ค้นหาสินค้า

กุหลาบ

ขายต้นกุหลาบ ดอกกุหลาบราคาถูก การปลูก วิธีดูแล และการขยายพันธุ์กุหลาบ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ลักษณะและสรรพคุณ

ต้นกุหลาบ

กุหลาบหนูออกดอกในขวด
กุหลาบหนูออกดอกในขวด หนองใหญ่ ชลบุรี

ราคา 100.00 บาท /กระปุก

ต้นกุหลาบso^
ต้นกุหลาบso^ สามพราน นครปฐม

ราคา 4.00 บาท

ต้นกุหลาบแดงดอกใหญ่ *ชุดละ2ต้นส่งฟรี
ต้นกุหลาบแดงดอกใหญ่ *ชุดละ2ต้นส่งฟรี สีชมพู ขอนแก่น

ราคา 350.00 บาท /ต้น

    ต้นกุหลาบ
ต้นกุหลาบ บางกรวย นนทบุรี

ราคา 150.00 บาท /บาท

ต้นกุหลาบเลื้อยสีแดง ส้ม ขาว ชมพู เหลือง
ต้นกุหลาบเลื้อยสีแดง ส้ม ขาว ชมพู เหลือง วังน้อย พระนครศรีอยุธยา

ราคา 9,000.00 บาท /คู่

ต้นกุหลาบอังกฤษ กุหลาบเลื้อย กุหลาบมอล
ต้นกุหลาบอังกฤษ กุหลาบเลื้อย กุหลาบมอล เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

ราคา 75.00 บาท /ต้น

กุหลาบเลี้อย
กุหลาบเลี้อย องครักษ์ นครนายก

ราคา 50.00 บาท

กุหลาบเลื้อยสีแดง - Red Climbing rose
กุหลาบเลื้อยสีแดง - Red Climbing rose เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ

ราคา 30.00 บาท

กุหลาบกินได้ (Isparta)
กุหลาบกินได้ (Isparta) เมืองราชบุรี ราชบุรี

ราคา 500.00 บาท /ต้น

กุหลาบพวง
กุหลาบพวง ปากพลี นครนายก

ราคา 35.00 บาท /ต้น

กุหลาบ พันธุ์ไทย
กุหลาบ พันธุ์ไทย องครักษ์ นครนายก

ราคา 80.00 บาท /ต้น

กุหลาบ
กุหลาบ ภูเรือ เลย

ราคา 50.00 บาท /ต้น

กุหลาบพุ่มอังกฤษPrincess Anne
กุหลาบพุ่มอังกฤษPrincess Anne นครราชสีมา

ราคา 750.00 บาท

กุหลาบเลื้อย
กุหลาบเลื้อย ปากช่อง นครราชสีมา

ราคา -100.00 บาท

กุหลาบเลื้อย (กทม)
กุหลาบเลื้อย (กทม) บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ราคา 200.00 บาท /ตัน

กุหลาบพวง (Foribunda หรือ F.)
กุหลาบพวง (Foribunda หรือ F.) นครนายก

ราคา 20.00 บาท

กุหลาบใบบาง กระถาง 10 นิ้ว
กุหลาบใบบาง กระถาง 10 นิ้ว สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

ราคา 350.00 บาท /กระถาง

กุหลาบวาเลนไทน์
กุหลาบวาเลนไทน์ ด่านช้าง สุพรรณบุรี

ราคา 200.00 บาท /ถุง

กุหลาบเลื้อย
กุหลาบเลื้อย นากลาง หนองบัวลำภู

ราคา 150.00 บาท

กุหลาบสายพันธุ์นอก
กุหลาบสายพันธุ์นอก ด่านซ้าย เลย

ราคา 60.00 บาท /ต้น/ถุง

English Rose
English Rose ศรีราชา ชลบุรี

ราคา 120.00 บาท

กุหลาบญี่ปุ่น ราคาต้นละ 250฿
กุหลาบญี่ปุ่น ราคาต้นละ 250฿ บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 250.00 บาท /ต้น

