ใช้รักษาอาการไอเรื้อรังซึ่งเกิดจากปอด ด้วยการใช้รากแห้ง หงู่ตั่วลักแห้ง อย่างละประมาณ 30 กรัม เจียะเชียงท้อแห้ง 15 กรัม และแบะตง 10 กรัม นำมาผสมกันแล้วต้มกับน้ำกินเป็นยา (ราก)[1]
รากโสมไทย มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงปอด ทำให้ปอดชุ่มชื่น (ราก)[1],[2],[3]
รากใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย ถ้าใช้แก้อาการท้องเสียอันเนื่องมาจากความเครียดหรือความกังวลที่มากเกินไป ให้ใช้รากแห้งประมาณ 15-30 กรัม และผลพุทราจีน 15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน (ราก)[1],[3]
ใช้เป็นยาแก้ธาตุอ่อน กระเพาะลำไส้ไม่มีเรี่ยวแรง ถ่ายกะปริบกะปรอย ด้วยการใช้รากแห้ง 30 กรัม และพุทราจีน 30 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำกิน (ราก)[2]
ใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะขัด (ราก)[1],[3]
ช่วยแก้อาการปัสสาวะมากผิดปกติ ด้วยการใช้รากโสมไทยสดกับรากกิมเอ็งสด อย่างละประมาณ 60 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินวันละ 2-3 ครั้ง (ราก)[1],[2]
ช่วยแก้ประจำเดือนมาผิดปกติของสตรี หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ (ราก)[1],[2],[3]
รากมีสรรพคุณช่วยบำรุงม้าม (ราก)[5]
ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้บวมอักเสบมีหนอง วิธีใช้รักษาฝีอักเสบมีหนอง ให้นำใบสดกับน้ำตาลทรายแดง นำมาตำผสมกันให้ละเอียดจนเข้ากัน ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็น (ใบ)[1],[3]
เหง้าใช้เป็นยาทาภายนอกแก้อาการอักเสบ ลดอาการบวม (เหง้า)[3]
สำหรับสตรีหลังการคลอดบุตร มีน้ำนมน้อย ให้ใช้ใบอ่อนของต้นโสมไทยมาผัดกินเป็นอาหาร จะช่วยขับน้ำนมได้ (ใบ)[1],[3] ส่วนรากมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงน้ำนมของสตรี (ราก)[2]
วิธีใช้ : การใช้ตาม [2] ถ้าเป็นรากแห้งให้ใช้ครั้งละ 20-35 กรัม ส่วนรากสดให้ใช้ครั้งละ 35-70 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน[2]
ประโยชน์ของโสมไทย
ใบโสมคน
ยอดอ่อน ใบอ่อนโสมไทยสามารถนำมาผัดเป็นผักที่มีรสชาติดี เช่น ผัดน้ำมันหอย ผัดแบบผักบุ้งไฟแดง หรือนำมาใช้ทำแกงเลียง แกงป่า แกงจืด แกงแค ส่วนยอดใบอ่อนก็นำมาลวก ต้ม หรือนึ่งจิ้มกินกับน้ำพริก ใช้ผสมในแป้งทำขนมบัวลอย ขนมทองพับ ข้าวเกรียบปากหม้อ และใบอ่อนยังสามารถนำมาใช้แทนผักโขมสวน ในการทำอาหารได้อีกด้วย[3],[5]
โสมไทยเป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามิน และเป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้[3] ใบอ่อนและยอดอ่อน จะนำมาใช้รับประทานเป็นผักใบเขียว มีประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกาย โดยคุณค่าทางโภชนาการของโสมไทย จะประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต, เส้นใยอาหาร, โปรตีน, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 นอกจากนี้ยังมี essential oils, สาร flavonoids, chromene, มีน้ำมันหอมระเหยอีกเล็กน้อย และยังมีสารสำคัญอื่น ๆ อีก เช่น borneol, camphene, camphor, cineol, limonene, myrcene, pinene, pinostrobin, rubramine, thujene เป็นต้น[4] (บางข้อมูลระบุว่า โสมไทยมีกรดออกซาลิกสูง ผู้ที่เป็นโรคไต โรคเกาต์ โรคไขข้ออักเสบ ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก)
บางข้อมูลระบุว่า โสมไทยเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น สามารถนำมาใช้ทำเป็นน้ำคลอโรฟิลล์ได้
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เนื่องจากมีลักษณะของลำต้นและใบที่เขียวชอุ่ม และมีดอกสีม่วงที่ดูสวยงาม
cr.medthai
สนใจติดต่อ สวนแดงจินดา
โทร 089-637-3665
Facebook: สวน แดง จินดา
เว็บไซค์ :dangjindagarden.com
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 18 Nov 18 07:25
โสมไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ Talinum paniculatum (Jacq.) Gaertn.[2] (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Claytonia patens (L.) Kuntze, Portulaca paniculata Jacq., Portulaca patens L., Talinum patens (L.) Willd.)[1] ปัจจุบันจัดอยู่ในวงศ์ TALINACEAE
สมุนไพรโสมไทย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า โสม โสมคน (ภาคกลาง), ว่านผักปัง (เชียงใหม่), โทวหนิ่งเซียม (จีน), ถู่เหยินเซิน (จีนกลาง) เป็นต้น
สรรพคุณของโสมไทย
รากโสมไทยมีรสชุ่ม ขมเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ไม่มีพิษ ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย (ราก)[2] ส่วนเหง้าโสมไทยมีรสหวานร้อน ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย โดยใช้เหง้านำมาดองกับเหล้ากิน (เหง้า)[3],[4]
หากร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย อันเนื่องมาจากการตรากตรำทำงานหนัก ให้ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาผสมกับรากทงฮวย และน้ำตาลกรวด แล้วนำมาตุ๋นกินกับไก่ (ราก)[1],[3] ส่วนอีกตำรับยาแก้อาการอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง ให้ใช้รากแห้ง 35 กรัม นำมาตุ๋นกินกับปลาหมึกแห้ง 1 ตัว (ราก)[2]
หากมีเหงื่อออกมากผิดปกติ เหงื่อออกไม่รู้ตัว ให้ใช้รากแห้งประมาณ 60 กรัม นำมาตุ๋นกับกระเพาะหมูหนึ่งใบแล้วนำมากิน (ราก)[1],[2],[3]
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (ราก)[5]
ใช้เป็นยาบำรุงร่างกายหลังการฟื้นไข้ใหม่ ๆ ด้วยการใช้รากแห้ง 30 กรัม รากโชยกึงป๊วก 30 กรัม และโหงวจี้ม่อท้อ 15 กรัม นำมาผสมกันต้มกับน้ำกิน (ราก)[1],[3]
รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ศีรษะมีไข้ (ราก)[1],[3]
รากใช้เป็นยาแก้อาการไอ ไอเป็นเลือด ไอแห้ง แก้ปวดร้อนแห้ง ตำรับยาแก้ไอ ให้ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาผสมกับรากทงฮวย และน้ำตาลกรวด ใช้ตุ๋นกินกับไก่ (ราก)[1],[2],[3]
ใช้รักษาอาการไอเรื้อรังซึ่งเกิดจากปอด ด้วยการใช้รากแห้ง หงู่ตั่วลักแห้ง อย่างละประมาณ 30 กรัม เจียะเชียงท้อแห้ง 15 กรัม และแบะตง 10 กรัม นำมาผสมกันแล้วต้มกับน้ำกินเป็นยา (ราก)[1]
รากโสมไทย มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงปอด ทำให้ปอดชุ่มชื่น (ราก)[1],[2],[3]
รากใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย ถ้าใช้แก้อาการท้องเสียอันเนื่องมาจากความเครียดหรือความกังวลที่มากเกินไป ให้ใช้รากแห้งประมาณ 15-30 กรัม และผลพุทราจีน 15 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน (ราก)[1],[3]
