ว่านข่าจืด ข่าด่างขาว

ว่านข่าจืด -jkfjk'-k;
ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE
ชื่อสกุล Alpinia
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia sp.
ชื่อพื้นเมืองอื่น ว่านข่า (ทั่วไป)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุกที่มีลำต้นกลมเล็กอยู่ใต้ดินเหมือนต้นข่า ลักษณะเป็นแง่งหรือเหง้าขนาดเล็ก มากจนดูเหมือนเป็นราก แตกแขนงออกทางด้านข้างแต่ไม่มีกลิ่นฉุนและรสร้อนแรงเหมือนข่าทั่วไป เนื้อในหัวหรือแง่งมีสีขาว
ใบ เป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบรีรูปหอก โคนใบสอบเรียว ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ เป็นหยักเล็กน้อย แผ่นใบมีสีเขียว และจะมีทางลายสีขาวตามใบหรือตามแนวเส้นแขนงใบ มองเห็นได้ชัดทั้งด้านแผ่นใบและท้องใบ
ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ มีใบประดับที่เรียงซ้อนกันขึ้นมาเป็นช่อ ดอกมีสีขาว ลักษณะเป็นรูปกรวย แทงออกมาตรงใบประดับออกดอกช่วงต้นปีเพียงครั้งเดียว

นิเวศวิทยาสมุนไพรไทยว่านข่าจืด

พบขึ้นตามป่าเชิงเขาหรือที่ราบลุ่มทั่วๆ ไป ชอบอากาศค่อนข้างร้อน และต้องการความชื้นสูง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย หรือดินร่วนปนทราย มีระบบการระบายน้ำที่ดี นิยมปลูกตามบ้านเรือนและสถานประกอบการเพื่อควาสวยงามและประโยชน์ทางยา
การขยายพันธุ์ และวิธีการปลูก
ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อหรือแง่งที่แตกขึ้นรอบๆ ต้นเดิม ใช้ดินร่วนปนทรายผสมแกลบเผาสีดำเป็นดินปลูก กลบดินพอให้หัวว่านโผล่ อย่ากดดินปลูกให้แน่นมาก รดน้ำที่เสกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” ๓ จบเสมอ ถ้าต้องการให้เจริญเติบโตที่ควรปลูกลงแปลงแบบยกร่อง

สรรพคุณทางยาสมุนไพรไทยว่านข่าจืด

เหง้าหัวหรือแง่ง แก้พิษเบื่อเมาต่างๆ ทั้งจากอาหารและพิษอื่นๆ โดยการรับประทานหัวว่านสดหรือเอาหัวว่านฝนกับน้ำมะนาวดื่ม พิษจะหาย ก่อนการนำไปใช้ให้เสกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” ตามกำลังวัน เช่น วันอาทิตย์เสก ๑ ครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถนำหัวว่านฝนกับสุรากลั่น ใช้ในการรักษากลากเกลื้อน หรือใช้ฝนกับน้ำปูนใสทาแก้ฝีทุกชนิดได้อีกด้วย

สรรพคุณทางอื่นสมุนไพรไทยว่านข่าจืด

เป็นว่านที่ใช้เป็นของขลัง ใช้ในการป้องกันตัว โดยใช้หัวว่านนำมาทำเป็นลูกประคำ แล้วปลุกเสกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” ๑๐๘ จบ เอาลูกประคำติดตัวไว้ ใครคิดจะทำลายโดยยาพิษจะจืดลิ้น ควรปลูกไว้ในบ้านเรือนหรือสถานประกอบการ เมื่อว่านออกดอกให้หาผ้าขาวบริสุทธิ์มาผูกรอบกระถาง แล้วรดน้ำที่เสกด้วยคาถา “อิติปิโสฯ” หรือ “นะโมพุทธายะ” ๓ จบ ผู้เป็นเจ้าของจะสมใจปองในสิ่งที่พึงประสงค์
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 27 Jul 21 07:29