ชื่อสินค้า:
เมล็ดบัวดินสีเหลือง
รหัส:
271578
ประเภท:
ราคา:
20.00 บาท
ติดต่อ:
คุณกุสุมา ตุ่นแก้ว
ที่อยู่ร้าน:
จ.เชียงใหม่
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 11 ปี 6 เดือน
โทรศัพท์:
ปุ่มติดต่อ:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
บัวดิน จัดเป็นไม้ดอกประเภทหัวที่มีความทนทานต่อสภาพแห้งแล้ง ปลูกเลี้ยงง่าย และมีดอกสวยงาม นิยมนำมาปลูกในแปลงจัดสวน และการปลูกในกระถางสำหรับชมดอก รวมถึงประโยชน์ในด้านการใช้เป็นพืชคลุมดิน
บัวดินจะออกดอกในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคม-เมษายน ของทุกปี และส่วนมากหลังจากเดือนเมษายนจะทิ้งใบ และดอกเหี่ยวแห้งลง ทั้งนี้ บัวดินจะออกดอกมากในช่วงฤดูฝน และจะบานมากในช่วง 2-4 วัน หลังฝนตกหนัก สำหรับต้นที่ปลูกด้วยเมล็ดจะออกดอกภายใน 5 เดือน หลังการปลูก
ดอกบัวดินจะบานในช่วงเช้า และจะหุบลงในช่วงเย็น โดยดอกบัวดินจะบานอยู่ได้ประมาณ 2 วัน แล้วค่อยเหี่ยวแห้งไป โดยในวันแรกสีกลีบดอกจะมีสีเข้มมาก ส่วนวันที่ 2 สีจะค่อยๆจางลง
ฝัก และเมล็ด
ผลหรือฝัก แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เปลือกค่อนข้างเกลี้ยง เมื่อผลแก่เปลือกแห้ง และแตกตามแนวกลางของแต่ละห้อง เมล็ดแบน เมื่อแก่เมล็ดมีสีดามีจานวนมากอัดแน่นอยู่ภายในผล โดยการติดเมล็ดของบัวดินนั้นค่อนข้างน้อย ประมาณ 10 เมล็ด/ฝัก แต่บางสายพันธุ์มีเมล็ด 25-30 เมล็ด
สายพันธุ์ที่พบไนประเทศไทย
– Z. citrina Baker. ให้ดอกสีเหลืองเข้ม
– Z. ajax Spreng. ให้ดอกสีเหลืองอ่อน
– Z. canida Herb. ให้ดอกสีขาว
– Z. grandiflora Lindl. ให้ดอกสีแดง ขนาดใหญ่
– Z. rosea Lindl. ให้ดอกสีชมพู ขนาดเล็ก
การปลูกบัวดิน
บัวดินเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ นิยมปลูก และขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งหัวปลูก เนื่องจากหัวแก่จะแตกหัวย่อยออกไปเรื่อยๆ และนิยมปลูกทั้งบนแปลงจัดสวน และการปลูกในกระถาง แต่ทั่วไปนิยมปลูกในกระถางเป็นส่วนใหญ่
นอกจากการปลูกด้วยการแบ่งหัวแล้ว ยังสามารถปลูกได้ด้วยการชำซีกหัว คล้ายกับการปลูกว่านสี่ทิศ โดยการผ่าแบ่งหัวออกเป็นส่วนๆ ด้วยการผ่าหัวผ่านตรงกลางในแนวตั้งเป็นซีกๆ โดยแต่ละซีกจะต้องให้มีฐานหัวที่มีรากหรือปุ่มรากติดมาด้วย ก่อนจะนำไปปักชำในกระถาง แล้วค่อยแยกลงปลูกในกระถางเมื่อมีการแตกใบ และสร้างหัวที่สมบูรณ์แล้ว อ่านเพิ่มเติมใน ว่านสี่ทิศ
การปลูกลงแปลงจัดสวน ควรปลูกด้วยบัวดินชนิดเดียวหรือปลูกไม้ประดับอื่นที่มีลำต้นไม่สูง และไม่มีร่มเงามาก โดยเตรียมแปลงด้วยการขุดพรวนดิน พร้อมกำจัดหญ้าออกให้หมด หลังจากนั้น หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอก เช่น มูลโค มูลไก่ เป็นต้น
ส่วนการปลูกในกระถางจะใช้หัวปลูกประมาณ 3-5 หัว ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง โดยการใช้วัสดุปลูกที่เป็นดินผสมกับวัสดุทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยคอก แกลบดำ และขุยมะพร้าว เป็นต้น อัตราส่วนของดินกับวัสดุทางการเกษตรที่ 1:3-5
การดูแลหลังการปลูกจำเป็นต้องให้น้ำอย่างพอเพียง และสม่ำเสมอ ซึ่งอาจให้น้ำวันละ 1 ครั้ง หรือ 2 วัน/ครั้ง ส่วนปุ๋ยที่ใส่ ควรให้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก เพราะจะช่วยให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ และอาจให้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วยเพียงเล็กน้อย เช่น สูตร 15-15-15
การบัวดินให้ออกดอกหรือออกดอกอย่างต่อเนื่อง
1. ตัดใบออกให้หมด พร้อมให้ปุ๋ย และน้ำ
2. สำหรับบัวดินที่โตเต็มที่แล้ว สามารถบังคับให้ออกดอกได้ด้วยการงดให้น้ำ 2-10 สัปดาห์ หลังจากนั้น ค่อยให้น้ำอย่างเต็มที่
3. ขุดหัวแก่ที่มีขนาดใหญ่มาผึ่งลม 6-10 สัปดาห์ หลังจากนั้น นำมาปลูกใหม่
4. การทำให้ออกดอกอย่างสม่ำเสมอขึ้นอยู่กับการให้น้ำ และปุ๋ยอย่างเพียงพอ
สนใจติดต่อ
โทร 089-637-3665
Line ID: linglingling99
Facebook: สวนแดงจินดา จำหน่ายพืชสมุนไพร เชียงใหม่
Facebook page :สวนแดงจินดา แก้ไขข้อมูลเมื่อ 10 Nov 17 11:57
บัวดินจะออกดอกในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคม-เมษายน ของทุกปี และส่วนมากหลังจากเดือนเมษายนจะทิ้งใบ และดอกเหี่ยวแห้งลง ทั้งนี้ บัวดินจะออกดอกมากในช่วงฤดูฝน และจะบานมากในช่วง 2-4 วัน หลังฝนตกหนัก สำหรับต้นที่ปลูกด้วยเมล็ดจะออกดอกภายใน 5 เดือน หลังการปลูก
ดอกบัวดินจะบานในช่วงเช้า และจะหุบลงในช่วงเย็น โดยดอกบัวดินจะบานอยู่ได้ประมาณ 2 วัน แล้วค่อยเหี่ยวแห้งไป โดยในวันแรกสีกลีบดอกจะมีสีเข้มมาก ส่วนวันที่ 2 สีจะค่อยๆจางลง
ฝัก และเมล็ด
ผลหรือฝัก แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เปลือกค่อนข้างเกลี้ยง เมื่อผลแก่เปลือกแห้ง และแตกตามแนวกลางของแต่ละห้อง เมล็ดแบน เมื่อแก่เมล็ดมีสีดามีจานวนมากอัดแน่นอยู่ภายในผล โดยการติดเมล็ดของบัวดินนั้นค่อนข้างน้อย ประมาณ 10 เมล็ด/ฝัก แต่บางสายพันธุ์มีเมล็ด 25-30 เมล็ด
สายพันธุ์ที่พบไนประเทศไทย
– Z. citrina Baker. ให้ดอกสีเหลืองเข้ม
– Z. ajax Spreng. ให้ดอกสีเหลืองอ่อน
– Z. canida Herb. ให้ดอกสีขาว
– Z. grandiflora Lindl. ให้ดอกสีแดง ขนาดใหญ่
– Z. rosea Lindl. ให้ดอกสีชมพู ขนาดเล็ก
การปลูกบัวดิน
บัวดินเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ นิยมปลูก และขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งหัวปลูก เนื่องจากหัวแก่จะแตกหัวย่อยออกไปเรื่อยๆ และนิยมปลูกทั้งบนแปลงจัดสวน และการปลูกในกระถาง แต่ทั่วไปนิยมปลูกในกระถางเป็นส่วนใหญ่
นอกจากการปลูกด้วยการแบ่งหัวแล้ว ยังสามารถปลูกได้ด้วยการชำซีกหัว คล้ายกับการปลูกว่านสี่ทิศ โดยการผ่าแบ่งหัวออกเป็นส่วนๆ ด้วยการผ่าหัวผ่านตรงกลางในแนวตั้งเป็นซีกๆ โดยแต่ละซีกจะต้องให้มีฐานหัวที่มีรากหรือปุ่มรากติดมาด้วย ก่อนจะนำไปปักชำในกระถาง แล้วค่อยแยกลงปลูกในกระถางเมื่อมีการแตกใบ และสร้างหัวที่สมบูรณ์แล้ว อ่านเพิ่มเติมใน ว่านสี่ทิศ
การปลูกลงแปลงจัดสวน ควรปลูกด้วยบัวดินชนิดเดียวหรือปลูกไม้ประดับอื่นที่มีลำต้นไม่สูง และไม่มีร่มเงามาก โดยเตรียมแปลงด้วยการขุดพรวนดิน พร้อมกำจัดหญ้าออกให้หมด หลังจากนั้น หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอก เช่น มูลโค มูลไก่ เป็นต้น
ส่วนการปลูกในกระถางจะใช้หัวปลูกประมาณ 3-5 หัว ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง โดยการใช้วัสดุปลูกที่เป็นดินผสมกับวัสดุทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยคอก แกลบดำ และขุยมะพร้าว เป็นต้น อัตราส่วนของดินกับวัสดุทางการเกษตรที่ 1:3-5
การดูแลหลังการปลูกจำเป็นต้องให้น้ำอย่างพอเพียง และสม่ำเสมอ ซึ่งอาจให้น้ำวันละ 1 ครั้ง หรือ 2 วัน/ครั้ง ส่วนปุ๋ยที่ใส่ ควรให้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก เพราะจะช่วยให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ และอาจให้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วยเพียงเล็กน้อย เช่น สูตร 15-15-15
การบัวดินให้ออกดอกหรือออกดอกอย่างต่อเนื่อง
1. ตัดใบออกให้หมด พร้อมให้ปุ๋ย และน้ำ
2. สำหรับบัวดินที่โตเต็มที่แล้ว สามารถบังคับให้ออกดอกได้ด้วยการงดให้น้ำ 2-10 สัปดาห์ หลังจากนั้น ค่อยให้น้ำอย่างเต็มที่
3. ขุดหัวแก่ที่มีขนาดใหญ่มาผึ่งลม 6-10 สัปดาห์ หลังจากนั้น นำมาปลูกใหม่
4. การทำให้ออกดอกอย่างสม่ำเสมอขึ้นอยู่กับการให้น้ำ และปุ๋ยอย่างเพียงพอ
สนใจติดต่อ
โทร 089-637-3665
Line ID: linglingling99
Facebook: สวนแดงจินดา จำหน่ายพืชสมุนไพร เชียงใหม่
Facebook page :สวนแดงจินดา แก้ไขข้อมูลเมื่อ 10 Nov 17 11:57
คำสำคัญ:
บัวดิน
เมล็ดพันธุ์ไม้ดอก-ไม้ประดับ