ค้นหาสินค้า

เกด

จำหน่ายต้นเกด กล้าและกิ่งพันธุ์เกด สอนการเพาะปลูกและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์

ต้นกล้าเกด

กล้าต้นเกด
กล้าต้นเกด หนองเสือ ปทุมธานี

ราคา 100.00 บาท /ต้น

จังหวัดที่ขายต้นกล้าเกด

ปทุมธานี (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกล้าเกด ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของต้นเกด ชื่อวิทยาศาสตร์ การขยายพันธุ์ สรรพคุณทางสมุนไพร ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ของต้นเกด : Manilkara hexandra (Roxb.) Dubard

ชื่อภาษาอังกฤษของต้นเกด : Milkey Tree

ชื่ออื่นๆ : ครินี, ไรนี

ลำต้นของต้นเกด : เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ลำต้นและกิ่งก้านมักคดงอ เปลือกแตกเป็นสะเก็ดสี่เหลี่ยมหรือแตกเป็นร่องลึก ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว

ใบของต้นเกด : เป็นใบเดี่ยว แผ่นใบรูปไข่กลับ ปลายหยักเว้าเล็กน้อย โคนสอบ ขอบเรียบ

ดอกของต้นเกด : เป็นดอกเดี่ยวออกเป็นกระจุกตามง่ามใบและเหนือรอยแผลใบ ดอกสีเหลือง มีขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม

ผลของต้นเกด : กลมรี เมื่อสุกสีเหลืองแสด เนื้อนุ่ม

เมล็ดของต้นเกด : รูปไข่ แข็ง สีน้ำตาลแดงเป็นมัน

เกด

การขยายพันธุ์ของต้นเกด

โดยการเพาะเมล็ด

สรรพคุณทางสมุนไพรของต้นเกด

ผล เป็นยาฝาดสมาน บำรุงกำลัง แก้นร้อนในกระห่ายน้ำ แก้ท้องผูก

ผลและเมล็ด ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม

เมล็ด บรรเทาอาการระคายเคือง รักษาแผลเปื่อย และแผลพุพอง

เปลือก แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ไข้ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงกำลังให้แข็งแรงบำรุงเลือด ป้องกันอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

ประโยชน์ของต้นเกด

- ผลสุก รับประทานได้

- เนื้อไม้ ใช้เป็นสลักแทนตะปู ทำฟืน และทำเครื่องมือเกษตรกรรม


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของเกด (3877)

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Manikara hexandra (Roxb.) Dubard
ชื่อวงศ์:    Sapotaceae
ชื่อสามัญ:    Milkey Tree
ชื่อพื้นเมือง:    ครินี, ไรนี
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ลำต้นค่อนข้างเปลาตรง เปลือกแตกเป็นสะเก็ดสีดำเนื้อไม้สีน้ำตาลแดง เสี้ยนสน แต่เหนียวและ แข็งมาก กิ่งมักคดงอเป็นข้อศอก เรือนพุ่มเป็นกลุ่มกลม ไม่ผลัดใบ ต้นเล็กจะมีกิ่งลักษณะคล้ายหนาม มีใบติดเวียนกัน กันเป็นกลุ่มตามปลาย ๆ กิ่ง ปลายหนามลำต้นยังเล็กอยู่ ถ้าสับเปลือกดูจะมียางขาวซึมออกมา
    ใบ    รูปไข่กลับ ปลายใบผายกว้าง และมักหยักเว้าเข้าใบจะเรียวสอบมาทางโคนใบ เนื้อใบละเอียดเป็นมันทางด้านบนและ มักเป็นคราบขาวทางด้านล่าง เป็นแขนงใบมักขนานกันและค่อนข้างถี่
    ดอก    ออกเป็นกระจุก ๆ ละ 3 – 5 ดอก ตามง่ามใบของกิ่งแขนง มีสีเหลืองอ่อนกลิ่นหอม ดอกบานจะกว้างประมาณ 0.7 ซม. กลีบดอกเป็นฝอยเล็ก ๆ ก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม.
    ฝัก/ผล    กลม โต ประมาณ 1 – 1.5 ซม. มีเนื้อเยื่อหุ้ม เมื่อสุกสีเหลืองแสด
ฤดูกาลออกดอก:    มกราคม-กรกฎาคม
การขยายพันธุ์:    เพาะเมล็ด
การดูแลรักษา:  ไม่ชอบดินเหนียว และต้องการแสงมาก 
การใช้ประโยชน์:    - ปลูกเป็นไม้ประดับ
                             - สมุนไพร
                             - รับประทานสด
                             - ทำเรือโดยใช้เป็นไม้สลักแทนตะปูสำหรับ ติดกระดานกับโครงของเรือ
ถิ่นกำเนิด:    เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
แหล่งที่พบ:    พบมากตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปและมีมากตามเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทย