ค้นหาสินค้า

พลับพลึง

ขายต้นพลับพลึง ดอกพลับพลึงราคาถูก การปลูก วิธีดูแล และการขยายพันธุ์พลับพลึง ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ลักษณะและสรรพคุณ

ต้นพลับพลึง

พลับพลึงกทม กระถาง 6 นิ้ว สูงประมาณ 10-20cm
พลับพลึงกทม กระถาง 6 นิ้ว สูงประมาณ 10-20cm บางใหญ่ นนทบุรี

ราคา 17.00 บาท /17

ต้นพลับพลึงหนู
ต้นพลับพลึงหนู นครนายก

ราคา 9.00 บาท /ถุง

พลับพลึงป่า(หรือกระเทียมช้าง)
พลับพลึงป่า(หรือกระเทียมช้าง) พรานกระต่าย กำแพงเพชร

ราคา 50.00 บาท /3ต้น

ขายพลับพลึงแดงแคระกอใหญ่ ไม้ทนแดดทนฝนค่ะ ดอกสีชมพู
ขายพลับพลึงแดงแคระกอใหญ่ ไม้ทนแดดทนฝนค่ะ ดอกสีชมพู เมืองนครปฐม นครปฐม

ราคา 150.00 บาท /กระถาง

พลับพลึง
พลับพลึง กันทรวิชัย มหาสารคาม

ไลโคริส (สีแดง) ราคา หัวละ 150บาท
ไลโคริส (สีแดง) ราคา หัวละ 150บาท บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 150.00 บาท /หัว

ใบพลับพลึง เก็บสดส่ง 10ใบ  99 บาท
ใบพลับพลึง เก็บสดส่ง 10ใบ 99 บาท เวียงชัย เชียงราย

ราคา 99.00 บาท /ใบ

พลับพลึง(แคระ)
พลับพลึง(แคระ) พนัสนิคม ชลบุรี

ราคา 350.00 บาท /ต้น

จังหวัดที่ขายต้นพลับพลึง

กำแพงเพชร (1 ร้าน)

ชลบุรี (1 ร้าน)

เชียงราย (1 ร้าน)

นครนายก (1 ร้าน)

นครปฐม (1 ร้าน)

นนทบุรี (1 ร้าน)

มหาสารคาม (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

ต้นกล้าพลับพลึง

ไลโคลิส / Lycoris  ราคา 180 บาท
ไลโคลิส / Lycoris ราคา 180 บาท บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 180.00 บาท /ต้น?

จังหวัดที่ขายต้นกล้าพลับพลึง

สมุทรปราการ (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกล้าพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

ใบพลับพลึง

ใบพลับพลึง
ใบพลับพลึง พระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา

ราคา 10.00 บาท /ใบ

ใบพลับพลึงสด/ตากแห้ง
ใบพลับพลึงสด/ตากแห้ง เมืองระยอง ระยอง

ราคา 100.00 บาท /กิโลกรัม

จังหวัดที่ขายใบพลับพลึง

พระนครศรีอยุธยา (1 ร้าน)

ระยอง (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ใบพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

หัวพลับพลึง

ขายต้นพลับพลึงลิลลี่ดออกสีชมพูอ่อนๆ มีกลิ่นหอม
ขายต้นพลับพลึงลิลลี่ดออกสีชมพูอ่อนๆ มีกลิ่นหอม เมืองนครปฐม นครปฐม

ราคา 450.00 บาท /หัว

(1หัว) หัว ไลโคริส  ดอกสีแดง Lycoris ต้นไลโคริส หั
(1หัว) หัว ไลโคริส ดอกสีแดง Lycoris ต้นไลโคริส หั เมืองมหาสารคาม มหาสารคาม

ราคา 79.00 บาท /หัว

จังหวัดที่ขายหัวพลับพลึง

นครปฐม (1 ร้าน)

มหาสารคาม (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด หัวพลับพลึง ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของต้นพลับพลึงทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ การขยายพันธุ์ การดูแล ประโยชน์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Crinum asiaticum L. var. asiaticum

ชื่อภาษาอังกฤษ : Cape Lily, Giant Lily, Golden-leaf Crinum Lily, Poison bulb, Spider Lily

