ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพุดซ้อน (3615)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Gardenia angusta (L.) Merr.
ชื่อวงศ์: Rubiaceae
ชื่อสามัญ: Cape jasmine, Gardenia jasmine
ชื่อพื้นเมือง: พุดจีน พุดใหญ่ อินถะหวา เค็ดถวา แคถวา ซัวอึ้งกี่ จุยเจียฮวย
ลักษณะทั่วไป:
ต้น พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2เมตร แตกกิ่งแขนงมาก ลำต้นเรียวเป็นรูปกรวย ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม ค่อนข้างหนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลดำ
ใบ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปหอก ปลายใบและโคนใบแหลม ใบมีสีเขียวมน
ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีขาวออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยงหนาเป็นสัน มีทั้งชนิดดอกลา คือกลีบดอกชั้นเดียว และชนิดดอกซ้อน มีกลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกัน เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7-8 ซม.
ฝัก/ผล มีทั้งผลสั้นและยาว รูปไข่ถึงรูปแกมรูปขอบขนาน เมื่อแก่สีเหลือง ส้ม เมล็ดจำนวนมาก ผลแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก
เมล็ด จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี
การปลูก: ปลูกเป็นต้นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเพื่อบังสายตา
การดูแลรักษา: เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจัด ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก กลิ่นหอมแรง
การใช้ประโยชน์:
- นิยมนำไปร้อยพวงมาลัยบูชาพระ
- เมล็ดสีเหลืองทอง ใช้แต่งสีอาหารและทำสีย้อม
- ส่วนดอกใช้สกัดน้ำมันหอมระเหย ใช้ทำน้ำหอมและแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง
- สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด: ประเทศไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
แหล่งที่พบ: มีอยู่มากทางภาคเหนือ
สรรพคุณทางยา:
- ใบ ตำพอกแก้ปวดศีรษะ แก้เคล็ดขัดยอก
- ดอก คั้นน้ำทาแก้โรคผิวหนัง
- ราก แก้ไข้
- เปลือกต้น แก้บิด
ชื่อวงศ์: Rubiaceae
ชื่อสามัญ: Cape jasmine, Gardenia jasmine
ชื่อพื้นเมือง: พุดจีน พุดใหญ่ อินถะหวา เค็ดถวา แคถวา ซัวอึ้งกี่ จุยเจียฮวย
ลักษณะทั่วไป:
ต้น พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2เมตร แตกกิ่งแขนงมาก ลำต้นเรียวเป็นรูปกรวย ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม ค่อนข้างหนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลดำ
ใบ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปหอก ปลายใบและโคนใบแหลม ใบมีสีเขียวมน
ดอก เป็นดอกเดี่ยวสีขาวออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยงหนาเป็นสัน มีทั้งชนิดดอกลา คือกลีบดอกชั้นเดียว และชนิดดอกซ้อน มีกลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกัน เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7-8 ซม.
ฝัก/ผล มีทั้งผลสั้นและยาว รูปไข่ถึงรูปแกมรูปขอบขนาน เมื่อแก่สีเหลือง ส้ม เมล็ดจำนวนมาก ผลแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก
เมล็ด จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี
การปลูก: ปลูกเป็นต้นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเพื่อบังสายตา
การดูแลรักษา: เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจัด ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก กลิ่นหอมแรง
การใช้ประโยชน์:
- นิยมนำไปร้อยพวงมาลัยบูชาพระ
- เมล็ดสีเหลืองทอง ใช้แต่งสีอาหารและทำสีย้อม
- ส่วนดอกใช้สกัดน้ำมันหอมระเหย ใช้ทำน้ำหอมและแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง
- สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด: ประเทศไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
แหล่งที่พบ: มีอยู่มากทางภาคเหนือ
สรรพคุณทางยา:
- ใบ ตำพอกแก้ปวดศีรษะ แก้เคล็ดขัดยอก
- ดอก คั้นน้ำทาแก้โรคผิวหนัง
- ราก แก้ไข้
- เปลือกต้น แก้บิด