ลักษณะพฤกษศาสตร์ของเกาลัด (3878)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Sterculia monosperma Vent.
ชื่อวงศ์: STERCULIACEAE
ชื่อสามัญ: Chestnut
ลักษณะทั่วไป:
ต้น สูง 4-30 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มโปร่ง เปลือกเรียบหรืออาจแตกเป็นร่องเล็กๆ ไปตามยาวลำต้น กิ่งอ่อนเกลี้ยง มีรอยแผลใบอยู่ทั่วไป
ใบ เดี่ยว เรียงเวียนกันบริเวณใกล้ๆ ปลายกิ่ง รูปรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 5-15 ซม. ยาว 10-30 ซม. โคนมนหรือหยักเว้าเล็กน้อย ปลายมนสอบแคบกว่าทางโคนใบ ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนา เกลี้ยง ย่นเล็กน้อย แผ่นใบด้านบนเป็นมัน เส้นกลางใบ เส้นแขนงใบ และเส้นใบย่อยแบบร่างแห เห็นชัดทางด้านล่าง ส่วนด้านบนมีสีเข้มตามแนวเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบตัดกับสีพื้นของแผ่นใบ ก้านใบยาว 2-10 ซม. เมื่อแห้งสีชมพูเรื่อๆ และมักหักทำมุมกับเส้นกลางใบเล็กน้อย
ดอก ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามปลายกิ่งและเหนือรอยแผลใบใกล้ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 35 ซม. ห้อยลง มีช่อแขนงมาก ดอกเล็ก สีชมพูอมเขียว กลิ่นหอมอ่อนๆ รูปคล้ายโคมเล็กๆ ด้านนอกมีขนประปราย เมื่อดอกบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. ก้านดอกเรียวเล็ก ยาวไม่เกิน 1 ซม. กลีบเลี้ยงโคนติดกัน ปลายผายออกเป็นรูปกรวย แล้วแยกเป็นแฉกยาว 5 แฉก แต่ละแฉกโค้งงุ้มและติดกันบริเวณปลายกลีบ และจะแยกเป็นอิสระพร้อมๆ กับกลีบจะบิดเบี้ยวเมื่อดอกใกล้โรย ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ รังไข่มี 5 พู มีขนแน่น
ฝัก/ผล ออกรวมกันเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มย่อยมักมี 2 ผล ก้านช่อยาวถึง 20 ซม. ผลสีแดงหรือสีแสด รูปมนหรือค่อนข้างกลม กว้างประมาณ 2.5 ซม. ยาวประมาณ 5 ซม. เปลือกแข็ง มีขนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ เปลือกเป็นคลื่นไปตามรูปเมล็ดที่อยู่ภายใน ปลายผลมักเป็นจะงอยโค้งเล็กน้อย ผลแก่จะแตกออกตามรอยประสานด้านข้าง ก้านผลเห็นไม่ชัด
เมล็ด สีน้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ยาวประมาณ 3 ซม. แต่ละผลมี 1-2 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: กันยายน-เมษายน
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์: - ปลูกเป็นไม้ประดับ
- เป็นอาหาร
ถิ่นกำเนิด: จีน
*เกาลัด เป็นเป็นต้นไม้มงคลที่สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสร้างลำต้น อีกทั้งเกาลัดมีใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยร่วง จึงสามารถให้ร่มเงา กรองฝุ่นละออง ลดมลภาวะ รวมทั้งลดสภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี
ชื่อวงศ์: STERCULIACEAE
ชื่อสามัญ: Chestnut
ลักษณะทั่วไป:
ต้น สูง 4-30 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มโปร่ง เปลือกเรียบหรืออาจแตกเป็นร่องเล็กๆ ไปตามยาวลำต้น กิ่งอ่อนเกลี้ยง มีรอยแผลใบอยู่ทั่วไป
ใบ เดี่ยว เรียงเวียนกันบริเวณใกล้ๆ ปลายกิ่ง รูปรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 5-15 ซม. ยาว 10-30 ซม. โคนมนหรือหยักเว้าเล็กน้อย ปลายมนสอบแคบกว่าทางโคนใบ ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนา เกลี้ยง ย่นเล็กน้อย แผ่นใบด้านบนเป็นมัน เส้นกลางใบ เส้นแขนงใบ และเส้นใบย่อยแบบร่างแห เห็นชัดทางด้านล่าง ส่วนด้านบนมีสีเข้มตามแนวเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบตัดกับสีพื้นของแผ่นใบ ก้านใบยาว 2-10 ซม. เมื่อแห้งสีชมพูเรื่อๆ และมักหักทำมุมกับเส้นกลางใบเล็กน้อย
ดอก ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามปลายกิ่งและเหนือรอยแผลใบใกล้ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 35 ซม. ห้อยลง มีช่อแขนงมาก ดอกเล็ก สีชมพูอมเขียว กลิ่นหอมอ่อนๆ รูปคล้ายโคมเล็กๆ ด้านนอกมีขนประปราย เมื่อดอกบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. ก้านดอกเรียวเล็ก ยาวไม่เกิน 1 ซม. กลีบเลี้ยงโคนติดกัน ปลายผายออกเป็นรูปกรวย แล้วแยกเป็นแฉกยาว 5 แฉก แต่ละแฉกโค้งงุ้มและติดกันบริเวณปลายกลีบ และจะแยกเป็นอิสระพร้อมๆ กับกลีบจะบิดเบี้ยวเมื่อดอกใกล้โรย ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ รังไข่มี 5 พู มีขนแน่น
ฝัก/ผล ออกรวมกันเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มย่อยมักมี 2 ผล ก้านช่อยาวถึง 20 ซม. ผลสีแดงหรือสีแสด รูปมนหรือค่อนข้างกลม กว้างประมาณ 2.5 ซม. ยาวประมาณ 5 ซม. เปลือกแข็ง มีขนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ เปลือกเป็นคลื่นไปตามรูปเมล็ดที่อยู่ภายใน ปลายผลมักเป็นจะงอยโค้งเล็กน้อย ผลแก่จะแตกออกตามรอยประสานด้านข้าง ก้านผลเห็นไม่ชัด
เมล็ด สีน้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ยาวประมาณ 3 ซม. แต่ละผลมี 1-2 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: กันยายน-เมษายน
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์: - ปลูกเป็นไม้ประดับ
- เป็นอาหาร
ถิ่นกำเนิด: จีน
*เกาลัด เป็นเป็นต้นไม้มงคลที่สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสร้างลำต้น อีกทั้งเกาลัดมีใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยร่วง จึงสามารถให้ร่มเงา กรองฝุ่นละออง ลดมลภาวะ รวมทั้งลดสภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี