ค้นหาสินค้า

กุ่ม

จำหน่ายต้นกุ่ม กล้าและกิ่งพันธุ์กุ่ม สอนการเพาะปลูกและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์

เมล็ดพันธุ์กุ่ม

ขายเมล็ดพร้อมกุ่มบก
ขายเมล็ดพร้อมกุ่มบก เมืองระยอง ระยอง

ราคา 1.00 บาท

จังหวัดที่ขายเมล็ดพันธุ์กุ่ม

ระยอง (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด เมล็ดพันธุ์กุ่ม ทั้งหมดในเว็บ

ต้นกล้ากุ่ม

จังหวัดที่ขายต้นกล้ากุ่ม

มหาสารคาม (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกล้ากุ่ม ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของต้นกุ่มบก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crateva adansonii DC.

ชื่อภาษาอังกฤษ : Sacred barnar, Caper tree, Sacred garlic pear, Temple plant

ชื่ออื่นๆ : ผักก่าม, กุ่ม, ผักกุ่ม

ลำต้น : เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ แตกกิ่งก้านโปร่ง กิ่งก้านมักคดงอ เปลือกต้นหนาสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบหรือมีรอยแตกตามขวาง

ใบ : เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบรูปไข่ ปลายใบแหลมมีติ่งสั้น โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนานุ่ม ผิวใบมัน แผ่นใบเรียบทั้งสองด้าน

ดอก : ออกเป็นช่อกระจุก ตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผล : สด รูปทรงกลมหรือรูปไข่ ผิวมีจุดสีน้ำตาลอมแดง เปลือกแข็ง ผลอ่อนมีสีเขียว พอสุกมีสีน้ำตาลแดง

เมล็ด : รูปเกือกม้าหรือรูปไต ผิวเรียบ

กุ่ม

การขยายพันธุ์ของต้นกุ่มบก

เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ

การดูแลต้นกุ่มบก

ปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด ขอบแดดจัด

ข้อเสียของต้นกุ่มบก

อย่าปลูกใกล้ตัวบ้านเรือนอาคารมาก เพราะกิ่งเขาเปราะ ฉีกขาดหักง่ายเวลาโดนลมแรงๆ

สรรพคุณทางสมุนไพรของต้นกุ่มบก

- ใบ บำรุงหัวใจ ขับลม ใช้ทารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ช่วยขับเหงื่อ ขับพยาธิ บรรเทอาการปวดศรีษะ และโรคบิด

- แก่น ใช้รักษาริดสีดวงทวาร บำรุงเลือด แก้โรคนิ่ว

- ราก บำรุงธาตุ ใช้ขับหนอง

- ใบและเปลือก ราก ใช้ทำยาทาถูนวด

- เปลือกต้น ใช้เป็นยาระงับประสาทและยาบำรุง บำรุงหัวใจ แก้ไข้ตัวร้อน แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้อาการสะอึก ขับลมในลำไส้ ช่วยในการย่อยอาหาร เป็นยาระบาย แก้อาการปวดท้อง รักษาโรคนิ่ว ช่วยขับน้ำดี ช่วยขับน้ำเหลืองแก้อาการบวม แก้โรคผิวหนัง ช่วยลดพิษของงู

- กระพี้ ช่วยทำให้ขี้หูแห้งออกมา

- ดอก แก้เจ็บตาเจ็บคอ

ความเชื่อของต้นกุ่มบก

เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยทำให้ครอบครัวมีฐานะมั่นคง เป็นกลุ่มเป็นก้อน นิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันตกของบ้าน

ประโยชน์ของต้นกุ่มบก

- ปลูกเป็นไม้ประดับ

- ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกอ่อน นำมาดอกกับน้ำเกลือ รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุ่มน้ำ (3874)

