ชื่อสินค้า:
บีที80 บาซิลลัส ทูริงเยนซิส กำจัดหนอนกระทู้หอม หนอนหลอดหอม
รหัส:
101723
ประเภท:
ราคา:
150.00 บาท
/500 กรัม
ติดต่อ:
คุณอภิชาติ พิรีนันท์
ที่อยู่ร้าน:
เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
ร้านนี้ยังไม่มีการแจ้งเลขทะเบียนพานิชย์
เปิดร้านมาแล้ว 15 ปี 11 เดือน
ไอดีไลน์:
โทรศัพท์:
น้ำหนัก:
500 กรัม
สี:
สีเทา
อายุของสินค้า:
1 ปี
ค่าขนส่ง:
30 บาท
คำเตือน: โปรดตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริต การขอชำระเงินปลายทางเมื่อรับสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี
รายละเอียด
พิเศษ เพิ่มขนาดบรรจุอีก 1 เท่า เป็นซองละ 500 กรัม
เชื้อบาซิลลัส ทูริงเจนซิส (บีที )
Bacillus Thuringiensis (BT)
เชื้อบีที (Bt) คืออะไร
“เชื้อบีที” หรือ Bt ถูกค้นพบครั้งแรกใน ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1901 ในรูปสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis ที่พบตามธรรมชาติในดิน และ ได้พบว่าหนอนกินใบพืชบางชนิด (ตัวอ่อนของผีเสื้อ กลางวันและผีเสื้อกลางคืน) ตายเมื่อกินใบพืชหรือส่วน อื่นๆของพืช(ที่ถูกฉีดพ่นด้วยบีที)ในปริมาณเพียงเล็กน้อย.
เชื้อแบคทีเรียบีทีที่มีอยู่เป็นพันๆ สายพันธุ์ มีพียงสองหรือสามสายพันธุ์เท่านั้นที่ได้ถูกนำมาผลิตเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัดแมลง หรือจุลินทรีย์กำจัดแมลง ผลิตภัณฑ์ทางการค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยผลึกโปรตีน และสปอร์ของเชื้อบีทีที่ มีชีวิต โดยใช้ชื่อการค้าต่างๆมากมาย ซึ่งมีบีทีอยู่สองสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในการควบคุม หนอนศัตรูกะหล่ำปลี และหนอนศัตรูผักชนิดอื่น ๆ
เชื้อบีที (Bt) ทำงานอย่างไร
ก่อนอื่นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่าเชื้อบีทีไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือนสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป เชื้อบีทีสามารถควบคุม แมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้มี ฤทธิ์แบบถูกตัวตาย หรือ “น๊อกดาว” คือศัตรูพืช ไม่ได้ถูกฆ่าตายในทันทีที่ฉีดพ่น แมลงจะต้องกินส่วนของพืชที่เคลือบด้วย เชื้อบีทีในปริมาณที่มากพอที่จะถูกฆ่าได้ เมื่อบีทีจำนวนมากพอถูกกิน พิษในผลึกโปรตีนจะไปทำให้ส่วนของ ปากและช่องท้องของหนอนเป็นอัมพาต แมลงศัตรู พืชเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง และหยุดกินอาหารในเวลาไม่กี่ นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปมากพอ พิษ ดังกล่าวจะทำลายผนังช่องท้องของแมลงภายในหนึ่งชั่วโมงทำให้สปอร์ของเชื้อบีทีและชิ้นส่วนในช่องท้องแมลงหลุดลอด เข้าไปในส่วนที่เป็นช่องว่างของร่างกายแมลงทำให้แมลงตาย เนื่องจากขาดอาหาร และอาการเลือดเป็นพิษ และ/หรือ osmotic shock ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง หนอนบางตัวที่ตายเนื่องจากเชื้อบีทีอาจมีสีซีด หรือเปลี่ยนเป็นสีดำ หนอนที่ตายแล้วมักจะเหี่ยวย่น และร่วงหล่นลงจากต้นพืชไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย
ใช้กำจัดหนอนชนิดต่าง ๆ เช่น
หนอนเจาะสมอฝ้าย หรือหนอนเจาะผลมะเขือเทศ
หนอนกินใบสัก
หนอนหญ้าแมวในปาล์มน้ำมัน
หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอมในผักต่าง ๆ
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
หนอนเจาะขั้วลิ้นจี่
หนอนแปะใบส้ม และ
หนอนม้วนใบข้าว
เหมาะที่จะใช้ในแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ และ ใช้ทดแทนสารเคมีที่ราชการประกาศห้ามใช้ เช่น โคโนโครโตฟอส เมวินฟอสและเอ็นโดซัลแฟน เพราะปลอดภัยต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงห้ำ แมลงเบียน ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และปลาตลอดจนไม่มีพิษตกค้างในพืชและ สิ่งแวดล้อมปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค
อัตราการใช้ เชื้อ บีที 50-80 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร
หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บีทีชีวภาพ
เชื้อ บีทีชีวภาพ เป็นสิ่งมีวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต .(UV) จากแสงแดด ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อนๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อ บีทีชีวภาพ บนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน
แมลงศัตรูพืชบางชนิด เช่น หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ มักอาศัยกัดกิเน อยู่ด้านล่างของใบ ดังนั้นการพ่นให้ครอบคุลมบริเวณส่วนบนและล่างของใบพืชด้วยจะจะสามารถควบคุมหนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อ บีทีชีวภาพ ให้ละอองเล็กที่สุดจะช่วยใหละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี
ควรฉีดพ่นเชื้อ บีทีชีวภาพ เมื่อสำรวจพบหนอนตัวเล็ก จะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบหนอนตัวใหญ่
ไม่ควรผสมเชื้อบีทีชีวภาพ กับสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารฯ บางชนิดอาจะทำให้เชื้อ บีทีชีวภาพ เสื่อมประสิทธิภาพลงได้
เนื่องจากเชื้อบีทีชีวภาพออกฤทธิ์ช้า ใช้เวลา 2 - 3 วัน หนอนจึงจะตาย ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้หนอนตายเร็วขึ้น การใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำนจะส่งผลให้แมลงไม่ตายและทำความเสียหายแก่ผลผลิตจึงใช้เชื้อ บีทีตามอัตราที่แนะนำ
เมื่อพบการระบาดของหนอนรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วัน จะวยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นเพียงครั้งเดียว
การขยายเชื้อบีที เพื่อลดต้นทุนการผลิต
1. ปัญหาผักและสารพิษตกค้าง ผักที่ปลูกในไทยมีปัญหาสารพิษตกค้าง เกิดจากการดูดสารพิษในดิน และการฉีดพ่นสารพิษโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาฆ่าแมลง เพราะแมลงทำลายผัก แมลงที่ทำให้ยามากและใช้บ่อยคือหนอนหนังเหนียว หนอนกระทู้ หนอนใยผัก หนอนคืบ การพ่นยาฆ่าแมลงเป็นเหตุให้มีอันตรายต่อผู้ฉีดพ่นยา, คนกินผัก ,สิ่งแวดล้อมและการส่งผักขายต่างประเทศ
2. การลดแมลงศัตรูผักโดยวิธีต่าง ๆ ใช้แสงไฟล่อแมลงออกจากแปลงปลูก , ล่อด้วยกระดาษเหลืองกาวเหนียว , เพาะขยายตัวห้ำ ตัวเบียนกินแมลง , ปรับกรด-ด่างของดินให้ได้พีเอช 5.8-6.3 เพิ่มซิลิกอนที่ละลายได้ให้แก่ดินและใช้เชื้อโรคของหนอนเช่น ไส้เดือนฝอย ไวรัส และบักเตรี บาซิลัส ธูรินเจนสิส หรือเรียกยอๆ ว่า บีที
3. การใช้บีทีสำเร็จรูป มีผู้ผลิตเชื้อ บาซิลัส ธูรินเจนสิส สายพันธุ์ต่าง ๆเพื่อใช้ฆ่าหนอนตามชนิดและสายพันธุ์ที่ระบุไว้ในฉลาก , มีทั้งชนิดผงและชนิดน้ำ , มีหลายบริษัททั้งผลิตในประเทศและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาจำหน่ายให้เกษตรกรส่วนมากอยู่ในราคาระดับแพง ตั้งแต่ราคากิโลกรัมละ 500 – 1000 บาท อัตราผสมน้ำมีตั้งแต่ 50-80 กรัมหรือซีซี /น้ำ 20 ลิตร ทำให้ 1 ไร่เสียเงิน 300-400บาท และมักให้ใช้ทุก 3-5 วัน นับว่าสิ้นเปลืองมาก การขยายเชื้อจะช่วยให้ประหยัดได้
4.ขยายเชื้อบีทีด้วยมะพร้าวอ่อน ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ผล เจาะเปิดฝาแง้มพอใส่เชื้อลงไปได้ ใส่เชื้อบีที 1 ช้อนชา ปิดฝาทิ้งไว้ 1-2 วัน นำมาผสมน้ำได้ 20 ลิตร