กุหลาบ
กุหลาบ ปราจีนบุรี

ราคา 500.00 บาท /ต้น

กุหลาบ
กุหลาบ ภูเรือ เลย

ราคา 40.00 บาท /ต้น

กุหลาบคละสีดอกใหญ่
กุหลาบคละสีดอกใหญ่ นครปฐม

ราคา 5.00 บาท /ต้น

(1ต้น) แม็กสไปร์ Mac Spice กุหลาบเลื้อย
(1ต้น) แม็กสไปร์ Mac Spice กุหลาบเลื้อย เมืองมหาสารคาม มหาสารคาม

ราคา 199.00 บาท /ต้น

กุหลาบพวง
กุหลาบพวง พบพระ ตาก

ราคา 50.00 บาท

จังหวัดที่ขายต้นกุหลาบ

กรุงเทพมหานคร (5 ร้าน)

ขอนแก่น (1 ร้าน)

ชลบุรี (2 ร้าน)

เชียงราย (2 ร้าน)

เชียงใหม่ (7 ร้าน)

ตาก (1 ร้าน)

นครนายก (5 ร้าน)

นครปฐม (3 ร้าน)

นครราชสีมา (3 ร้าน)

นนทบุรี (2 ร้าน)

บุรีรัมย์ (1 ร้าน)

ปทุมธานี (2 ร้าน)

ประจวบคีรีขันธ์ (1 ร้าน)

ปราจีนบุรี (1 ร้าน)

พระนครศรีอยุธยา (1 ร้าน)

ภูเก็ต (1 ร้าน)

มหาสารคาม (2 ร้าน)

ราชบุรี (2 ร้าน)

ลำปาง (2 ร้าน)

เลย (3 ร้าน)

สงขลา (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (3 ร้าน)

สุพรรณบุรี (1 ร้าน)

หนองบัวลำภู (1 ร้าน)

อุดรธานี (2 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกุหลาบ ทั้งหมดในเว็บ

เมล็ดพันธุ์กุหลาบ

กุหลาบหนูออกดอกในขวด
กุหลาบหนูออกดอกในขวด หนองใหญ่ ชลบุรี

ราคา 100.00 บาท /กระปุก

เมล็ดพันธุ์กุหลาบเลื้อย
เมล็ดพันธุ์กุหลาบเลื้อย บางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ราคา 100.00 บาท /ซอง

เมล็ดกุหลาบแฟนซี
เมล็ดกุหลาบแฟนซี บางกรวย นนทบุรี

ราคา 50.00 บาท

กุหลาบเลื้อยเจแปนนิส เรด โรส  JAPANESE RED ROSE
กุหลาบเลื้อยเจแปนนิส เรด โรส JAPANESE RED ROSE บางใหญ่ นนทบุรี

ราคา 150.00 บาท /30 เมล็ด

กุหลาบเลื้อยสีขาว - White Climbing rose
กุหลาบเลื้อยสีขาว - White Climbing rose เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ

ราคา 30.00 บาท /30 เมล็ด

จังหวัดที่ขายเมล็ดพันธุ์กุหลาบ

กรุงเทพมหานคร (2 ร้าน)

ขอนแก่น (1 ร้าน)

นนทบุรี (2 ร้าน)

สมุทรปราการ (2 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด เมล็ดพันธุ์กุหลาบ ทั้งหมดในเว็บ

ต้นกล้ากุหลาบ

กุหลาบหนูออกดอกในขวด
กุหลาบหนูออกดอกในขวด หนองใหญ่ ชลบุรี

ราคา 100.00 บาท /กระปุก

กุหลาบล้างราก
กุหลาบล้างราก เชียงใหม่

กุหลาบ
กุหลาบ เพชรบุรี

ราคา 40.00 บาท /ต้น

กุหลาบ
กุหลาบ ปากพลี นครนายก

ราคา 30.00 บาท /ต้น

กุหลาบ ต้นกุหลาบ พันธุ์เชียงไหม่หลากสี
กุหลาบ ต้นกุหลาบ พันธุ์เชียงไหม่หลากสี องครักษ์ นครนายก

ราคา 60.00 บาท /ต้น

กุหลาบ ต้นละ 90 บาท
กุหลาบ ต้นละ 90 บาท กันทรวิชัย มหาสารคาม

ราคา 90.00 บาท

กุหลาบ
กุหลาบ อู่ทอง สุพรรณบุรี

ราคา 35.00 บาท

กุหลาบคละสี คละพันธุ์ ต้นละ 125฿
กุหลาบคละสี คละพันธุ์ ต้นละ 125฿ บางพลี สมุทรปราการ

ราคา 125.00 บาท /ต้น

กุหลาบเลื้อยสีชมพูอ่อน
กุหลาบเลื้อยสีชมพูอ่อน นากลาง หนองบัวลำภู

ราคา 150.00 บาท

กุหลาบ
กุหลาบ ภูเรือ เลย

ราคา 25.00 บาท /ต้น

กุหลาบสวิท
กุหลาบสวิท สมุทรปราการ

ราคา 249.00 บาท /ต้น

ต้นกุหลาบ
ต้นกุหลาบ ปราจีนบุรี

ราคา 1.00 บาท /1

(1ต้น) ต้น กุหลาบไลเซนทัส Lisianthus กุหลาบเวียดนา
(1ต้น) ต้น กุหลาบไลเซนทัส Lisianthus กุหลาบเวียดนา เมืองมหาสารคาม มหาสารคาม

ราคา 239.00 บาท /ต้น

ต้นกุหลาบ สวนป้าแตงคลอง 15
ต้นกุหลาบ สวนป้าแตงคลอง 15 นครนายก

ราคา 90.00 บาท /ต้น

Juliet
Juliet เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

ราคา 150.00 บาท /กระถาง

กุหลาบอังกฤษ ดอกใหญ่ กลิ่นหอมชื่นใจ
กุหลาบอังกฤษ ดอกใหญ่ กลิ่นหอมชื่นใจ เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

ราคา 25.00 บาท /ต้น

กุหลาบ
กุหลาบ สามพราน นครปฐม

ราคา 15.00 บาท

กุหลาบ
กุหลาบ สามพราน นครปฐม

ราคา 4.00 บาท

กุหลาบ(Baby Rose)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อ
กุหลาบ(Baby Rose)เพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อ เมืองนครปฐม นครปฐม

ราคา 10.00 บาท

กุหลาบเลื้อยสีแดง
กุหลาบเลื้อยสีแดง สิงหนคร สงขลา

ราคา 150.00 บาท

	 ต้นกุหลาบ
ต้นกุหลาบ ปทุมธานี

ราคา 90.00 บาท /ต้น

 ต้นกุหลาบ
ต้นกุหลาบ นครนายก

ราคา 90.00 บาท /ต้น

กุหลาบ แคระ ในขวดครับ
กุหลาบ แคระ ในขวดครับ สันทราย เชียงใหม่

ราคา 100.00 บาท

กล้าดอกกุหลาบ
กล้าดอกกุหลาบ พบพระ ตาก

กุหลาบ
กุหลาบ หนองหาน อุดรธานี

ราคา 30.00 บาท /ต้น

ต้นกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ ร้านต้นไม้ที่เชียงดาว
ต้นกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ ร้านต้นไม้ที่เชียงดาว เชียงดาว เชียงใหม่

ราคา 50.00 บาท /100ต้นขึ้นไป

จังหวัดที่ขายต้นกล้ากุหลาบ

ชลบุรี (1 ร้าน)

เชียงใหม่ (5 ร้าน)

ตาก (1 ร้าน)

นครนายก (4 ร้าน)

นครปฐม (3 ร้าน)

ปทุมธานี (1 ร้าน)

ปราจีนบุรี (1 ร้าน)

เพชรบุรี (1 ร้าน)

มหาสารคาม (2 ร้าน)

เลย (1 ร้าน)

สงขลา (1 ร้าน)

สมุทรปราการ (2 ร้าน)

สุพรรณบุรี (1 ร้าน)

หนองบัวลำภู (1 ร้าน)

อุดรธานี (1 ร้าน)

