ค้นหาสินค้า

พลับพลึง

ขายต้นพลับพลึง ดอกพลับพลึงราคาถูก การปลูก วิธีดูแล และการขยายพันธุ์พลับพลึง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ลักษณะและสรรพคุณ

ต้นพลับพลึง

ต้นพลับพลึงหนู
ต้นพลับพลึงหนู นครนายก

ราคา 9.00 บาท /ถุง

ขายพลับพลึงแดงแคระกอใหญ่ ไม้ทนแดดทนฝนค่ะ ดอกสีชมพู
ขายพลับพลึงแดงแคระกอใหญ่ ไม้ทนแดดทนฝนค่ะ ดอกสีชมพู เมืองนครปฐม นครปฐม

ราคา 150.00 บาท /กระถาง

พลับพลึง
พลับพลึง กันทรวิชัย มหาสารคาม

ไลโคริส (สีแดง) ราคา หัวละ 150บาท
ไลโคริส (สีแดง) ราคา หัวละ 150บาท บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 150.00 บาท /หัว

ใบพลับพลึง เก็บสดส่ง 10ใบ  99 บาท
ใบพลับพลึง เก็บสดส่ง 10ใบ 99 บาท เวียงชัย เชียงราย

ราคา 99.00 บาท /ใบ

พลับพลึง(แคระ)
พลับพลึง(แคระ) พนัสนิคม ชลบุรี

ราคา 350.00 บาท /ต้น

พลับพลึงกทม กระถาง 6 นิ้ว สูงประมาณ 10-20cm
พลับพลึงกทม กระถาง 6 นิ้ว สูงประมาณ 10-20cm บางใหญ่ นนทบุรี

ราคา 17.00 บาท /17

จังหวัดที่ขายต้นพลับพลึง

ชลบุรี (1 ร้าน)

เชียงราย (1 ร้าน)

นครนายก (1 ร้าน)

นครปฐม (1 ร้าน)

นนทบุรี (1 ร้าน)

มหาสารคาม (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

ต้นกล้าพลับพลึง

ไลโคลิส / Lycoris  ราคา 180 บาท
ไลโคลิส / Lycoris ราคา 180 บาท บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 180.00 บาท /ต้น?

จังหวัดที่ขายต้นกล้าพลับพลึง

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกล้าพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

หัวพลับพลึง

ขายต้นพลับพลึงลิลลี่ดออกสีชมพูอ่อนๆ มีกลิ่นหอม
ขายต้นพลับพลึงลิลลี่ดออกสีชมพูอ่อนๆ มีกลิ่นหอม เมืองนครปฐม นครปฐม

ราคา 450.00 บาท /หัว

(1หัว) หัว ไลโคริส  ดอกสีแดง Lycoris ต้นไลโคริส หั
(1หัว) หัว ไลโคริส ดอกสีแดง Lycoris ต้นไลโคริส หั เมืองมหาสารคาม มหาสารคาม

ราคา 79.00 บาท /หัว

จังหวัดที่ขายหัวพลับพลึง

นครปฐม (1 ร้าน)

มหาสารคาม (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด หัวพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของต้นพลับพลึงทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ การขยายพันธุ์ การดูแล ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crinum asiaticum L. var. asiaticum

ชื่อภาษาอังกฤษ : Cape Lily, Giant Lily, Golden-leaf Crinum Lily, Poison bulb, Spider Lily

ชื่ออื่นๆ : พลับพลึง, พลึงเล, ลิลัว

ลำต้น : เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวคล้ายหัวหอม

ใบ : เป็นใบเดี่ยว รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา สีเหลืองอมเขียวเป็นมัน

ดอก : ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผล : แห้งและแตกออก

เมล็ด : รูปกลม สีดำ

พลับพลึง

การขยายพันธุ์ของต้นพลับพลึงทอง

แยกกอ, แยกหน่อ, เพาะเมล็ด

การดูแลต้นพลับพลึงทอง

ปลูกได้ในดินร่วนปนทราย ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแดดเต็มวัน ทนน้ำท่วม ทนดินเค็ม เจริญเติบโตปานกลาง หากปลูกในที่ร่มใบเป็นสีเขียว