5.ขยายเชื้อบีทีด้วยน้ำมะพร้าวแก่จากตลาด นำน้ำมะพร้าวแก่จากตลาดมาต้มให้เดือด 5 นาที ช้อนฟองทิ้ง ตั้งให้เย็น ใส่เชื้อบีที 5 ช้อนชา ต่อน้ำมะพร้าว 15 ลิตร (ถ้าน้ำมะพร้าวไม่พอเติมน้ำเปล่าจนได้รวม 15 ลิตรก่อนต้ม ) ให้อากาศแบบที่ใช้ในตู้ปลา 24 ชั่วโมง,นำไปผสมกับน้ำได้รวม 100 ลิตร สำหรับฉีดพ่น
6. ขยายเชื้อบีทีด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย ใช้น้ำ 15 ลิตร เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย 3 ช้อน เชื้อบีที 5 ช้อนชา ให้อากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง สามารถใช้ผสมน้ำได้ 100 ลิตรหรือ 5 ปี๊ป
7. ขยายเชื้อบีทีด้วยไข่ไก่สด ใช้น้ำ 15 ลิตร ไข่ไก่ 5 ฟอง เชื้อบีที 5 ช้อนชา สเม็คไทต์ 5 ขีด (500 กรัม) น้ำมันพืช 1.5-2 ช้อนชา เป่าอากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง ใช้ผสมน้ำ 5 ปี๊ป ( 100 ลิตร )
8. ขยายเชื้อบีทีด้วยแป้ง อยู่ระหว่างการทดลอง
9. ฉีดพ่นตอนเย็น เพื่อป้องกันเชื้อถูกทำลายด้วยยูวีในแสงแดด
10. ฉีดพ่นเปียกชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ เพื่อให้หนอนสามารถกินเชื้อบีทีที่ขยายออกมาได้มากเท่าที่จะมากได้
11. การเปลี่ยนแปลงในหนอน วันแรกไม่พบหนอนตาย แต่เริ่มเชื่องช้าลง วันที่ 2 หนอนเล็กๆเริ่มตายมาก วันที่ 3-4 หนอนตายเกือบหมด ยกเว้นหนอนตัวโต ๆ แบบหนอนหนังเหนียวตัวใหญ่ แต่หยุดการกินอาหารไม่ทำลายพืชอีก ตามรายงานหนอนจะไม่กลับมารบกวนอีกนับ 20 วันขึ้นไป
หนอนจะกินเชื้อบีทีเข้าไป จึงจะออกฤทธิ์ทำลายแมลง โดยทั่ว ๆ ไปจะทำลายเฉพาะตัวอ่อนของแมลงเท่านั้น เช่น ตัวหนอนหรือลูกน้ำยุงลาย จะไม่ทำลายศัตรูที่เป็นไข่และตัวเต็มวัย ยกเว้นเชื้อบีทีบางสายพันธุ์ที่ทำลายทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของด้วงปีกแข็งบางชนิด เมื่อหนอนกินเชื้อบีทีเข้าไปในกระเพาะ น้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นด่างค่อนข้างสูงจะย่อยสลายสารพิษซึ่งอยู่ในรูป protoxin ให้เป็น active toxin (สารพิษแท้จริง) ซึ่งจะเข้าทำลายเซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยและระบบทางเดินอาหารถูกทำลาย แมลงไม่สามารถกินอาหารได้ เคลื่อนไหวช้าลง ระดับความเป็นกรด-ด่างภายในลำตัวเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เป็นอัมพาต ขากรรไกรค้าง สปอร์ของบีทีสามารถไหลผ่านจากรูแผลบนผนังกระเพาะเข้าสู่ระบบเลือด จะขยายทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้โลหิตเป็นพิษ แมลงจะตายในระยะเวลา 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของหนอนและปริมาณเชื้อที่กินเข้าไป
พิเศษ เพิ่มขนาดบรรจุอีก 1 เท่า เป็นซองละ 500 กรัม
ซื้อ 1 ซองๆละ 500 กรัม ราคา 150 บาท
ซื้อ 10 ซอง ราคา 1400 บาท(ลดเหลือซองละ 140 บาท)
ซื้อ 30 ซอง ราคา 3900 บาท(ลดเหลือซองละ 130 บาท)
- ค่าขนส่ง ชองละ 20 บาท
- ซื้อยกแพ๊ค(10 ซอง) คิดเพียงแพ๊คละ 20 บาท
- ซื้อยกแพ๊ค(30 ซอง) คิดเพียงแพ๊คละ 20 บาท
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cropmaster.net
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 22 May 23 07:29
เชื้อบาซิลลัส ทูริงเจนซิส (บีที )
Bacillus Thuringiensis (BT)
เชื้อบีที (Bt) คืออะไร
“เชื้อบีที” หรือ Bt ถูกค้นพบครั้งแรกใน ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1901 ในรูปสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis ที่พบตามธรรมชาติในดิน และ ได้พบว่าหนอนกินใบพืชบางชนิด (ตัวอ่อนของผีเสื้อ กลางวันและผีเสื้อกลางคืน) ตายเมื่อกินใบพืชหรือส่วน อื่นๆของพืช(ที่ถูกฉีดพ่นด้วยบีที)ในปริมาณเพียงเล็กน้อย.