ดูสินค้าหมวด ต้นกล้ากุหลาบ ทั้งหมดในเว็บ

ลักษณะเอื้องกุหลาบเหลืองโคราช (3495)

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Aerides houlletiana Rchb.f.   
ตระกูล:    ORCHIDACEAE  
ชื่อพื้นเมือง:    เอื้องกุหลาบเหลืองโคราช, กุหลาบนางรอง
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    เป็นกล้วยไม้ที่มีลักษณะการเจริญเติบโตทางยอด (Monopodial) ต้นมักจะขึ้นตรงหรือเอนห้อยลง ขนาดประมาณ 12-30 ซม
    ใบ    แผ่นใบหนาและ แข็งสีเขียวสด เรียงตัวเว้นระยะระหว่างใบเล็กน้อย ปลายใบตัด มีรอยเว้าสองแฉกไม่เท่ากัน กว้างประมาณ 3 ซม. ยาวประมาณ 15 ซม.
    ดอก    เป็นช่อห้อยลง ยาวประมาณ 15-30 ซม. มีดอกช่อละ 15-20 ดอก กลีบดอกสีเหลืองอมส้ม มีสีม่วงบริเวณปลายกลีบดอก หลังดอก และเห็นสีม่วงชัดบริเวณปากดอก
    ราก    เป็นแบบรากอากาศ (epiphytic)   
ฤดูกาลออกดอก:    เมษายน – พฤษภาคม   
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:    ดอกมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นตะไคร้ หรือมีบางคนกล่าวว่ามีกลิ่นหอมแบบเปรี้ยวๆ
การใช้ประโยชน์:    ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:    ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
แหล่งที่พบ:    พบตามป่าดิบแล้งทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ความสำคัญ:    ถูกค้นพบและนำไปจดขึ้นทะเบียนในปี 1872 โดยนักชีววิทยาชาวเยอรมัน Heinrich Gustav Reichenbach

*ในการคัดพันธุ์ควรเลือกสีเหลืองเข้มเป็นหลักเพราะกล้วยไม้สกุลนี้ ในประเทศไทยมีชนิดนี้เพียงชนิดเดียวที่ดอกมีสีเหลือง

ลักษณะของกุหลาบกระเป๋าเปิด (3508)

ชื่อวิทยาศาสตร์:    Aerides falcata   Lindl.  
ตระกูล:    ORCHIDACEAE 
ชื่อพื้นเมือง:    กุหลาบกระเป๋าเปิด, พวงกุหลาบ,เอื้องกุหลาบหลวง, เอื้องกุหลาบป่า
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น    ยอดเลื้อยทอดทรงโปร่งตั้งตรงหรือเอน ลำต้นส่วนที่ใบร่วงแล้วจะห้อยลง พวกที่ห้อยลงยาวได้ถึง 1 เมตร ส่วนยอดจะตั้งขึ้น ลำต้นเป็นข้อปล้อง สามารถแตกเป็นยอดใหม่ได้ ทำให้เป็นกล้วยไม้ที่มีกอขนาดใหญ่
    ใบ    แบน หนา ผิวเรียบเป็นมัน ปลายใบยาวเรียว อวบน้ำ กว้างประมาณ 2-4 ซม. ยาวประมาณ 15-30 ซม. ปลายใบมนและเว้าตรงกลางเล็กน้อย
    ดอก    เป็นช่อ ออกดอกคราวละหลายช่อ แต่ละช่อมีหลายดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 20-40 ซม. ดอกโตประมาณ 2.5 ซม. แต่ละช่อดอกจะบานพร้อมกันและช่อจะห้อยลง ช่อรูปทรงกระบอก กลีบปากมี 3 แฉก เปิดกว้าง ริมแผ่นปากเป็นฝอย มีลายสีม่วงแดงแล้วจางเป็นสีขาว พื้นกลีบดอกเป็นสีขาว มีแต้มสีม่วงอมชมพูที่ปลายกลีบ ลักษณะกลีบทั้งสองคู่งุ้มมาข้างหน้า
    ราก    เป็นแบบรากอากาศ (epiphytic)  
ฤดูกาลออกดอก:    เมษายน – พฤษภาคม  
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:    ดอก
การใช้ประโยชน์:    ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:    ไทย เมียนม่าร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย
แหล่งที่พบ:    พบตามป่าทั่วทุกภาค


