บริการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช

1. คัดเลือกพันธุ์ที่มีลักษณะดี แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลง ลูกโตให้หวีต่อเครือมาก

2. ตกแต่งชิ้นส่วนพืช ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก

3. นำชิ้นส่วนพืชจุ่มในแอลกอฮอล์ 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดแรงตึงผิวบริเวณนอกชิ้นส่วนพืช

4. นำชิ้นส่วนพืชมาเขย่าในสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เตรียมไว้นาน 10-15 นาที

5. ใช้ปากคีบคีบชิ้นส่วนพืช ล้างในน้ำกลั่นที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 3 ครั้ง

6. ตัดชิ้นส่วนพืชตามขนาดที่ต้องการแล้ววางบนอาหารสังเคราะห์

7. หลังจากนั้นจึงเขียนรายละเอียด เช่น ชนิดพืช วันเดือนปี รหัส แล้วนำไปพักในห้องเลี้งเนื้อเยื่อต่อไป

1. นำต้นกล้าออกจากขวดเพาะเลี้ยง จับต้นกล้วยใกล้โคนเบาๆ ล้างวุ้นที่ติดรากออกให้สะอาด ให้เบามือที่สุด

2. นำต้นกล้าไปจุ่มน้ำยาป้องกันเชื้อรา ประมาณ 15 นาที แล้วเอาไปวางบนกะดาษทิชชู่เพื่อซับน้ำ

3. นำไปปลูกในกระถางที่มีขุยมะพร้าวชุ่มน้ำ (อาจเป็นแกลบดำ พีทมอส หรือดินป่นก็ได้) ใส่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ มัดปากถุงให้สนิท หรือปลูกในกระบะเพาะควบคุมความชื้น อยู่ในที่มีแสงรำไรหรือพรางแสง 50% ประมาณ 2 สัปดาห์ รดน้ำวันละ 2 ครั้ง ระหว่างนี้ค่อย ๆ เปิดเพื่อปรับลดความชื้น

4. เมื่อต้นกล้วยแข็งแรงจึงนำออกจากถุง แล้วย้ายลงปลูกในภาชนะขนาดใหญ่ที่มีดินผสม รอจนกระทั่งต้นกล้วยมีลำต้นสูงประมาณ 15 เซนติเมตร เส้นรอบวง 3-4 เซนติเมตร ประมาณ 1 เดือน จึงย้ายลงแปลงปลูก

การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วย เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชวิธีหนึ่งที่ใช้ชิ้นส่วนของพืช เช่น ลำต้น ตายอดตาข้าง ก้านช่อดอก ใบ ก้านใบ เป็นต้น มาเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์ภายใต้สภาพที่ควบคุมเรื่อง ความ สะอาดแบบปลอดเชื้อ อุณหภูมิ และแสง เมื่อชิ้นส่วนนั้นเจริญและพัฒนาเป็นต้นพืชที่สมบูรณ์ มีทั้งส่วนใบ ลำต้นและรากที่ สามารถนำไปปลูกในสภาพธรรมชาติได้

1. ได้ต้นกล้วยที่ปลอดโรค

2. ต้นกล้วยมีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนต้นแม่

3. ได้ต้นกล้าจำนวนมาก

4. ผลผลิตที่ได้จะมีทั้งขนาดและคุณภาพที่สม่ำเสมอกัน

5. ผลผลิตออกในเวลาใกล้เคียงกัน

6. มีความแข็งแรง ต้านทานโรคแมลงรบกวน

7. มีเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตสูงกว่าการปลูกจากหน่อ

8. การดูแลในแปลงจนต้นกล้วยรอดใช้เวลาสั้นใช้เวลาเพียงแค่ 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับการปลูกด้วยหน่อจะใช้เวลาดูแลถึง 4 เดือน

9. ใช้เวลาในการลงมือปลูกในแปลงน้อย

1. ต้นพันธุ์ราคาแพง

2. ต้องประคบประหงม ดูแลอย่างดีในระยะแรกที่ออกจากขวดเพาะเนื้อเยื่อ