เชื้อแบคทีเรียบีทีที่มีอยู่เป็นพันๆ สายพันธุ์ มีพียงสองหรือสามสายพันธุ์เท่านั้นที่ได้ถูกนำมาผลิตเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัดแมลง หรือจุลินทรีย์กำจัดแมลง ผลิตภัณฑ์ทางการค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยผลึกโปรตีน และสปอร์ของเชื้อบีทีที่ มีชีวิต โดยใช้ชื่อการค้าต่างๆมากมาย ซึ่งมีบีทีอยู่สองสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในการควบคุม หนอนศัตรูกะหล่ำปลี และหนอนศัตรูผักชนิดอื่น ๆ
เชื้อบีที (Bt) ทำงานอย่างไร
ก่อนอื่นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่าเชื้อบีทีไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือนสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป เชื้อบีทีสามารถควบคุม แมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้มี ฤทธิ์แบบถูกตัวตาย หรือ “น๊อกดาว” คือศัตรูพืช ไม่ได้ถูกฆ่าตายในทันทีที่ฉีดพ่น แมลงจะต้องกินส่วนของพืชที่เคลือบด้วย เชื้อบีทีในปริมาณที่มากพอที่จะถูกฆ่าได้ เมื่อบีทีจำนวนมากพอถูกกิน พิษในผลึกโปรตีนจะไปทำให้ส่วนของ ปากและช่องท้องของหนอนเป็นอัมพาต แมลงศัตรู พืชเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง และหยุดกินอาหารในเวลาไม่กี่ นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปมากพอ พิษ ดังกล่าวจะทำลายผนังช่องท้องของแมลงภายในหนึ่งชั่วโมงทำให้สปอร์ของเชื้อบีทีและชิ้นส่วนในช่องท้องแมลงหลุดลอด เข้าไปในส่วนที่เป็นช่องว่างของร่างกายแมลงทำให้แมลงตาย เนื่องจากขาดอาหาร และอาการเลือดเป็นพิษ และ/หรือ osmotic shock ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง หนอนบางตัวที่ตายเนื่องจากเชื้อบีทีอาจมีสีซีด หรือเปลี่ยนเป็นสีดำ หนอนที่ตายแล้วมักจะเหี่ยวย่น และร่วงหล่นลงจากต้นพืชไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย
ใช้กำจัดหนอนชนิดต่าง ๆ เช่น
หนอนเจาะสมอฝ้าย หรือหนอนเจาะผลมะเขือเทศ
หนอนกินใบสัก
หนอนหญ้าแมวในปาล์มน้ำมัน
หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอมในผักต่าง ๆ
หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
หนอนเจาะขั้วลิ้นจี่
หนอนแปะใบส้ม และ
หนอนม้วนใบข้าว
เหมาะที่จะใช้ในแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ และ ใช้ทดแทนสารเคมีที่ราชการประกาศห้ามใช้ เช่น โคโนโครโตฟอส เมวินฟอสและเอ็นโดซัลแฟน เพราะปลอดภัยต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงห้ำ แมลงเบียน ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และปลาตลอดจนไม่มีพิษตกค้างในพืชและ สิ่งแวดล้อมปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค
อัตราการใช้ เชื้อ บีที 50-80 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร
หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บีทีชีวภาพ
เชื้อ บีทีชีวภาพ เป็นสิ่งมีวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต .(UV) จากแสงแดด ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อนๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อ บีทีชีวภาพ บนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน
แมลงศัตรูพืชบางชนิด เช่น หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ มักอาศัยกัดกิเน อยู่ด้านล่างของใบ ดังนั้นการพ่นให้ครอบคุลมบริเวณส่วนบนและล่างของใบพืชด้วยจะจะสามารถควบคุมหนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อ บีทีชีวภาพ ให้ละอองเล็กที่สุดจะช่วยใหละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี
ควรฉีดพ่นเชื้อ บีทีชีวภาพ เมื่อสำรวจพบหนอนตัวเล็ก จะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบหนอนตัวใหญ่
ไม่ควรผสมเชื้อบีทีชีวภาพ กับสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารฯ บางชนิดอาจะทำให้เชื้อ บีทีชีวภาพ เสื่อมประสิทธิภาพลงได้
เนื่องจากเชื้อบีทีชีวภาพออกฤทธิ์ช้า ใช้เวลา 2 - 3 วัน หนอนจึงจะตาย ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้หนอนตายเร็วขึ้น การใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำนจะส่งผลให้แมลงไม่ตายและทำความเสียหายแก่ผลผลิตจึงใช้เชื้อ บีทีตามอัตราที่แนะนำ
เมื่อพบการระบาดของหนอนรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วัน จะวยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นเพียงครั้งเดียว
การขยายเชื้อบีที เพื่อลดต้นทุนการผลิต
1. ปัญหาผักและสารพิษตกค้าง ผักที่ปลูกในไทยมีปัญหาสารพิษตกค้าง เกิดจากการดูดสารพิษในดิน และการฉีดพ่นสารพิษโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาฆ่าแมลง เพราะแมลงทำลายผัก แมลงที่ทำให้ยามากและใช้บ่อยคือหนอนหนังเหนียว หนอนกระทู้ หนอนใยผัก หนอนคืบ การพ่นยาฆ่าแมลงเป็นเหตุให้มีอันตรายต่อผู้ฉีดพ่นยา, คนกินผัก ,สิ่งแวดล้อมและการส่งผักขายต่างประเทศ
2. การลดแมลงศัตรูผักโดยวิธีต่าง ๆ ใช้แสงไฟล่อแมลงออกจากแปลงปลูก , ล่อด้วยกระดาษเหลืองกาวเหนียว , เพาะขยายตัวห้ำ ตัวเบียนกินแมลง , ปรับกรด-ด่างของดินให้ได้พีเอช 5.8-6.3 เพิ่มซิลิกอนที่ละลายได้ให้แก่ดินและใช้เชื้อโรคของหนอนเช่น ไส้เดือนฝอย ไวรัส และบักเตรี บาซิลัส ธูรินเจนสิส หรือเรียกยอๆ ว่า บีที
3. การใช้บีทีสำเร็จรูป มีผู้ผลิตเชื้อ บาซิลัส ธูรินเจนสิส สายพันธุ์ต่าง ๆเพื่อใช้ฆ่าหนอนตามชนิดและสายพันธุ์ที่ระบุไว้ในฉลาก , มีทั้งชนิดผงและชนิดน้ำ , มีหลายบริษัททั้งผลิตในประเทศและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาจำหน่ายให้เกษตรกรส่วนมากอยู่ในราคาระดับแพง ตั้งแต่ราคากิโลกรัมละ 500 – 1000 บาท อัตราผสมน้ำมีตั้งแต่ 50-80 กรัมหรือซีซี /น้ำ 20 ลิตร ทำให้ 1 ไร่เสียเงิน 300-400บาท และมักให้ใช้ทุก 3-5 วัน นับว่าสิ้นเปลืองมาก การขยายเชื้อจะช่วยให้ประหยัดได้
4.ขยายเชื้อบีทีด้วยมะพร้าวอ่อน ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ผล เจาะเปิดฝาแง้มพอใส่เชื้อลงไปได้ ใส่เชื้อบีที 1 ช้อนชา ปิดฝาทิ้งไว้ 1-2 วัน นำมาผสมน้ำได้ 20 ลิตร
5.ขยายเชื้อบีทีด้วยน้ำมะพร้าวแก่จากตลาด นำน้ำมะพร้าวแก่จากตลาดมาต้มให้เดือด 5 นาที ช้อนฟองทิ้ง ตั้งให้เย็น ใส่เชื้อบีที 5 ช้อนชา ต่อน้ำมะพร้าว 15 ลิตร (ถ้าน้ำมะพร้าวไม่พอเติมน้ำเปล่าจนได้รวม 15 ลิตรก่อนต้ม ) ให้อากาศแบบที่ใช้ในตู้ปลา 24 ชั่วโมง,นำไปผสมกับน้ำได้รวม 100 ลิตร สำหรับฉีดพ่น
6. ขยายเชื้อบีทีด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย ใช้น้ำ 15 ลิตร เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย 3 ช้อน เชื้อบีที 5 ช้อนชา ให้อากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง สามารถใช้ผสมน้ำได้ 100 ลิตรหรือ 5 ปี๊ป
7. ขยายเชื้อบีทีด้วยไข่ไก่สด ใช้น้ำ 15 ลิตร ไข่ไก่ 5 ฟอง เชื้อบีที 5 ช้อนชา สเม็คไทต์ 5 ขีด (500 กรัม) น้ำมันพืช 1.5-2 ช้อนชา เป่าอากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง ใช้ผสมน้ำ 5 ปี๊ป ( 100 ลิตร )
8. ขยายเชื้อบีทีด้วยแป้ง อยู่ระหว่างการทดลอง
9. ฉีดพ่นตอนเย็น เพื่อป้องกันเชื้อถูกทำลายด้วยยูวีในแสงแดด
10. ฉีดพ่นเปียกชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ เพื่อให้หนอนสามารถกินเชื้อบีทีที่ขยายออกมาได้มากเท่าที่จะมากได้
11. การเปลี่ยนแปลงในหนอน วันแรกไม่พบหนอนตาย แต่เริ่มเชื่องช้าลง วันที่ 2 หนอนเล็กๆเริ่มตายมาก วันที่ 3-4 หนอนตายเกือบหมด ยกเว้นหนอนตัวโต ๆ แบบหนอนหนังเหนียวตัวใหญ่ แต่หยุดการกินอาหารไม่ทำลายพืชอีก ตามรายงานหนอนจะไม่กลับมารบกวนอีกนับ 20 วันขึ้นไป
หนอนจะกินเชื้อบีทีเข้าไป จึงจะออกฤทธิ์ทำลายแมลง โดยทั่ว ๆ ไปจะทำลายเฉพาะตัวอ่อนของแมลงเท่านั้น เช่น ตัวหนอนหรือลูกน้ำยุงลาย จะไม่ทำลายศัตรูที่เป็นไข่และตัวเต็มวัย ยกเว้นเชื้อบีทีบางสายพันธุ์ที่ทำลายทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของด้วงปีกแข็งบางชนิด เมื่อหนอนกินเชื้อบีทีเข้าไปในกระเพาะ น้ำย่อยในกระเพาะมีฤทธิ์เป็นด่างค่อนข้างสูงจะย่อยสลายสารพิษซึ่งอยู่ในรูป protoxin ให้เป็น active toxin (สารพิษแท้จริง) ซึ่งจะเข้าทำลายเซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยและระบบทางเดินอาหารถูกทำลาย แมลงไม่สามารถกินอาหารได้ เคลื่อนไหวช้าลง ระดับความเป็นกรด-ด่างภายในลำตัวเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เป็นอัมพาต ขากรรไกรค้าง สปอร์ของบีทีสามารถไหลผ่านจากรูแผลบนผนังกระเพาะเข้าสู่ระบบเลือด จะขยายทวีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้โลหิตเป็นพิษ แมลงจะตายในระยะเวลา 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของหนอนและปริมาณเชื้อที่กินเข้าไป
พิเศษ เพิ่มขนาดบรรจุอีก 1 เท่า เป็นซองละ 500 กรัม
ซื้อ 1 ซองๆละ 500 กรัม ราคา 150 บาท
ซื้อ 10 ซอง ราคา 1400 บาท(ลดเหลือซองละ 140 บาท)
ซื้อ 30 ซอง ราคา 3900 บาท(ลดเหลือซองละ 130 บาท)
- ค่าขนส่ง ชองละ 20 บาท
- ซื้อยกแพ๊ค(10 ซอง) คิดเพียงแพ๊คละ 20 บาท
- ซื้อยกแพ๊ค(30 ซอง) คิดเพียงแพ๊คละ 20 บาท
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cropmaster.net
แก้ไขข้อมูลเมื่อ 22 May 23 07:29
คำสำคัญ:
บาซิลลัสทูริงเยนซิส
ชีวภาพกำจัดหนอน