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุหลาบ (3518)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Rosa spp.
ชื่อวงศ์:  Rosaceae
ชื่อสามัญ:  Rose
ลักษณะทั่วไป:
        ต้น  ไม้พุ่มขนาดเล็ก  แต่บางชนิดมีขนาดใหญ่หรือเป็นไม้เลื้อย เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นและกิ่งมีหนาม เปลือกสีเขียว
   ใบ  เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 5-9 ใบ ออกลับกัน ใบรูปไข่ กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 5-10 ซม.  ปลายใบแหลม  โคนใบมน  ขอบใบจักฟันเลื่อย  แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันและมีรอยย่นเล็กน้อย
        ดอก  เป็นดอกเดี่ยว หรือดอกช่อ กลีบดอกแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ กลีบดอกชั้นเดียว จะมี 5 กลีบ ยกเว้นบางชนิดที่มีเพียง 4 กลีบ คือ Rosa sericea  และ  Rosa omeiensis  ส่วนกลีบดอกกึ่งซ้อนมี 6-20 กลีบ กลีบดอกซ้อนมีตั้งแต่ 20 กลีบไปจนถึง 50-60 กลีบ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ สีเขียวหรือสีเขียวอมแดงเรื่อ  เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก อับเรณูสีเหลืองล้อมรอบเกสรเพศเมียซึ่งรวมเป็นกระจุกอยู่กลางดอก  และจะอยู่ในระดับต่ำกว่าเกสรเพศผู้
        ฝัก/ผล  เป็นผลกลุ่ม ผลแก่แห้ง เมื่อเริ่มติดผลส่วนที่เป็นรังไข่จะขยายพองโตขึ้นโดยมีฐานรองดอกหุ้มไว้ ภายในประกอบด้วยผลย่อยจำนวนสองถึงหลายสิบผล ผลมีรูปร่างต่างๆ กัน ตามชนิด เช่น กลม กลมแป้น ยาวรี มีเนื้อนุ่ม และมีหลายสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล
        เมล็ด  เมล็ดล่อน (achene) ค่อนข้างกลม รูปไข่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 มม. เมล็ดอ่อนสีขาวอมเขียว ที่ปลายมีสีแดง เมล็ดแก่สีน้ำตาล จำนวน 2-18 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก:  ตลอดปี โดยเฉพาะ ธ.ค.-มี.ค.
การปลูก:  ปลูงลงกระถางหรือลงแปลงประดับสวน
การดูแลรักษา:  ชอบดินที่เป็นกรดเล็กน้อย อากาศเย็น
การขยายพันธุ์:  เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง ติดกิ่ง ติดตา หน่อ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม:  ดอก
การใช้ประโยชน์:  
        -    ตัดดอกประดับแจกัน
        -    กลีบดอกแรกแย้มสกัดได้น้ำมันหอมระเหยใช้แต่งกลิ่น โดยเฉพาะ เครื่องสำอาง
        -    ร้อยมาลัย และบุหงา
ถิ่นกำเนิด:  กุหลาบอยู่ในสกุล Rosa  มีอยู่ประมาณ 125 ชนิด มีถิ่นกำเนิดในเอเซียประมาณ 95 ชนิด ในอเมริกา 18 ชนิด ส่วนที่เหลือมีถิ่นกำเนิดในยุโรปหรือตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา
สรรพคุณทางยา:
        -    ดอก มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ขับน้ำดี
        -    ผล มีวิตามินซีมาก

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย:
- ร้านไผ่เงินเจริญทรัพย์ http://www.nanagarden.com/Supplier-Home.aspx?SupplierID=1287

พันธุ์กุหลาบที่ใช้ปลูกเป็นไม้มงคล (3519)

1. พันธุ์กุหลาบสีขาว ได้แก่
        - Misty Morn
        - Blanche Mallerine
        - White Christmas