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Crateva magna (Lour.) DC.
ชื่อวงศ์:    Cappardaceae
ชื่อพื้นเมือง:    ผักกุ่ม, รอถะ, เหาะเถาะ, อำเภอ
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง   ผลัดใบ  เรือนยอดแผ่กว้าง ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 ซม. มีความสูงประมาณ 4-20 เมตร  ลำต้นมักคดงอและแตกกิ่งต่ำ เปลือกค่อนข้างเรียบสีเทาอมขาวหรือเทาแต้มขาวเป็นทาง  มีช่องระบายอากาศเล็กๆตามผิวทั่วไป
    ใบ    ใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ก้านใบประกอบยาว 4-14 เซนติเมตร  ใบย่อย
รูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.5- 6.5 เซนติเมตร  ยาว 4.5-18 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนามัน ใบเกลี้ยง
    ดอก    สีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงหลั่นที่ปลายกิ่ง ช่อยาว 10-16 เซนติเมตร มีดอกย่อย 12-20 ดอก   กลีบเลี้ยง 4 กลีบ  รูปรี  กลีบดอก 4 กลีบ รูปรีหรือทรงกลม ดอกบานเต็มที่กว้าง   3-4 เซนติเมตร
    ฝัก/ผล    ผลแห้ง  แก่ไม่แตก  ทรงกลมหรือรี กว้าง 1.5-4.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร ผิวเปลือกหนามีสะเก็ดบาง ๆ ซึ่งจะเป็นสีเหลืองอมเทาขึ้นอยู่ทั่วไป
    เมล็ด    สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า มีจำนวนมาก มีขนาดหนาประมาณ 2-3 มม. ยาวประมาณ 6-9 มม.
ฤดูกาลออกดอก:    ธ.ค.-เม.ย.
การขยายพันธุ์:    ใช้เมล็ด หรือการปักชำกิ่ง หรือการตอน
การปลูก:  ขึ้นได้ในดินทั่วไปที่อยู่ริมน้ำ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:    ใบ
การใช้ประโยชน์:    - ปลูกเป็นไม้ประดับ
                             - สมุนไพร
สรรพคุณทางยา:   - เปลือก ต้นใช้เป็นยาระงับพิษที่ผิวหนัง แก้ไข้ แก้อาเจียน
                            - ใบ เป็นยาเจริญอาหาร ยาระบาย ขับพยาธิ แก้ปวดเส้น แก้โรคไขข้ออักเสบ
                            - ดอก รสเย็น แก้เจ็บตา และแก้เจ็บในคอ
                            - ลูก รสขม แก้ไข้
                            - ราก รสร้อน แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ
การปรุงอาหาร:    ดอกและใบอ่อนดองหรือต้มเป็นผักจิ้มน้ำพริกได้


กุ่มเป็นไม้มงคล (3875)

คนไทยสมัยก่อนปลูกต้นกุ่มไว้เป็นอาหารและยารักษาโรค
ต้นกุ่มนับเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่นิยมปลูก    
       
เชื่อว่าจะทำให้ครอบครัว มีฐานะ มีเงิน เป็นกลุ่มเป็นก้อน ดังชื่อของต้นไม้    
       

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุ่มบก (3876)

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Crateva adansonii DC. subsp. trifoliata (Roxb.) Jacobs
ชื่อวงศ์:    Cappardaceae
ชื่อสามัญ:    sacred garlic pear, temple plant
ชื่อพื้นเมือง:    สะเบาถะงัน, ผักก่าม, เดิมถะงัน, ผักกุ่ม
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    ไม้ต้นขนาดเล็ก 6-10 เมตร ลำต้นสีเทาหรือน้ำตาลอมเทา เปลือกค่อนข้างเรียบและหนา
    ใบ    ประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อย 3 ใบ ใบย่อยรูปรีหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม กว้าง 8 –10 เซนติเมตร ยาว 12 – 14 เซนติเมตรโคนใบสอบแคบหรือเบี้ยว ก้านใบยาว
    ดอก    ดอกออกเป็นช่อตรงซอกใบหรือปลายกิ่ง ระยะแรกมีสีเขียว ต่อมามีสีขาวหรือขาวอมเหลือง ก่อนออก ดอกจะผลัดใบแล้วจึงออกดอกพร้อมกับผลิใบใหม่ กลีบดอก 4 กลีบ เกสรตัวผู้จำนวนมาก ก้านชูเกสร ตัวผู้สีม่วง
    ฝัก/ผล    กลมรีหรือรูปไข่ สีเทาอมขาว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงและเปลือกเรียบ
    เมล็ด    รูปคล้ายเกือกม้าหรือรูปไต ผิวเรียบ
ฤดูกาลออกดอก:    กุมภาพันธ์ - มิถุนายน
การใช้ประโยชน์:    - ปลูกเป็นไม้ประดับ
                             - สมุนไพร
แหล่งที่พบ:    ขึ้นตามดินทราย เขาหินปูน ป่าผลัดใบ และป่าไผ่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 350 เมตร
สรรพคุณทางยา:   - เปลือกต้นใช้เป็นยาระงับประสาทและยาบำรุง
                            - ใบและเปลือกรากใช้ทาถูนวดให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากๆ