มะขามป้อมยักษ์

สนใจติดต่อสอบถามกันก่อนได้ครับ
การใช้ประโยชน์ทั่วไป
เนื้อไม้ซึ่งมีสีน้ำตาล - แดง เนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง เหนียว ใช้ก่อสร้างบ้านเรือนขนาดเล็ก ด้ามจอบ เสียม เผาเป็นถ่านจะให้ความร้อนสูง ปลูกเป็นพืชอาหารสำหรับสัตว์ป่า เช่น เก้ง กวาง ค้างคาวในระบบนิเวศน์ ส่วนที่เป็นอาหารก็คือนำมารับประทานสด ๆ หรือ แปรรูปโดยการแช่อิ่ม หรือบดผงใช้ชงน้ำดื่ม
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
มะขามป้อมเป็นพืชสมุนไพรทีทมีประโยชน์ใช้ได้แทบทุกส่วน ซึ่งแต่ละส่วนก็ล้วนแต่มีสารออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างกันในตำรายาแผนโบราณหลายตำรับ มีมะขามป้อมเป็นส่วนประกอบหลายขนานเช่น กลุ่มยาขับเสมหะ แก้ไอ กลุ่มยาระบายรวมถึงพิกัดยาต่าง ๆ อีกหลายพิกัด สำหรับแพทย์และเภสัชกรแผนไทยต่างก็รู้ว่าสรรพคุณของมะขามป้อมมีมากมายและให้ประโยชน์ด้านสรรพคุณยาไทย
รากแห้ง (รสฝาดขม)
ต้มน้ำดื่มเป็นยาลดไข้ ไข้เพื่อโลหิต ฟอกเลือด ทำให้อาเจียน ทำให้เส้นเอ็นหย่อน ลดความดันโลหิต
รากสด
ตำ-พอก แก้พิษสัตว์ แมลงกัดต่อย แก้มะเร็ง กรามช้าง กลั่นจะได้สารที่ออกฤทธิ์เป็นยาสมาน เช่น ห้ามเลือด หรืออาการท้องเสียได้ดีกว่าสีเสียด
เปลือกต้น(รสฝาดขม)
เป็นยาสมาน ชาวเหนือจะใช้เปลือกต้นมะขามป้อมสีน้ำตาลย้อมผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ หรือย้อมผมหรือบดเป็นผงโรยแผล หรือต้มดื่ม
ใบ (รสฝาดขม)
ต้มน้ำอาบเป็นยาลดไข้ ดอก ( รสหอมเย็น) - เป็นยาระบาย ผลอ่อน (รสฝาดขม) - บำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์ แก้พรรดึก
ผลแก่สด (รสเปรี้ยวฝาดขม)
มีวิตามินซี สูงกว่าเดิม 20 เท่า (ในปริมาณเท่ากัน) แก้โรคลักปิด-ลักเปิดมีฤทธิ์กัดเสมหะ ลดไข้ ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ ฟอกเลือด แก้ไข้เจือลมหรือตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งกินเป็นยาถ่ายพยาธิ
ผลแห้ง (Emblic Myrabolan)
รสฝาด มีสารแทนนิน (Tannin) แก้ริดสีสีดวงทวารแก้บิดท้องเสีย ใช้ควบกับธาตุเหล็ก จะแก้โรคดีซ่าน และช่วยย่อย ถ้านำไปหมักจะได้แอลกอฮอล์ กินช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ
เมล็ด
เผาไฟจนเป็นเถ้าถ่านผสมกับน้ำมันพืช ทาแก้คัน หิด หรือตำเป็นผงชงน้ำร้อนดื่มรักษาโรคเบาหวาน หอบหืด หลอดลมอักเสบ รักษาโรคตา แก้คลื่นไส้ อาเจียน
คุณค่าทางอาหาร
มะขามป้อมมีรสชาติ ถึง 4 รส คือ เปรี้ยว หวาน ฝาด ขม ถือได้ว่าทุกส่วนของมะขามป้อมมีคุณประโยชน์ต่อ ร่างกายเราทั้งสิ้น ในมะขามป้อม 1 ผล มีวิตามินซีสูงมาก นับว่าเป็นยาอายุวัฒนะขนานหนึ่งซึ่งถ้าใช้เป็นประจำเพื่อเป็นยาบำรุงและป้องกันโรค นอกจากจะมีวิตามินซีแล้ว ยังมีแคลเซียมสูงเช่นกัน ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง แก้ไขข้อมูลเมื่อ 24 Feb 16 11:52