ต้นกระทงลาย

ขายต้นกระทงลาย ต้นปลูก ความสูง 50-100 ซม. น้ำหนักถุงเพาะ 0.5-1กก/ถุงส่งสินค้าแบบอีเอมเอส ค่าส่งต้นไม้ 1-4 ต้น/กล่อง/ ค่าส่ง100 บาท
กระทงลาย
เป็นพืชพลังงานอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจ
ถ้าจะมีพืชสักชนิดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ยอดใบ,เปลือก,แก่น,ผลและราก เป็นได้ทั้งอาหารยาสมุนไพร และพลังงานทางเลือก กระทงลาย หรือ หมากแตก ก็นับเป็นหนึ่งในพืชที่มีสรรพคุณรอบตัวเช่นนี้ สถานีสีเขียวจะคุณผู้ชมไปที่อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ไปรู้จักกับหมากแตกพืช มากประโยชน์ที่ถูกคนรุ่นใหม่มองข้ามและตัดทิ้ง แต่โชคดีที่มีกลุ่มอนุรักษ์ที่นำโดยชาวบ้านท้องถิ่น ปลุกกระแสประเพณีโบราณ และให้ความรู้ในภูมิปัญญาดั่งเดิม ประกอบกับสถาบันทางวิชาการ ที่เข้ามาทำการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ วันนี้หมากแตกเริ่มได้รับความสนใจและในอนาคต อาจจะพัฒนาไปถึงระดับพลังงานทางเลือกอีกชนิดหนึ่งสำหรับบ้านเราก็เป็นได้ ติดตามชมรายการสถานีสีเขียว ตอน หมากแตก
ชื่ออื่น : กระทุงลาย โชด (ภาคกลาง); มะแตก-เครือ มักแตก.มะแตก(ภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ). นางแตก(นครราชสีมา)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Celastrus paniculatus willd.
วงศ์: CELASTRACEAE
ลักษณะทั่วไป ต้น: เป็นพรรณไม้พุ่มเลื้อย มีความสูงประมาณ 2-10 เมตร ลักษณะเนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลแดง ใบ: เป็นใบเดี่ยว ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือรูปรี โคนใบสอบเข้าหากันมน ส่วนปลายใบแหลม หรือมน ริมขอบใบหยัก ละเอียดเป็นฟันเลื่อย หลังใบมีพื้นผินเรียบใต้ท้องใบจะมีเส้นใบมี 5-8 คู่ เห็นได้ชัด ขนาดของใบกว้างประมาณ 1-2.5 นิ้ว ยาวประมาณ 2-6 นิ้ว มีก้านใบยาวประมาณ 0.5-1.5 ซม. ดอก: ดอกออกเป็นช่อ ยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ซึ่งออกอยู่บริเวณปลายยอด ลักษณะของดอกมีทั้งดอกเพศผู้และเมียซึ่งมักจะแยกกันคนละต้น ลักษณะของดอกเพศผู้ กลีบรองกลีบดอกมี 5 กลีบ โคนกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายกลีบดอกแยกออกเป็นแฉก รูปค่อนข้างกลม มีขนขึ้นประปราย ฐานดอกเป็นรูปถ้วยนูน ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้มี 5 อัน ยาวราว 2-2.5มม. สำหรับดอกเพศเมียจะมีลักษณะฐานดอกและกลีบรองกลีบดอก จะเหมือนกับดอกเพศผู้ แต่ตรงกลางดอกเป็นเกสรตัวเมียยาวราว 2-2.5มม. ยอดเกสรมี 3 พู ผล: ผลมีลักษณะค่อนข้างกลม ปลายผลมียอดเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลมีขนาดกว้างประมาณ 5-8 มม. ยาวประมาณ 5-10มม. แต่พอผลแก่เต็มที่เกสรอยู่ปลายผลก็จะหลุดออก ผลแตกออกเป็นห้อง 3 ห้อง เมล็ด: เนื้อหุ้มเมล็ดมีสีแดง เมล็ดเป็นรูปรี มีความกว้างราว 2-3มม. ยาวราว 3.5-5 มม. ส่วนที่ใช้ : ลำต้น ใบ เปลือก เมล็ด ผล สรรพคุณ: ลำต้น ใช้เป็นยาแก้วัณโรค แก้ไข้มาลาเรีย ใบ ใช้เป็นยาแก้โรคบิด กระตุ้นประสาท และใช้เป็นถอนพิษฝิ่น วิธีใช้ด้วยการต้ม หรือคั้นเอาน้ำกิน เปลือก ใช้เป็นยาทำแห้ง เมล็ด นำมาตำให้ละเอียดใช้พอก หรือกิน เป็นยาแก้โรคอัมพาต และโรคปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ยาแก้ไข้ เมื่อคั้นเอาน้ำมันจากเมล็ด ใช้เป็นยาแก้โรคเหน็บชา ขับเหงื่อ เป็นต้น ผล ใช้เป็นยาแก้ลมจุกเสียด บำรุงเลือด และใช้เป็นยาถอนพิษงู เป็นต้น
ตำรายาไทย ใช้ ราก แก้ไข้มาลาเรีย แก่น รักษาวัณโรค ผล แก้ลม จุกเสียด บำรุงโลหิต แก้พิษงู แต่ยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์รับรอง ใบ รักษาโรคบิด เมล็ด กินหรือพอกรักษาโรคปวดตามข้อ กล้ามเนื้อและอัมพาต น้ำมันในเมล็ด รักษาโรคเหน็บชา และขับเหงื่อ
ยาพื้นบ้านใช้ เปลือกต้น ตำผสมกับตัวมดแดงและเกลือกินครั้งเดียว แก้บิด ลำต้น ต้มน้ำดื่ม ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ (โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ มีปัสสาวะขุ่นข้น เหลืองหรือแดง มักมีอาการแน่นท้อง กินอาหารไม่ได้)
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 04 Oct 20 02:04