ชื่ออื่นๆ : พลับพลึง, พลึงเล, ลิลัว

ลำต้น : เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวคล้ายหัวหอม

ใบ : เป็นใบเดี่ยว รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา สีเหลืองอมเขียวเป็นมัน

ดอก : ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผล : แห้งและแตกออก

เมล็ด : รูปกลม สีดำ

พลับพลึง

การขยายพันธุ์ของต้นพลับพลึงทอง

แยกกอ, แยกหน่อ, เพาะเมล็ด

การดูแลต้นพลับพลึงทอง

ปลูกได้ในดินร่วนปนทราย ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแดดเต็มวัน ทนน้ำท่วม ทนดินเค็ม เจริญเติบโตปานกลาง หากปลูกในที่ร่มใบเป็นสีเขียว

ประโยชน์ของต้นพลับพลึงทอง

นิยมปลูกประดับสวน หรือปลูกคลุมดิน ริมน้ำตก ทางเดิน


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพลับพลึง (3610)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Crinum asiaticun Linn.
ชื่อวงศ์:  Amarylidaceae
ชื่อสามัญ:  Crinum Lily, Veldlily
ชื่อพื้นเมือง:  ลิลัว
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นพืชล้มลุกหลายฤดู มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวกลม ส่วนที่โผล่พ้นดินเป็นกายใบอัดกันแน่น
    ใบ  เป็นใบเดี่ยว  เรียงซ้อนเป็นวงกว้าง 7-15 ซม. ยาว 1 เมตร ปลายใบแหลม  แผ่นใบอวบหนา  มีหน่อจำนวนมากขึ้นรวมกันเป็นกอ แผ่นใบเป็นมันเรียบ ลักษณะแคบ เรียวยาว เรียงเวียนรอบ แกนลำต้น ออกดอกเป็นช่อ มีก้านช่อดอกยาว  
    ดอก  ช่อดอกขนาดใหญ่  ลักษณะคล้ายปากแตร ผลค่อนข้างกลม มีสีขาวหรือม่วงแดง  ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง  มีดอกย่อยจำนวนมาก 10-30 ดอก ก้านช่อดอกอวบใหญ่ กลีบดอกตอนโคนเชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 7-10 ซม. ปลายแยกเป็น 6 กลีบแคบๆ กว้าง 1 ซม. ยาว 7 ซม.  ดอกทยอยบาน มีกลิ่นหอม พลับพลึงดอกสีแดงจะมีช่อดอกและดอกใหญ่กว่าพลับพลึงดอกสีขาว
    ฝัก/ผล  ค่อนข้างกลม
การปลูก:  นิยมปลูกกันตามร่องสวนในภาคกลางทั่วไป
การดูแลรักษา:  ชอบขึ้นในดินที่ชื้นสามารถทนอยู่ในดินแฉะที่ไม่ค่อยระบายน้ำหรือในบริเวณที่แห้งแล้งในบางช่วงได้
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหน่อ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก กลิ่นหอม
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    ต้นที่มีขนาดใหญ่ใช้ในการแกะสลักเพื่อตกแต่งในงานพิธีต่างๆ
    -    สมุนไพร
ถิ่นกำเนิด:  ทวีปเอเซีย
สรรพคุณทางยา:
    -    หัว  ใช้ต้เอาน้ำรับประทานทำให้อาเจียนเป็นเสมหะ ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง เป็นยาระบาย รักษาโรคเกี่ยวกับ น้ำดี โรคเกี่ยวกับปัสสาวะ
    -    ใบ  ใช้ลนไฟพอนิ่ม พัแก้เคล็ดบวม แพลง ขัดยอก ใช้ตำปิดศรีษะ แก้ปวดศีรษะ ลด    อาการไข้ ใช้ต้มดื่มทำให้อาเจียน
    -    ราก  ใช้ตำพอกแผล ใช้เคี้ยวกลืนแต่น้ำทำให้อาเจียน ใช้รักษาพิษยางน่อง
    -    เมล็ด  ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ขับประจำเดือน เป็นยาระบาย เป็นยาบำรุง


