ชื่อสินค้า:
โบรอนพืช
รหัส:
133565
ประเภท:
ราคา:
100.00 บาท
ติดต่อ:
คุณชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
ที่อยู่ร้าน:
เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 13 ปี 8 เดือน
โทรศัพท์:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
กลุ่มผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาต้นไม้
ราคาต่อหน่วย: 100 บาท
ค่าขนส่ง: 80 บาท
รายละเอียด :
ช่วยในการเคลื่อนย้ายฮอร์โมนในพืช เพิ่มประสิทธิภาพ ในการสร้างเซลล์ที่ช่วยเพิ่มจำนวนดอกและติดผลมาก ช่วยในการย้ายน้ำตาลจากต้น และใบ มาสู่ผลและเมล็ด เพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้ไนโตรเจนในพืช ป้องกันไม่ให้ผลแตก ฝักแตก ป้องกันไส้กลวง
ธาตุอาหารสำหรับพืช
เป็นจุลธาตุที่มีบทบาทต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาเชลล์ของพืช พืชดูดโบรอนจากดินในรูป กรดบอริก (H 3 BO 4 ) และเปลี่ยนไปในรูปที่พืชใช้ได้ พีเอชของดินที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5-6.0 ถ้าพีเอชสูงกว่านี้การใช้ประโยชน์ได้ของพืชจะลดลง ยิ่งมากกว่า 8.5 เกิดดินด่างจัดมีแคลเซียมมากเมื่อรวมตัวกับโบรอนเกิดตะกอนหรือโครงสร้างสารประกอบที่ซับซ้อน พืชจึงไม่สามารถดูดไปใช้ได้
ธาตุโบรอน สามารถช่วยให้พืชดูดดึงธาตุแคลเซียมและไนโตรเจนไปใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเชลล์ที่ส่งเสริมการเพิ่มจำนวนดอก จำนวนผล นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชใช้โปแตส-เซียมได้มากขึ้น
อาการพืชขาดโบรอน ลักษณะพืชที่ขาดโบรอนจะแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช พบว่าปลายยอด ปลายราก และใบอ่อนไม่เจริญ ส่วนตายอดและยอดจะบิด ใบจะม้วนงอ แตกหักเปราะง่าย การสังเคราะห์แสงลดลง ลำต้นแคระแกรน พืชมักจะไม่ออกดอก จะพบอาการเด่นชัดช่วงที่พืชกระทบหนาว-ร้อน หรือช่วงที่ขาดน้ำมากๆ
ความสำคัญ
• ช่วยเคลื่อนย้ายฮอร์โมน ควบคุมการแบ่งเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวนเชลล์ให้เป็นไปอย่างสมดุล
• ช่วยขยายขนาดผล ป้องกันผลแตก ฝักแตก ทำให้เนื้อแน่น รสชาติดี
• ช่วยผสมเกสร เพิ่มการติดผล ทำให้ขั้วดอก- ผลเหนียว ป้องกันดอก และผลร่วง
• ป้องกันไส้เน่า (heart rot) ไส้เหลว (water core) ในพืชหัว ส่วนในไม้ผล เรียกเป็นไส้ด้าน (corky core) เช่น เกิดในแอปเปิล เป็นต้น
• เพิ่มการแตกตาดอก-ยอด
• เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผนังเชลล์
วิธีใช้ และอัตราที่ใช้
การทำ ปุ๋ยแคลเซียม/โบรอน ใส่ทางดิน ใช้ ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรทชนิดใส่ทางดิน 100 กก. ผสมกับ โบรอนพืช 1 กก. ซิงค์75%+คีเลท 1 กก. และ ภูไมท์ 10 กก. หรือ ภูไมท์ซัลเฟต 15-20 กก. หรือต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจับตรึงปุ๋ย และธาตุอาหารต่างๆ ในดินควรจะใช้ ไคลน็อพติโลไลต์ หรือ สเม็คไทต์ อัตราส่วน 10-20 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปให้พืชต่างๆ กรณีที่ต้นพืชแสดงอาการขาดชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาให้ทันท่วงที ใช้ ไวตาไล้เซ่อร์ ฉีดพ่นทางใบ ทุกๆ 5-7 วัน อาการของพืชจะดีขึ้น และอาจจะใช้ฉีดพ่นทางใบควบคู่กันไปก็ได้
ระยะเวลาที่ใช้
ไม้ผล เช่น ส้ม ทุเรียน มะนาว ลิ้นจี่ ลำไย องุ่น มะม่วง ฝรั่ง มังคุด พืชไร่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อน ถั่วเหลือง ไม้ดอก-ไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ ดาวเรือง ทานตะวัน โป๊ยเซียน เป็นต้น ใส่ช่วงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือก่อนที่จะให้ผลผลิตครั้งต่อไปเพื่อช่วยต้นโทรมฟื้นตัวเร็วขึ้น และกระตุ้นให้ออกดอก ประมาณ 1 เดือน และช่วงหลังติดผลอ่อนและก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน อัตราใช้ตามการให้ปุ๋ย หรือแล้วแต่ความเหมาะสม
พืชผัก ผักกาดหัว หอม กระเทียม มะเขือเทศ พริก กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า ถั่วฝักยาว และ แตงต่างๆ ใส่ช่วงเตรียมดินก่อนปลูก และพร้อมกับการให้ปุ๋ยครั้งต่อไป
ขนาดบรรจุ 500กรัม/กระป๋อง แก้ไขข้อมูลเมื่อ 16 Mar 18 09:30
ราคาต่อหน่วย: 100 บาท
ค่าขนส่ง: 80 บาท
รายละเอียด :
ช่วยในการเคลื่อนย้ายฮอร์โมนในพืช เพิ่มประสิทธิภาพ ในการสร้างเซลล์ที่ช่วยเพิ่มจำนวนดอกและติดผลมาก ช่วยในการย้ายน้ำตาลจากต้น และใบ มาสู่ผลและเมล็ด เพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้ไนโตรเจนในพืช ป้องกันไม่ให้ผลแตก ฝักแตก ป้องกันไส้กลวง
ธาตุอาหารสำหรับพืช
เป็นจุลธาตุที่มีบทบาทต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาเชลล์ของพืช พืชดูดโบรอนจากดินในรูป กรดบอริก (H 3 BO 4 ) และเปลี่ยนไปในรูปที่พืชใช้ได้ พีเอชของดินที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5-6.0 ถ้าพีเอชสูงกว่านี้การใช้ประโยชน์ได้ของพืชจะลดลง ยิ่งมากกว่า 8.5 เกิดดินด่างจัดมีแคลเซียมมากเมื่อรวมตัวกับโบรอนเกิดตะกอนหรือโครงสร้างสารประกอบที่ซับซ้อน พืชจึงไม่สามารถดูดไปใช้ได้
ธาตุโบรอน สามารถช่วยให้พืชดูดดึงธาตุแคลเซียมและไนโตรเจนไปใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเชลล์ที่ส่งเสริมการเพิ่มจำนวนดอก จำนวนผล นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชใช้โปแตส-เซียมได้มากขึ้น
อาการพืชขาดโบรอน ลักษณะพืชที่ขาดโบรอนจะแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช พบว่าปลายยอด ปลายราก และใบอ่อนไม่เจริญ ส่วนตายอดและยอดจะบิด ใบจะม้วนงอ แตกหักเปราะง่าย การสังเคราะห์แสงลดลง ลำต้นแคระแกรน พืชมักจะไม่ออกดอก จะพบอาการเด่นชัดช่วงที่พืชกระทบหนาว-ร้อน หรือช่วงที่ขาดน้ำมากๆ
ความสำคัญ
• ช่วยเคลื่อนย้ายฮอร์โมน ควบคุมการแบ่งเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวนเชลล์ให้เป็นไปอย่างสมดุล
• ช่วยขยายขนาดผล ป้องกันผลแตก ฝักแตก ทำให้เนื้อแน่น รสชาติดี
• ช่วยผสมเกสร เพิ่มการติดผล ทำให้ขั้วดอก- ผลเหนียว ป้องกันดอก และผลร่วง
• ป้องกันไส้เน่า (heart rot) ไส้เหลว (water core) ในพืชหัว ส่วนในไม้ผล เรียกเป็นไส้ด้าน (corky core) เช่น เกิดในแอปเปิล เป็นต้น
• เพิ่มการแตกตาดอก-ยอด
• เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผนังเชลล์
วิธีใช้ และอัตราที่ใช้
การทำ ปุ๋ยแคลเซียม/โบรอน ใส่ทางดิน ใช้ ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรทชนิดใส่ทางดิน 100 กก. ผสมกับ โบรอนพืช 1 กก. ซิงค์75%+คีเลท 1 กก. และ ภูไมท์ 10 กก. หรือ ภูไมท์ซัลเฟต 15-20 กก. หรือต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจับตรึงปุ๋ย และธาตุอาหารต่างๆ ในดินควรจะใช้ ไคลน็อพติโลไลต์ หรือ สเม็คไทต์ อัตราส่วน 10-20 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปให้พืชต่างๆ กรณีที่ต้นพืชแสดงอาการขาดชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาให้ทันท่วงที ใช้ ไวตาไล้เซ่อร์ ฉีดพ่นทางใบ ทุกๆ 5-7 วัน อาการของพืชจะดีขึ้น และอาจจะใช้ฉีดพ่นทางใบควบคู่กันไปก็ได้
ระยะเวลาที่ใช้
ไม้ผล เช่น ส้ม ทุเรียน มะนาว ลิ้นจี่ ลำไย องุ่น มะม่วง ฝรั่ง มังคุด พืชไร่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อน ถั่วเหลือง ไม้ดอก-ไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ ดาวเรือง ทานตะวัน โป๊ยเซียน เป็นต้น ใส่ช่วงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือก่อนที่จะให้ผลผลิตครั้งต่อไปเพื่อช่วยต้นโทรมฟื้นตัวเร็วขึ้น และกระตุ้นให้ออกดอก ประมาณ 1 เดือน และช่วงหลังติดผลอ่อนและก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน อัตราใช้ตามการให้ปุ๋ย หรือแล้วแต่ความเหมาะสม
พืชผัก ผักกาดหัว หอม กระเทียม มะเขือเทศ พริก กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า ถั่วฝักยาว และ แตงต่างๆ ใส่ช่วงเตรียมดินก่อนปลูก และพร้อมกับการให้ปุ๋ยครั้งต่อไป
ขนาดบรรจุ 500กรัม/กระป๋อง แก้ไขข้อมูลเมื่อ 16 Mar 18 09:30
คำสำคัญ:
สารกระตุ้นดอก
สารเร่งการลงหัว