ชื่อสินค้า:
อังกาบ (ใบสด/แห้ง/บดผง)
รหัส:
300610
ประเภท:
ราคา:
100.00 บาท
ติดต่อ:
คุณสุชาดา
ที่อยู่ร้าน:
จ.ขอนแก่น
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 13 ปี 4 เดือน
โทรศัพท์:
ปุ่มติดต่อ:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
อังกาบดอกสีเหลือง (ใบสด/แห้ง/บดผง)
ราคาขาย
- ใบสด ขีดละ 100 บาท กก.ละ 800 บ.
ต้น
- ใบ/ต้นแห้ง ขีดละ 300 บาท กก.ละ 2500 บ.
ต้น
- ใบ/ต้นบดผง ขีดละ 350 บาท กก.ละ 2800 บ.
**ต้นสำหรับปลูก
-ขนาดกระถาง 4 นิ้ว ต้นละ 30 บาท
-ขนาดกระถาง 6 นิ้ว ต้นละ 50 บาท
โทร: 08-5011-9534
Line ID: TONLUCK_KK
email: [email protected]
(ท่านสามารถสั่งซื้อจำนวนกี่ต้น หรือกี่กิโลกรัมก็ได้ ไม่จำกัดว่ามากหรือน้อย)
**หากเป็นใบสดแนะนำให้โทรสั่งล่วงหน้าก่อนวันส่ง 1 คืน...
เพื่อที่จะตัดใบในแปลง ให้ทันตอนเช้าตรู่ค่ะ
(สมุนไพรใช้ใบส่วนใหญ่ควรเก็บเกี่ยวตอนเช้าตรู่ เพื่อคงตัวยาไว้ในใบให้ได้มากที่สุด)
l
l
l
l
V
...โอนเงินทางธนาคาร
- กรุงไทย สาขาถนนมะลิวัลย์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 424-1-49070-0 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- ทหารไทย (TMB) สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น(630) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 630-2-20205-3 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กรุงเทพ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น(2366) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 546-7-16833-1 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กสิกรไทย สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น(549) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 549-2-16103-0 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กรุงศรี สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น(438) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 438-1-20945-4 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- ไทยพานิชย์ สาขาตึกคอมขอนแก่น บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 935-209159-9 ชื่อบัญชี ต้นรักษ์ขอนแก่น
***มีบริการจัดส่ง โดยเก็บเงินปลายทาง
ข้อมูล: อังกาบดอกเหลือง
ชื่ออื่น อังกาบหนู, เขี้ยวเนื้อ, เขี้ยวแก้ง (ภาคกลาง), อังกาบ (นครศรีธรรมราช) มันไก่ (ภาคเหนือ)
อังกาบดั้งเดิมของไทยดอกมีสีเหลือง ส่วนที่มาจากเมืองนอกนั้นดอกสีเขียว (ม่วง) ซึ่งอังกาบดอกสีเหลืองนั้นปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า อังกาบหนู (Barleria prionitis Linn.) ลำต้นมีหนามแหลม
ส่วนอังกาบที่มาจากต่างประเทศนั้น ตามหลักฐานระบุว่ามาจากประเทศอินเดีย มีดอกสีม่วงหรือขาว ลำต้นไม่มีหนาม ซึ่งก็คือ อังกาบที่นิยมปลูกกัน ในปัจจุบันนั่นเอง มีชื่อเรียกอื่นๆ คือ ทองระย้า (กทม.) คันชั่ง (ตาก) ก้านชั่ง (ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria prionitis Linn.
ชื่อวงศ์ Acanthaceae วงศ์เดียวกันกับต้อยติ่ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- เป็นไม้พุ่ม สูงถึง 1.5 ม.
- ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม ตัวใบรูปไข่ปลายแหลม ยาว 2-17 ซม. กว้าง 0.5-6 ซม. ตามซอกใบจะมีหนามแหลม 3-5 อัน
- ดอกออกเดี่ยวๆ ส่วนตอนปลายยอดจะออกเป็นช่อ กลีบดอกสีเหลืองสด ยาว 2-5 ซม. - ผลกลมแบน ปลายแหลม แข็ง ขนาด 1-2 ซม. ภายในมีเมล็ด 2 เมล็ด
สภาพแวดล้อม: ขึ้นได้ดีในที่แล้ง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
***ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Web ต่างประเทศ http://stuartxchange.com/Kolinta.html
- In the Philippines, decoction of leaves and tops used for bathing in cases of febrile catarrh.
- Whole plant used for urinary and paralytic affections, rheumatism, jaundice, hepatic obstruction and dropsy.
- In Abyssinia, used as febrifuge.
- Paste of roots is applied to boils and glandular swellings.
- In the Konkan, dried bark is given in whooping cough; for anasarca, the juice of the fresh bark with milk.
- In catarrhal afflictions of children with fever and phlegm, two teaspoons of a mixture of the juice of leaves in honey or sugar and water, twice daily.
- For rain soaked feet, juice of the leaves applied to the feet to prevent cracking and laceration.
- Juice of leaves mixed with honey applied to bleeding gums; also used as ear drops for otitis.
- In indigenous systems of medicine in India, stem, leaves and flowers are used for fever, toothaches, inflammation, gastrointestinal disorders, whooping cough. Roots used as tonic and diuretic.
- In Thailand and India, decoction of leaves and flowers used for viral fever.