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของพลับพลึงทอง (3611)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Crinum sp.
ชื่อวงศ์:  Amaryllidaceae
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีหัวใต้ดินลักษณะเป็นกลีบๆเรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดแน่นเป็นลำต้นเทียม เจริญเติบโตเป็นช่อชูส่วนของใบขึ้นมาเหนือดิน แตกกอ มีหัวขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน
    ใบ  ใบเดี่ยว  เรียงเวียนสลับถี่รอบต้น  ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน  กว้าง 8-12 เซนติเมตร   ยาว 90-120 เซนติเมตร   ปลายเรียวมนถึงแหลมทู่  โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาสีเหลืองปนเชียวเป็นมันปลายใบอ่อนโค้งลง
    ดอก  สีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มที่กลางต้น  ก้านช่อดอกแข็งและค่อนข้างแบน   ยาว 50-70 เซนติเมตร ช่อละ 4-8 ดอก ดอกย่อยเกิดเดี่ยวๆ บนปลายก้านดอกย่อย  กลีบเลี้ยง 5 กลีบรูปเรียวยาว    กลีบดอกโคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 6 แฉก   มีส่วนที่ยื่นออกมาเป็นรูปแถบเรียวเล็ก เกสรเพศผู้มีก้านชูยาวสีแดงเรื่อ ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-12 เซนติเมตร
    ฝัก/ผล  ผลแห้งแตก
    เมล็ด  รูปกลม สีดำ
ฤดูกาลออกดอก:  ฤดูฝน
การปลูก:  ปลูกประดับสวน ปลูกคลุมดินริมน้ำตก ลำธาร ริมถนน ทางเดิน
การดูแลรักษา:  ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหัว
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
การใช้ประโยชน์:  ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  เอเชียเขตร้อน

*เป็นต้นที่กลายพันธุ์มาจากต้นพอยซันบัลบ์ (Poison Bulb)


ลักษณะของพลับพลึงตีนเป็ด (3612)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Hymenocallis littoralis  Salisb.
ชื่อวงศ์:  Amaryllidaceae
ชื่อสามัญ:  Spider Lily
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  มีหัวอยู่ใต้ดินลักษณะเป็นกลีบๆเรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดแน่นเป็นลำต้นเทียม เจริญเติบโตเป็นช่อชูส่วนของใบขึ้นมาเหนือดิน แตกกอ ลำต้นกลมสูงประมาณ 30 ซม.
    ใบ  เดี่ยว  เรียงเวียนสลับถี่รอบต้น ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-5 เซนติเมตร  ยาว 100-120 เซนติเมตร   ปลายเรียวมนถึงแหลมทู่ โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา  สีเขียวเป็นมัน ปลายใบอ่อนโค้งลง
    ดอก สีขาว เป็นช่อกระจุกโปร่งมี 8 - 10 ดอกกลีบดอกมี 6 กลีบ  แต่ละดอกมีระยางค์ที่เกิดจาก ก้านเกสรเพศผู้ ที่เชื่อมติดกันเป็นวงคล้ายถ้วย บานตอนกลางคืน - เช้า
    ฝัก/ผล  ผลสดสีเขียว รูปร่างค่อนข้างกลม แก่จะเป็นสีน้ำตาล
    เมล็ด  รูปร่างกลม ๆ เล็ก แก่แล้วเป็นสีน้ำตาล
ฤดูกาลออกดอก:  ตลอดปี
การปลูก:  ปลูกประดับสวน ริมน้ำตก ลำธาร ริมถนน ทางเดิน ปลูกในอาคาร ริมทะเล ทนน้ำขังแฉะ
การดูแลรักษา:  ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป  ชอบความชื้นสูง แต่ทนแล้งได้ดี
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด แยกหัว
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
การใช้ประโยชน์:
    -    ไม้ประดับ
    -    สมุนไพร
แหล่งที่พบ:  พบทุกภูมิภาคของไทย
สรรพคุณทางยา:
    -    ใบ นำเอามาย่างไฟพันแก้ฟกช้ำ บวม เคล็ดขัดยอก ใช้อยู่ไฟหลังคลอด
    -    หัวมีรสขม ในอินเดียใช้เป็นยาระบาย ขับเสมหะ รักษาโรคเกี่ยวกับน้ำดี