ชื่อสินค้า:
กิ่งพันธุ์มะม่วงแก้วขมิ้น
รหัส:
205404
ประเภท:
ราคา:
150.00 บาท
ติดต่อ:
คุณสุขใจ จีนอ่อน
ที่อยู่ร้าน:
อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 14 ปี 10 เดือน
โทรศัพท์:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
กิ่งพันธุ์มะม่วงแก้วขมิ้น มี 2 แบบ เสียบยอดต้นละ 150 บาท กิ่งทาบ 350 บาท เป็นมะม่วงอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าปลูก เนื้อสีเหลืองเข้ม เมื่อแก่จัดจะมีรสมันอมเปรี้ยวเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานมะม่วงกับพริกเกลือ เป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันผลผลิตมีขายอยู่ทั่วไปตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้ชิมส่วนใหญ่แม่ค้าจะเรียกว่ามะม่วงแก้วขเมร แต่ด้วยสีเนื้อที่เหมือนกับสีของขมิ้น มะม่วงพันธุ์นี้จึงมีชื่อเรียกว่าแก้วขมิ้น สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 089-1758253 และ 089-9993006 ครับ
บทความจากทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
มะม่วงแก้วขมิ้น เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบกิ่งก้านหนาแน่นบริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปรี ปลายแหลม โคนมน เนื้อใบค่อนข้างหนา เวลาใบดกจะให้ร่มเงาดีมาก ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมากเป็นสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรี ขนาดผลใหญ่ และมีความแตกต่างจากผลของมะม่วงแก้วของไทยอย่างชัดเจน ผลโตเต็มที่น้ำหนักเฉลี่ย 2-3 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม (บางผลหนักถึง 500 กรัม) เมล็ดลีบบาง มีเนื้อเยอะ รสชาติอร่อยทั้งดิบและสุกตามที่กล่าวข้างต้น ขยายพันธุ์ด้วยการทาบกิ่ง
ความจริงแล้วมะม่วงชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศกัมพูชา ช่วงที่มีการนำผลผลิตมาขายในบ้านเราใหม่ ๆ เรียกมะม่วงแก้วเขมร ปัจจุบันนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานหลายปีแล้ว มีความพิเศษคือ เป็นมะม่วงปลูกรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ผลมีขนาดใหญ่กว่ามะม่วงแก้วของไทยอย่างชัดเจน เป็นมะม่วงติดผลดกได้ปีละ 2 ครั้ง เนื้อผลแก่จัดหรือสุกเมื่อผ่าจะเป็นสีเหลืองเข้มคล้ายสีของขมิ้น จึงถูกตั้งชื่อว่า “มะม่วงแก้วขมิ้น” รสชาติช่วงผลดิบฝานเป็นชิ้น ๆ จิ้มเกลือพริกป่น หรือกินกับน้ำปลาหวานกรอบมันปนเปรี้ยวและหวานเล็กน้อย ฉ่ำน้ำ เนื้อไม่แข็งหยาบกระด้าง หรือเหนียวเหมือนมะม่วงกินผลดิบบางสายพันธุ์ พ่อค้าขายผลไม้รถเข็นปัจจุบันนิยมเอา “มะม่วงแก้วขมิ้น” ปอกและเฉาะขายผลละ 20-50 บาท ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อรับประทานอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะมีแหล่งปลูกเก็บผลส่งเข้าจำหน่ายที่ตลาดไทแบบต่อเนื่องไม่ขาดระยะ เพราะติดผลปีละ 2 ครั้งนั่นเอง เมื่อผลสุก เนื้อสุก ไม่เละ รสชาติหวานหอมไม่มีเสี้ยนอร่อยมาก รสชาติหวานกว่ามะม่วงแก้วสุก แต่จะนิยมรับประทานผลดิบมากกว่าผลสุก ปลูกต้นเดียวมีผลให้ผู้ปลูกเก็บรับประทานได้ตลอด แถมเวลาติดผลจะเป็นพวง 3–5 ผลต่อพวงจึงคุ้มค่ามาก
มะม่วงแก้วขมิ้นหรือแก้วเขมรนี้ปัจจุบันจัดเป็นมะม่วงที่เป็นไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของชาวสวนเกษตร ลูกใหญ่รสชาติดี เป็นมะม่วง 3 รส รสชาติคล้ายมะม่วงแก้วแต่เปรี้ยวน้อยกว่าและไม่มีกลิ่นขี้ไต้ น้ำหนักดี 2 ลูกต่อกิโลกรัม ปลูก 2 ปีเริ่มให้ผลผลิตแต่ยังไม่มากนัก หลังจากปลูกแล้ว 5 ปีขึ้นไปผลผลิตจะดกมาก โรงงานทำมะม่วงดอง ทำมะม่วงแช่อิ่ม มีเท่าไหร่รับหมด เพราะรสชาติและน้ำหนักดีเป็นเยี่ยม สำหรับมะม่วงพันธุ์นี้เท่าที่สังเกตจะมีร่องนิด ๆ ที่ใต้ขั้ว ผลดิบรสชาติอร่อยมาก คือไม่เปรี้ยวมาก ลูกดิบที่ไม่ค่อยแก่จะสีไม่เหลือง แต่ลูกแก่จะออกสีเหลืองเหมือนขมิ้น ยิ่งแก่มากยิ่งสีเหลืองมาก ผลสุกก็หวาน มีเสี้ยนนิด ๆ แต่นิยมกินดิบ
จากการที่ได้รับประทานมะม่วงแก้วขมิ้น จัดเป็นมะม่วงกินดิบที่น่าสนใจในการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากส่งขายในตลาดเพื่อการบริโภคสดได้แล้ว ยังส่งเข้าโรงงานแปรรูปได้อีกด้วย.
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 23 Oct 15 10:09
บทความจากทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
มะม่วงแก้วขมิ้น เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับรอบกิ่งก้านหนาแน่นบริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปรี ปลายแหลม โคนมน เนื้อใบค่อนข้างหนา เวลาใบดกจะให้ร่มเงาดีมาก ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมากเป็นสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรี ขนาดผลใหญ่ และมีความแตกต่างจากผลของมะม่วงแก้วของไทยอย่างชัดเจน ผลโตเต็มที่น้ำหนักเฉลี่ย 2-3 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม (บางผลหนักถึง 500 กรัม) เมล็ดลีบบาง มีเนื้อเยอะ รสชาติอร่อยทั้งดิบและสุกตามที่กล่าวข้างต้น ขยายพันธุ์ด้วยการทาบกิ่ง
ความจริงแล้วมะม่วงชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศกัมพูชา ช่วงที่มีการนำผลผลิตมาขายในบ้านเราใหม่ ๆ เรียกมะม่วงแก้วเขมร ปัจจุบันนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานหลายปีแล้ว มีความพิเศษคือ เป็นมะม่วงปลูกรับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ผลมีขนาดใหญ่กว่ามะม่วงแก้วของไทยอย่างชัดเจน เป็นมะม่วงติดผลดกได้ปีละ 2 ครั้ง เนื้อผลแก่จัดหรือสุกเมื่อผ่าจะเป็นสีเหลืองเข้มคล้ายสีของขมิ้น จึงถูกตั้งชื่อว่า “มะม่วงแก้วขมิ้น” รสชาติช่วงผลดิบฝานเป็นชิ้น ๆ จิ้มเกลือพริกป่น หรือกินกับน้ำปลาหวานกรอบมันปนเปรี้ยวและหวานเล็กน้อย ฉ่ำน้ำ เนื้อไม่แข็งหยาบกระด้าง หรือเหนียวเหมือนมะม่วงกินผลดิบบางสายพันธุ์ พ่อค้าขายผลไม้รถเข็นปัจจุบันนิยมเอา “มะม่วงแก้วขมิ้น” ปอกและเฉาะขายผลละ 20-50 บาท ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อรับประทานอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะมีแหล่งปลูกเก็บผลส่งเข้าจำหน่ายที่ตลาดไทแบบต่อเนื่องไม่ขาดระยะ เพราะติดผลปีละ 2 ครั้งนั่นเอง เมื่อผลสุก เนื้อสุก ไม่เละ รสชาติหวานหอมไม่มีเสี้ยนอร่อยมาก รสชาติหวานกว่ามะม่วงแก้วสุก แต่จะนิยมรับประทานผลดิบมากกว่าผลสุก ปลูกต้นเดียวมีผลให้ผู้ปลูกเก็บรับประทานได้ตลอด แถมเวลาติดผลจะเป็นพวง 3–5 ผลต่อพวงจึงคุ้มค่ามาก
มะม่วงแก้วขมิ้นหรือแก้วเขมรนี้ปัจจุบันจัดเป็นมะม่วงที่เป็นไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของชาวสวนเกษตร ลูกใหญ่รสชาติดี เป็นมะม่วง 3 รส รสชาติคล้ายมะม่วงแก้วแต่เปรี้ยวน้อยกว่าและไม่มีกลิ่นขี้ไต้ น้ำหนักดี 2 ลูกต่อกิโลกรัม ปลูก 2 ปีเริ่มให้ผลผลิตแต่ยังไม่มากนัก หลังจากปลูกแล้ว 5 ปีขึ้นไปผลผลิตจะดกมาก โรงงานทำมะม่วงดอง ทำมะม่วงแช่อิ่ม มีเท่าไหร่รับหมด เพราะรสชาติและน้ำหนักดีเป็นเยี่ยม สำหรับมะม่วงพันธุ์นี้เท่าที่สังเกตจะมีร่องนิด ๆ ที่ใต้ขั้ว ผลดิบรสชาติอร่อยมาก คือไม่เปรี้ยวมาก ลูกดิบที่ไม่ค่อยแก่จะสีไม่เหลือง แต่ลูกแก่จะออกสีเหลืองเหมือนขมิ้น ยิ่งแก่มากยิ่งสีเหลืองมาก ผลสุกก็หวาน มีเสี้ยนนิด ๆ แต่นิยมกินดิบ
จากการที่ได้รับประทานมะม่วงแก้วขมิ้น จัดเป็นมะม่วงกินดิบที่น่าสนใจในการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากส่งขายในตลาดเพื่อการบริโภคสดได้แล้ว ยังส่งเข้าโรงงานแปรรูปได้อีกด้วย.
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 23 Oct 15 10:09
คำสำคัญ:
กิ่งพันธุ์มะม่วงแก้วขมิ้น
มะม่วง