ลักษณะของจำปาเทศ (3544)
ชื่อวงศ์: STERCULIACEAE
ชื่อพื้นเมือง: กะหนาย หำอาว (หนองคาย) ขนาน(ชลบุรี
ลักษณะทั่วไป:
ต้น เป็นไม้ขนาดกลาง สูง 10 - 20 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาแตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดบิดเวียนตามยาวโคนลำต้นมักเป็นปุ่มเป็นโพรง แตกกิ่งจำนวนมาก กิ่งอ่อนยาว ปลายกิ่งห้อยลู่ กิ่งอ่อนมีขนสีขาวหรือเหลืองอ่อนบางๆ กิ่งแก่เกลี้ยง
ใบ ใบเดี่ยว เรียงระนาบเดียวกัน มี 2 รูป ใบอ่อนรูปไข่กว้างหรือเกือบเป็นแผ่นกลม กว้าง 14-18 ซม. ยาว 14-16 ซม. แผ่นใบเว้าเป็นแฉกลึก 5-7 แฉก แฉกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายแฉกแหลม ขอบเรียบหรือเว้าตื้นๆ ห่างๆ ไม่เป็นระเบียบ โคนรูปก้นปิด เส้นใบออกจากโคนใบประมาณ 7 เส้น แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม เกลี้ยง ด้านล่างมีขนสีเทาอมเหลืองหนาแน่น ก้านใบติดห่างจากโคนใบมาก ยาว 4-7 ซม. มีขนเป็นแฉกรูปดาวหนาแน่น หูใบแคบ ยาวประมาณ 1 ซม. มีขนทั่วไป ใบแก่รูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 3-6 ซม. ยาว 5-13 ซม. ปลายแหลมยาว โคนมนกว้าง หรือโคนใบตัดและเว้าเล็กน้อยตรงก้านใบที่ติดเหลื่อมห่างจากโคนใบเล็กน้อย ขอบเรียบแต่มักเว้าตื้นๆ ห่างๆ ไม่เป็นระเบียบ มีเส้นใบออกจากโคนใบ 3-5 เส้น และเส้นแขนงใบข้างละ 6-8 เส้น ปลายเส้นโค้งขึ้นเลียบขอบใบ ก้านใบยาว 0.7-1 ซม. แผ่นใบด้านบนเกลี้ยง สีเขียวเข้ม ด้านล่างมีขนสีเทาอมเหลืองหรือสีนวลหนาแน่น
ดอก เป็นสีขาว ออกเดี่ยวๆ ตามซอกใบบริเวณใกล้ปลายยอด ก้านดอกยาว 0.5-1 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกกัน รูปขอบขนาน สีเขียวอมน้ำตาล กว้างประมาณ 7 มม. ยาว 7-8 ซม. ด้านนอกมีขนนุ่มเป็นมันสีน้ำตาลอมเหลือง ด้านในมีขนนุ่มเช่นกันแต่สีจางกว่า กลีบดอก 5 กลีบ สีขาว แยกกัน กว้างประมาณ 1.7 ซม. ยาวประมาณ 6.5 ซม. โคนกลีบเรียว กลีบด้านนอกมีขนเป็นแฉกรูปดาวประปราย ด้านในเกลี้ยง เกสรเพศผู้สมบูรณ์มีประมาณ 15 อัน ติดกันเป็นกลุ่มๆ สลับกับเกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 2 ซม. เกสรเพศเมียมีก้านเกสรยาวประมาณ 5 ซม. มีขนเป็นแฉกรูปดาวประปราย รังไข่ยาวประมาณ 6 มม. มีขนสีเทาอมเหลือง รังไข่ติดอยู่บนก้าน
ฝัก/ผล รูปทรงกระบอกสั้นๆ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 5-8 ซม. มีสันคม 5 สัน ผนังระหว่างสันเว้าเข้าเป็นแอ่ง ฐานคอดลงเป็นแกนสั้นๆ ยาว 0.8-1.3 ซม. ผนังมีขนสีเหลืองอมน้ำตาลทั่วไป ฝักแก่แตกตามรอยสันออกเป็น 5 เสี่ยง
เมล็ด มีจำนวนมาก รูปไข่หรือรูปรีแบน ด้านบนมีปีกยาวบางใสสีน้ำตาล กว้างประมาณ 6 มม. ยาวรวมทั้งฝักและปีกประมาณ 3.6 ซม.
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี แต่ออกมากช่วงฤดูฝน
การดูแลรักษา: เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ทนทานกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยเหมาะสมกับการเจริญเติบโต ของพืชอื่น เช่น ในสภาพดินที่มีเกลือปะปนอยู่ในดินระดับหนึ่ง (ดินที่เค็มไม่มากนัก) จึงเหมาะกับพื้นที่ราบลุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ทะเล
การขยายพันธุ์:
- การตอนกิ่ง เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากออกรากง่าย ขนาดของกิ่งที่จะใช้ตอนควรมีขนาด 2 - 20 ซม.
- การเพาะเมล็ด
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอกหอมเย็นตลอดวัน
การใช้ประโยชน์: ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด: ไทย
แหล่งที่พบ: ขึ้นตามป่าละเมาะชายหาด ป่าชายหาด หรือตามร่องน้ำลำคลองที่ไม่ห่างจากฝั่งทะเล