ค้นหาสินค้า

มะลิหลวง

มะลิหลวง

มะลิหลวง
มะลิหลวง แก่งคอย สระบุรี

ราคา 50.00 บาท /ต้น

มะลิหลวง
มะลิหลวง สมุทรปราการ

ราคา 120.00 บาท /ต้น

มะลิหลวง
มะลิหลวง เบตง ยะลา

ราคา 200.00 บาท

มะลิหลวง (กทม)
มะลิหลวง (กทม) บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ราคา 120.00 บาท /ตัน

มะลิหลวง
มะลิหลวง ปทุมธานี

ราคา 800.00 บาท /ต้น

จังหวัดที่ขายมะลิหลวง

กรุงเทพมหานคร (1 ร้าน)

ปทุมธานี (1 ร้าน)

ยะลา (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

สระบุรี (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด มะลิหลวง ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของต้นมะลิหลวง ชื่อวิทยาศาสตร์ การขยายพันธุ์ การดูแล ความเชื่อ ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Jasminum nitidum

ชื่อภาษาอังกฤษ : Angelwing jasmine

ลำต้น : เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย แตกกิ่งยอดจำนวนมาก พุ่มแน่น ปลายกิ่งชูตั้งขึ้น กิ่งอ่อนมีสีเขียวและเปราะหักง่าย

ใบ : เป็นใบเดี่ยว ใบรูปหอกหนา ปลายใบแหลมยาว โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเกลี้ยงเป็นมัน

ดอก : ออกเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกสีขาว ก้านดอกสีเขียวอมม่วงอ่อน ดอกอ่อนสีม่วงแดง ออกดอกดกตลอดปี

มะลิหลวง

การขยายพันธุ์ของต้นมะลิหลวง

ปักชำ ทาบกิ่ง และตอนกิ่ง

การดูแลต้นมะลิหลวง

ปลูกได้ในดินร่วน ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแดดจัด ดูแลง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน

ความเชื่อของต้นมะลิหลวง

นิยมปลูกบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน เพื่อเป็นเสน่ห์แก่บ้าน

ประโยชน์ของต้นมะลิหลวง

ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ


ข้าวมะลิโกเมนสุรินทร์ และ มะลินิลสุรินทร์ ข้าวทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ (3923)

มะลิโกเมนสุรินทร์ และมะลินิลสุรินทร์ เกิดจากความร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ศูนย์วิจัยข้าวสกลนคร สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว คณะเทคโนโลยี และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นข้าวเจ้าหอมต่างสี ซึ่งได้จากการคัดเลือกพันธุ์บริสุทธิ์ข้าวเจ้าต่างสี พันธุ์พื้นเมืองไวต่อช่วงแสง 3 พันธุ์ คือ มะลิแดง เบอร์ 54 มะลิพื้นเมือง (ข้าวแดง) และมะลิดำ เบอร์ 53 จากแปลงแสดงพันธุ์ข้าวพื้นเมืองของศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ในปี พ.ศ. 2548 จนได้พันธุ์บริสุทธิ์ จำนวน 12 สายพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง จำนวน 5 พันธุ์ คือ มะลิโกเมนสุรินทร์ 1-5 และกลุ่มที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีดำ จำนวน 7 พันธุ์ คือ มะลินิลสุรินทร์ 1-7    


   
ข้าวมะลิโกเมนสุรินทร์ และมะลินิลสุรินทร์ สามารถสนองต่อการเรียกหาของคนรักสุขภาพ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อีกทั้งยังมีข้อดีทางด้านคุณภาพทางกายภาพ ทางเคมี และคุณภาพการหุงต้มรับประทานดี คือ เป็นข้าวเมล็ดเรียวยาว เปอร์เซ็นต์อะมิโลสต่ำ ข้าวสุกเหนียวนุ่ม และมีกลิ่นหอม จากการตรวจวิเคราะห์ในเมล็ดพบว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง ประกอบด้วย สารประกอบฟีโนลิก และแอนโทไซยานิน ที่มีผลทำให้ผิวหนังของเราไม่เหี่ยวแห้งเร็วก่อนวัยอันควร แถมยังช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็งและยังออกฤทธิ์ในการขยายเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันในสมองและโรคอัมพาตอีกด้วย    


   
นอกจากนั้น ข้าวกลุ่มนี้ยังเหมาะสำหรับใช้ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ เพราะมีการใช้ปัจจัยการผลิตต่ำ จึงเป็นทางเลือกสำหรับชาวนาที่ทำนาแบบอินทรีย์ ผลผลิตภายใต้สภาพการปลูกแบบอินทรีย์ จะอยู่ที่ 224-458 กิโลกรัม/ไร่ ความสูง 158-185 เซนติเมตร ออกดอกระหว่าง วันที่ 20-29 ตุลาคม    


   
"มะลิโกเมนสุรินทร์ และมะลินิลสุรินทร์ ตอบสนองต่อปุ๋ยค่อนข้างต่ำ ผลผลิตจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการบำรุงดิน ไม่ว่าจะได้ผลผลิต 270 300 หรือ 400 กิโลกรัม/ไร่ มันก็กำไรอยู่แล้ว เพราะต้นทุนต่ำ"    


   
คุณรณชัย บอกกล่าวถึงคุณสมบัติของข้าวมะลิโกเมนสุรินทร์ และมะลินิลสุรินทร์ ที่ได้จากการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ข้าวสายพันธุ์ดังกล่าวมีความต้องการปุ๋ยเคมีน้อย แต่ปัจจัยของผลผลิตของข้าวสายพันธุ์นี้ ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุและอาหารในดิน ดังนั้น การดูแลรักษาและบำรุงดิน จึงจัดว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งไม่ว่าผลผลิตจะออกมาเท่าไหร่ ผู้ที่ทำนาแบบเกษตรอินทรีย์นั้น ก็มีกำไรเสมอ เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตข้าวที่ต่ำ    


   
ที่มา:  หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน