ชื่อสินค้า:
เมล็ดพันธุ์เสาวรส (เหลือง)
รหัส:
106191
ประเภท:
ราคา:
10.00 บาท
/ซอง
ติดต่อ:
คุณปิ่นมณี เวทวงศ์
ที่อยู่ร้าน:
อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 15 ปี 0 เดือน
โทรศัพท์:
ปุ่มติดต่อ:
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
เมล็ดพันธุ์เสาวรส
ราคา 10 บ./ซอง
1ซองบรรจุ 35 เมล็ด
เสาวรสเป็นไม้ผลในวงศ์ Passifloraceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Passiflora edulis Forma edulis Sims ( ผลสีม่วง ) และ P. edua flavicarpa ( ผลสีเหลือง ) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนแถบพื้นที่สูงในอเมริกาใต้ การปลูกในประเทศไทยเริ่มครั้งแรกในปี พ . ศ . 2498 โดยเป็นพันธุ์สีม่วงซึ่งมีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว สำหรับมูลนิธิโครงการหลวงมีการปลูกเสาวรสอยู่ 2 ชนิดคือ เสาวรสโรงงานซึ่งส่งเสริมปลูกมานานแล้ว และเสาวรสสำหรับรับประทานสด ซึ่งคัดเลือกพันธุ์ได้ในปี พ . ศ . 2539 และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในปี พ . ศ . 2540 แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะป๊อก แม่ลาน้อย แม่ทาเหนือ แม่โถ หนองเขียว และหมอกจ๋าม
เสาวรส เป็นไม้ผลประเภทเถาเลื้อยมีอายุหลายปี ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ แต่บางพันธุ์ผสมตัวเองไม่ติดต้องผสมข้ามต้นเช่น พันธุ์ผลสีเหลือง ดอกจะเกิดที่ข้อบริเวณโคนก้านใบของเถาใหม่พร้อมกับการเจริญของเถา ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดออกดอกเมื่อต้นมีอายุประมาณ 4-5 เดือนหลังปลูก แต่ถ้าเป็นต้นที่เสียบยอดจะออกดอกเร็วขึ้น ผลเป็นผลเดี่ยว ลักษณะเป็นผลกลม รูปไข่ หรือรียาวขึ้นอยู่กับพันธุ์ เปลือกผลและเนื้อส่วนนอกแข็งไม่สามารถรับประทานได้ ผลมี 2 สีคือ ผลสีม่วงและสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มหรือดำเป็นจำนวนมาก แต่ละเมล็ดถูกหุ้มด้วยรก ที่บรรจุน้ำสีเหลือง มีลักษณะเหนียวข้นอยู่ภายใน
เสาวรส สามารถปลูกได้ในพื้นที่ราบและพื้นที่สูง แต่พื้นที่ปลูกควรมีแสงแดดดี เสาวรสสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดปีถ้าไม่ขาดน้ำ การปลูกมี 2 แบบคือ การปลูกแบบอาศัยน้ำฝนและการปลูกแบบให้น้ำ แต่เสาวรสพันธุ์รับประทานสดควรปลูกในพื้นที่ให้น้ำได้ การปลูกแบบอาศัยน้ำฝนจะให้ผลผลิตในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นต้องวางแผนการปลูกก่อนเดือนสิงหาคมอย่างน้อย 7 เดือน สำหรับการปลูกแบบให้น้ำสามารถปลูกได้ทุกช่วงเวลา แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษาเช่น ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนจะประหยัดเรื่องการให้น้ำแต่ต้องกำจัดวัชพืชมากขึ้น แต่ถ้าปลูกช่วงฤดูแล้งต้องลงทุนเรื่องการให้น้ำ แต่กำจัดวัชพืชน้อยลง
พันธุ์เสาวรสที่ส่งเสริมปลูกในพื้นที่โครงการหลวงแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.1 เสาวรสชนิดผลสีม่วง เสาวรส ชนิดนี้ผิวผลจะเป็นสีม่วง ผลมีลักษณะกลมหรือรูปไข่ ดอกสามารถผสมตัวเองได้ดี ดอกบานในตอนเช้า ผลสุกมีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมมากกว่าพันธุ์สีเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลางผลประมาณ 4-5 เซนติเมตร น้ำหนัก 50-60 กรัมต่อผล
1.2. เสาวรสชนิดผลสีเหลือง เสาว รสชนิดนี้ผิวผลจะเป็นสีเหลือง ดอกจะบานในตอนเที่ยง ส่วนใหญ่ผสมตัวเองไม่ติดต้องผสมข้ามต้น แต่ทนทานต่อโรคต้นเน่า เถาเหี่ยว โรคไวรัสและทนต่อ ใส้เดือนฝอย จึงนิยมใช้ทำเป็นต้นตอในการเสียบกิ่งของพันธุ์ผลสีม่วง เส้นผ่าศูนย์กลางผลประมาณ 6 เซนติเมตร น้ำหนักผลประมาณ 80-120 กรัมต่อผล มีรสเปรี้ยวกว่าสีม่วงเนื่องจากเนื้อในมีความเป็นกรดสูงกว่าพันธุ์สีม่วง
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 21 Sep 21 10:49
ราคา 10 บ./ซอง
1ซองบรรจุ 35 เมล็ด
เสาวรสเป็นไม้ผลในวงศ์ Passifloraceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Passiflora edulis Forma edulis Sims ( ผลสีม่วง ) และ P. edua flavicarpa ( ผลสีเหลือง ) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนแถบพื้นที่สูงในอเมริกาใต้ การปลูกในประเทศไทยเริ่มครั้งแรกในปี พ . ศ . 2498 โดยเป็นพันธุ์สีม่วงซึ่งมีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว สำหรับมูลนิธิโครงการหลวงมีการปลูกเสาวรสอยู่ 2 ชนิดคือ เสาวรสโรงงานซึ่งส่งเสริมปลูกมานานแล้ว และเสาวรสสำหรับรับประทานสด ซึ่งคัดเลือกพันธุ์ได้ในปี พ . ศ . 2539 และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในปี พ . ศ . 2540 แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะป๊อก แม่ลาน้อย แม่ทาเหนือ แม่โถ หนองเขียว และหมอกจ๋าม
เสาวรส เป็นไม้ผลประเภทเถาเลื้อยมีอายุหลายปี ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ แต่บางพันธุ์ผสมตัวเองไม่ติดต้องผสมข้ามต้นเช่น พันธุ์ผลสีเหลือง ดอกจะเกิดที่ข้อบริเวณโคนก้านใบของเถาใหม่พร้อมกับการเจริญของเถา ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดออกดอกเมื่อต้นมีอายุประมาณ 4-5 เดือนหลังปลูก แต่ถ้าเป็นต้นที่เสียบยอดจะออกดอกเร็วขึ้น ผลเป็นผลเดี่ยว ลักษณะเป็นผลกลม รูปไข่ หรือรียาวขึ้นอยู่กับพันธุ์ เปลือกผลและเนื้อส่วนนอกแข็งไม่สามารถรับประทานได้ ผลมี 2 สีคือ ผลสีม่วงและสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มหรือดำเป็นจำนวนมาก แต่ละเมล็ดถูกหุ้มด้วยรก ที่บรรจุน้ำสีเหลือง มีลักษณะเหนียวข้นอยู่ภายใน
เสาวรส สามารถปลูกได้ในพื้นที่ราบและพื้นที่สูง แต่พื้นที่ปลูกควรมีแสงแดดดี เสาวรสสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดปีถ้าไม่ขาดน้ำ การปลูกมี 2 แบบคือ การปลูกแบบอาศัยน้ำฝนและการปลูกแบบให้น้ำ แต่เสาวรสพันธุ์รับประทานสดควรปลูกในพื้นที่ให้น้ำได้ การปลูกแบบอาศัยน้ำฝนจะให้ผลผลิตในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นต้องวางแผนการปลูกก่อนเดือนสิงหาคมอย่างน้อย 7 เดือน สำหรับการปลูกแบบให้น้ำสามารถปลูกได้ทุกช่วงเวลา แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษาเช่น ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนจะประหยัดเรื่องการให้น้ำแต่ต้องกำจัดวัชพืชมากขึ้น แต่ถ้าปลูกช่วงฤดูแล้งต้องลงทุนเรื่องการให้น้ำ แต่กำจัดวัชพืชน้อยลง
พันธุ์เสาวรสที่ส่งเสริมปลูกในพื้นที่โครงการหลวงแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.1 เสาวรสชนิดผลสีม่วง เสาวรส ชนิดนี้ผิวผลจะเป็นสีม่วง ผลมีลักษณะกลมหรือรูปไข่ ดอกสามารถผสมตัวเองได้ดี ดอกบานในตอนเช้า ผลสุกมีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมมากกว่าพันธุ์สีเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลางผลประมาณ 4-5 เซนติเมตร น้ำหนัก 50-60 กรัมต่อผล
1.2. เสาวรสชนิดผลสีเหลือง เสาว รสชนิดนี้ผิวผลจะเป็นสีเหลือง ดอกจะบานในตอนเที่ยง ส่วนใหญ่ผสมตัวเองไม่ติดต้องผสมข้ามต้น แต่ทนทานต่อโรคต้นเน่า เถาเหี่ยว โรคไวรัสและทนต่อ ใส้เดือนฝอย จึงนิยมใช้ทำเป็นต้นตอในการเสียบกิ่งของพันธุ์ผลสีม่วง เส้นผ่าศูนย์กลางผลประมาณ 6 เซนติเมตร น้ำหนักผลประมาณ 80-120 กรัมต่อผล มีรสเปรี้ยวกว่าสีม่วงเนื่องจากเนื้อในมีความเป็นกรดสูงกว่าพันธุ์สีม่วง
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 21 Sep 21 10:49
คำสำคัญ:
เมล็ดพันธุ์เสาวรส
เสาวรส