ประโยชน์ของต้นพลับพลึงทอง

นิยมปลูกประดับสวน หรือปลูกคลุมดิน ริมน้ำตก ทางเดิน


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพลับพลึง (3610)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Crinum asiaticun Linn.
ชื่อวงศ์:  Amarylidaceae
ชื่อสามัญ:  Crinum Lily, Veldlily
ชื่อพื้นเมือง:  ลิลัว
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นพืชล้มลุกหลายฤดู มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวกลม ส่วนที่โผล่พ้นดินเป็นกายใบอัดกันแน่น
    ใบ  เป็นใบเดี่ยว  เรียงซ้อนเป็นวงกว้าง 7-15 ซม. ยาว 1 เมตร ปลายใบแหลม  แผ่นใบอวบหนา  มีหน่อจำนวนมากขึ้นรวมกันเป็นกอ แผ่นใบเป็นมันเรียบ ลักษณะแคบ เรียวยาว เรียงเวียนรอบ แกนลำต้น ออกดอกเป็นช่อ มีก้านช่อดอกยาว  
    ดอก  ช่อดอกขนาดใหญ่  ลักษณะคล้ายปากแตร ผลค่อนข้างกลม มีสีขาวหรือม่วงแดง  ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง  มีดอกย่อยจำนวนมาก 10-30 ดอก ก้านช่อดอกอวบใหญ่ กลีบดอกตอนโคนเชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 7-10 ซม. ปลายแยกเป็น 6 กลีบแคบๆ กว้าง 1 ซม. ยาว 7 ซม.  ดอกทยอยบาน มีกลิ่นหอม พลับพลึงดอกสีแดงจะมีช่อดอกและดอกใหญ่กว่าพลับพลึงดอกสีขาว
    ฝัก/ผล  ค่อนข้างกลม
การปลูก:  นิยมปลูกกันตามร่องสวนในภาคกลางทั่วไป
การดูแลรักษา:  ชอบขึ้นในดินที่ชื้นสามารถทนอยู่ในดินแฉะที่ไม่ค่อยระบายน้ำหรือในบริเวณที่แห้งแล้งในบางช่วงได้
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหน่อ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก กลิ่นหอม
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    ต้นที่มีขนาดใหญ่ใช้ในการแกะสลักเพื่อตกแต่งในงานพิธีต่างๆ
    -    สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด:  ทวีปเอเซีย
สรรพคุณทางยา:
    -    หัว  ใช้ต้เอาน้ำรับประทานทำให้อาเจียนเป็นเสมหะ ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง เป็นยาระบาย รักษาโรคเกี่ยวกับ น้ำดี โรคเกี่ยวกับปัสสาวะ
    -    ใบ  ใช้ลนไฟพอนิ่ม พัแก้เคล็ดบวม แพลง ขัดยอก ใช้ตำปิดศรีษะ แก้ปวดศีรษะ ลด    อาการไข้ ใช้ต้มดื่มทำให้อาเจียน
    -    ราก  ใช้ตำพอกแผล ใช้เคี้ยวกลืนแต่น้ำทำให้อาเจียน ใช้รักษาพิษยางน่อง
    -    เมล็ด  ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ขับประจำเดือน เป็นยาระบาย เป็นยาบำรุง


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพลับพลึงทอง (3611)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Crinum sp.
ชื่อวงศ์:  Amaryllidaceae
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีหัวใต้ดินลักษณะเป็นกลีบๆเรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดแน่นเป็นลำต้นเทียม เจริญเติบโตเป็นช่อชูส่วนของใบขึ้นมาเหนือดิน แตกกอ มีหัวขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน
    ใบ  ใบเดี่ยว  เรียงเวียนสลับถี่รอบต้น  ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน  กว้าง 8-12 เซนติเมตร   ยาว 90-120 เซนติเมตร   ปลายเรียวมนถึงแหลมทู่  โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาสีเหลืองปนเชียวเป็นมันปลายใบอ่อนโค้งลง
    ดอก  สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มที่กลางต้น  ก้านช่อดอกแข็งและค่อนข้างแบน   ยาว 50-70 เซนติเมตร ช่อละ 4-8 ดอก ดอกย่อยเกิดเดี่ยวๆ บนปลายก้านดอกย่อย  กลีบเลี้ยง 5 กลีบรูปเรียวยาว    กลีบดอกโคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 6 แฉก   มีส่วนที่ยื่นออกมาเป็นรูปแถบเรียวเล็ก เกสรเพศผู้มีก้านชูยาวสีแดงเรื่อ ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-12 เซนติเมตร
    ฝัก/ผล  ผลแห้งแตก
    เมล็ด  รูปกลม สีดำ
ฤดูกาลออกดอก:  ฤดูฝน
การปลูก:  ปลูกประดับสวน ปลูกคลุมดินริมน้ำตก ลำธาร ริมถนน ทางเดิน
การดูแลรักษา:  ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหัว
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
การใช้ประโยชน์:  ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  เอเชียเขตร้อน

*เป็นต้นที่กลายพันธุ์มาจากต้นพอยซันบัลบ์ (Poison Bulb)


ลักษณะของพลับพลึงตีนเป็ด (3612)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Hymenocallis littoralis  Salisb.
ชื่อวงศ์:  Amaryllidaceae
ชื่อสามัญ:  Spider Lily
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  มีหัวอยู่ใต้ดินลักษณะเป็นกลีบๆเรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดแน่นเป็นลำต้นเทียม เจริญเติบโตเป็นช่อชูส่วนของใบขึ้นมาเหนือดิน แตกกอ ลำต้นกลมสูงประมาณ 30 ซม.
    ใบ  เดี่ยว  เรียงเวียนสลับถี่รอบต้น ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-5 เซนติเมตร  ยาว 100-120 เซนติเมตร   ปลายเรียวมนถึงแหลมทู่ โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา  สีเขียวเป็นมัน ปลายใบอ่อนโค้งลง
    ดอก สีขาว เป็นช่อกระจุกโปร่งมี 8 - 10 ดอกกลีบดอกมี 6 กลีบ  แต่ละดอกมีระยางค์ที่เกิดจาก ก้านเกสรเพศผู้ ที่เชื่อมติดกันเป็นวงคล้ายถ้วย บานตอนกลางคืน - เช้า
    ฝัก/ผล  ผลสดสีเขียว รูปร่างค่อนข้างกลม แก่จะเป็นสีน้ำตาล
    เมล็ด  รูปร่างกลม ๆ เล็ก แก่แล้วเป็นสีน้ำตาล
ฤดูกาลออกดอก:  ตลอดปี
การปลูก:  ปลูกประดับสวน ริมน้ำตก ลำธาร ริมถนน ทางเดิน ปลูกในอาคาร ริมทะเล ทนน้ำขังแฉะ
การดูแลรักษา:  ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป  ชอบความชื้นสูง แต่ทนแล้งได้ดี
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหัว
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    สมุนไพร
แหล่งที่พบ:  พบทุกภูมิภาคของไทย
สรรพคุณทางยา:
    -    ใบ นำเอามาย่างไฟพันแก้ฟกช้ำ บวม เคล็ดขัดยอก ใช้อยู่ไฟหลังคลอด
    -    หัวมีรสขม ในอินเดียใช้เป็นยาระบาย ขับเสมหะ รักษาโรคเกี่ยวกับน้ำดี