ใช้เป็นยาแก้ธาตุอ่อน กระเพาะลำไส้ไม่มีเรี่ยวแรง ถ่ายกะปริบกะปรอย ด้วยการใช้รากแห้ง 30 กรัม และพุทราจีน 30 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำกิน (ราก)[2]
ใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะขัด (ราก)[1],[3]
ช่วยแก้อาการปัสสาวะมากผิดปกติ ด้วยการใช้รากโสมไทยสดกับรากกิมเอ็งสด อย่างละประมาณ 60 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินวันละ 2-3 ครั้ง (ราก)[1],[2]
ช่วยแก้ประจำเดือนมาผิดปกติของสตรี หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ (ราก)[1],[2],[3]
รากมีสรรพคุณช่วยบำรุงม้าม (ราก)[5]
ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้บวมอักเสบมีหนอง วิธีใช้รักษาฝีอักเสบมีหนอง ให้นำใบสดกับน้ำตาลทรายแดง นำมาตำผสมกันให้ละเอียดจนเข้ากัน ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็น (ใบ)[1],[3]
เหง้าใช้เป็นยาทาภายนอกแก้อาการอักเสบ ลดอาการบวม (เหง้า)[3]
สำหรับสตรีหลังการคลอดบุตร มีน้ำนมน้อย ให้ใช้ใบอ่อนของต้นโสมไทยมาผัดกินเป็นอาหาร จะช่วยขับน้ำนมได้ (ใบ)[1],[3] ส่วนรากมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงน้ำนมของสตรี (ราก)[2]
วิธีใช้ : การใช้ตาม [2] ถ้าเป็นรากแห้งให้ใช้ครั้งละ 20-35 กรัม ส่วนรากสดให้ใช้ครั้งละ 35-70 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน[2]
ประโยชน์ของโสมไทย
ใบโสมคน
ยอดอ่อน ใบอ่อนโสมไทยสามารถนำมาผัดเป็นผักที่มีรสชาติดี เช่น ผัดน้ำมันหอย ผัดแบบผักบุ้งไฟแดง หรือนำมาใช้ทำแกงเลียง แกงป่า แกงจืด แกงแค ส่วนยอดใบอ่อนก็นำมาลวก ต้ม หรือนึ่งจิ้มกินกับน้ำพริก ใช้ผสมในแป้งทำขนมบัวลอย ขนมทองพับ ข้าวเกรียบปากหม้อ และใบอ่อนยังสามารถนำมาใช้แทนผักโขมสวน ในการทำอาหารได้อีกด้วย[3],[5]
โสมไทยเป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามิน และเป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้[3] ใบอ่อนและยอดอ่อน จะนำมาใช้รับประทานเป็นผักใบเขียว มีประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกาย โดยคุณค่าทางโภชนาการของโสมไทย จะประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต, เส้นใยอาหาร, โปรตีน, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 นอกจากนี้ยังมี essential oils, สาร flavonoids, chromene, มีน้ำมันหอมระเหยอีกเล็กน้อย และยังมีสารสำคัญอื่น ๆ อีก เช่น borneol, camphene, camphor, cineol, limonene, myrcene, pinene, pinostrobin, rubramine, thujene เป็นต้น[4] (บางข้อมูลระบุว่า โสมไทยมีกรดออกซาลิกสูง ผู้ที่เป็นโรคไต โรคเกาต์ โรคไขข้ออักเสบ ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก)
บางข้อมูลระบุว่า โสมไทยเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น สามารถนำมาใช้ทำเป็นน้ำคลอโรฟิลล์ได้
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เนื่องจากมีลักษณะของลำต้นและใบที่เขียวชอุ่ม และมีดอกสีม่วงที่ดูสวยงาม
cr.medthai
สนใจติดต่อ สวนแดงจินดา
โทร 089-637-3665
Facebook: สวน แดง จินดา
เว็บไซค์ :dangjindagarden.com
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 18 Nov 18 07:25
คำสำคัญ:
โสมไทย