- In West Bengal used by the Santals as abortifacient: 3 gm of fresh root is crushed with about 100cc of pochai (alcohol from rice) or Mahua (alcohol from flowers of Bassia latifolia, given once daily in the early morning for 3 to 5 consecutive days in induce abortion up to 3 months pregnancy. แก้ไขข้อมูลเมื่อ 15 May 20 06:50
ราคาขาย
- ใบสด ขีดละ 100 บาท กก.ละ 800 บ.
ต้น
- ใบ/ต้นแห้ง ขีดละ 300 บาท กก.ละ 2500 บ.
ต้น
- ใบ/ต้นบดผง ขีดละ 350 บาท กก.ละ 2800 บ.
**ต้นสำหรับปลูก
-ขนาดกระถาง 4 นิ้ว ต้นละ 30 บาท
-ขนาดกระถาง 6 นิ้ว ต้นละ 50 บาท
โทร: 08-5011-9534
Line ID: TONLUCK_KK
email: [email protected]
(ท่านสามารถสั่งซื้อจำนวนกี่ต้น หรือกี่กิโลกรัมก็ได้ ไม่จำกัดว่ามากหรือน้อย)
**หากเป็นใบสดแนะนำให้โทรสั่งล่วงหน้าก่อนวันส่ง 1 คืน...
เพื่อที่จะตัดใบในแปลง ให้ทันตอนเช้าตรู่ค่ะ
(สมุนไพรใช้ใบส่วนใหญ่ควรเก็บเกี่ยวตอนเช้าตรู่ เพื่อคงตัวยาไว้ในใบให้ได้มากที่สุด)
l
l
l
l
V
...โอนเงินทางธนาคาร
- กรุงไทย สาขาถนนมะลิวัลย์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 424-1-49070-0 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- ทหารไทย (TMB) สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น(630) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 630-2-20205-3 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กรุงเทพ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น(2366) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 546-7-16833-1 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กสิกรไทย สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น(549) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 549-2-16103-0 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- กรุงศรี สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น(438) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 438-1-20945-4 ชื่อบัญชี สุชาดา...
- ไทยพานิชย์ สาขาตึกคอมขอนแก่น บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 935-209159-9 ชื่อบัญชี ต้นรักษ์ขอนแก่น
***มีบริการจัดส่ง โดยเก็บเงินปลายทาง
ข้อมูล: อังกาบดอกเหลือง
ชื่ออื่น อังกาบหนู, เขี้ยวเนื้อ, เขี้ยวแก้ง (ภาคกลาง), อังกาบ (นครศรีธรรมราช) มันไก่ (ภาคเหนือ)
อังกาบดั้งเดิมของไทยดอกมีสีเหลือง ส่วนที่มาจากเมืองนอกนั้นดอกสีเขียว (ม่วง) ซึ่งอังกาบดอกสีเหลืองนั้นปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า อังกาบหนู (Barleria prionitis Linn.) ลำต้นมีหนามแหลม
ส่วนอังกาบที่มาจากต่างประเทศนั้น ตามหลักฐานระบุว่ามาจากประเทศอินเดีย มีดอกสีม่วงหรือขาว ลำต้นไม่มีหนาม ซึ่งก็คือ อังกาบที่นิยมปลูกกัน ในปัจจุบันนั่นเอง มีชื่อเรียกอื่นๆ คือ ทองระย้า (กทม.) คันชั่ง (ตาก) ก้านชั่ง (ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria prionitis Linn.
ชื่อวงศ์ Acanthaceae วงศ์เดียวกันกับต้อยติ่ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- เป็นไม้พุ่ม สูงถึง 1.5 ม.
- ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม ตัวใบรูปไข่ปลายแหลม ยาว 2-17 ซม. กว้าง 0.5-6 ซม. ตามซอกใบจะมีหนามแหลม 3-5 อัน
- ดอกออกเดี่ยวๆ ส่วนตอนปลายยอดจะออกเป็นช่อ กลีบดอกสีเหลืองสด ยาว 2-5 ซม. - ผลกลมแบน ปลายแหลม แข็ง ขนาด 1-2 ซม. ภายในมีเมล็ด 2 เมล็ด
สภาพแวดล้อม: ขึ้นได้ดีในที่แล้ง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
***ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Web ต่างประเทศ http://stuartxchange.com/Kolinta.html
- In the Philippines, decoction of leaves and tops used for bathing in cases of febrile catarrh.
- Whole plant used for urinary and paralytic affections, rheumatism, jaundice, hepatic obstruction and dropsy.
- In Abyssinia, used as febrifuge.
- Paste of roots is applied to boils and glandular swellings.
- In the Konkan, dried bark is given in whooping cough; for anasarca, the juice of the fresh bark with milk.
- In catarrhal afflictions of children with fever and phlegm, two teaspoons of a mixture of the juice of leaves in honey or sugar and water, twice daily.
- For rain soaked feet, juice of the leaves applied to the feet to prevent cracking and laceration.
- Juice of leaves mixed with honey applied to bleeding gums; also used as ear drops for otitis.
- In indigenous systems of medicine in India, stem, leaves and flowers are used for fever, toothaches, inflammation, gastrointestinal disorders, whooping cough. Roots used as tonic and diuretic.
- In Thailand and India, decoction of leaves and flowers used for viral fever.
- In West Bengal used by the Santals as abortifacient: 3 gm of fresh root is crushed with about 100cc of pochai (alcohol from rice) or Mahua (alcohol from flowers of Bassia latifolia, given once daily in the early morning for 3 to 5 consecutive days in induce abortion up to 3 months pregnancy. แก้ไขข้อมูลเมื่อ 15 May 20 06:50
คำสำคัญ:
อังกาบ
ต้นสมุนไพร