2. พันธุ์กุหลาบดอกสีเหลือง ได้แก่
        - King s Ransom
        - Golden Master Piece

3. พันธกุหลาบดอกสีแดง ได้แก่
        - Christian Dior
        - Swarthmore
        - Scarlet Knight

4. พันธุ์กุหลาบดอกสีชมพู
        - Bel Ange
        - Queen Elizabeth

5. พันธุ์กุหลาบดอกสีแสด ได้แก่
        - Super Star
        - Tanya

6. พันธุ์กุหลาบดอกสีม่วง
        - Blue Moon

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย :
- ร้านไผ่เงินเจริญทรัพย์ http://www.nanagarden.com/Supplier-Home.aspx?SupplierID=1287

กุหลาบในประเทศไทยมีกี่ประเภท (3520)

โดยทั่วไปแล้วแยกได้เป็น 8 ประเภท คือ

กุหลาบดอกเดี่ยว หรือตัดดอก (Hybird Teas)
    ปกติมัก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวมีขนาดโต กลีบดอกซ้อน พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1-2 เมตร กุหลาบที่มีขายทั่วไป ตามท้องตลาดขณะนี้มักจะเป็นกุหลาบประเภทนี้ อย่า งไร ก็ตาม พันธุ์ ไฮบริดที นั้น มิได้ใช้บลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดีทุกพันธุ์ ดังนั้น จำเป็น ต้องคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมสำหรับแต่ละท้องที่ ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับจะใช้ เป็นพันธุ์สำหรับตัดดอก คือ

1. แข็งแรง ต้นโต เลี้ยงง่ายและเจริญเติบโตได้ดี
2. ออกดอกสม่ำเสมอไม่โทรมไวเมื่อถูกตัดดอกไปมาก ๆ
3. ทนต่อโรคและแมลงได้ดีพอสมควร
4. ลำต้นตั้งตรง ซึ่งจะทำให้ปลูกได้ชิดกันเป็นการประหยัดเนื้อที่
5. ให้กิ่งก้านยาวตรง มีหนามน้อย ใบงามสมดุลกับกิ่ง
6. ฟอร์มดอกดี ทรงดอกยาวแบบแจกันหรือปลายกลีบดอกแหลม
7. กลีบดอกไม่ซ้อนหนาเกินไปจนดอกบานไม่ออก
8. กลีบดอกหนา ทนต่อการบรรจุหีบห่อและขนส่ง
9. ดอกมีสีสะดุดตาและไม่เปลี่ยนสีเมื่อดอกโรย
10. ไม่เหี่ยวเฉาง่ายหลังจากตัดแล้ว
11. ดอกมีกลิ่นหอม (ถ้าเป็นไปได้)

ปัจจุบันกุหลาบที่นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอกในประเทศไทยมีอยู่มากมายหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูกมีดังนี้

พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์บราโว. เรดมาสเตอร์พีช, คริสเตียนดิออร์, โอลิมเปียด, นอริค้า, แกรนด์มาสเตอร์พีช, ปาปามิลแลนด์, เวก้า

พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์คิงส์แรนซัม, ซันคิงส์, เฮสมุดสมิดท์, นิวเดย์ โอรีโกลด์ และเมลิลอน

พันธุ์ดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์ซันดาวน์เนอร์, แซนดรา, ซุปเปอร์สตาร์หรือทรอพปิคานา

พันธุ์ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย, คาสลาส, ไอเฟลทาวเวอร์, สวาทมอร์, เฟรนด์ชิพ, เพอร์ฟูมดีไลท์, จูวังแซล, เฟิร์สท์ไพรซ์, อเควเรียส, ซูซานแฮมเชียร์

พันธุ์ดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา

พันธุ์ดอกสีอื่นๆ ได้แก่ พันธุ์แยงกี้ดูเดิ้ล, ดับเบิ้ลดีไลท์, เบลแอนจ์

นอกจากนี้ยังมีกุหลาบสำหรับเด็ดดอกร้อยพวงมาลัย เช่น กุหลาบพันธุ์ฟูซิเลียร์ ซึ่งมีดอกสีส้ม
 
กุหลาบพวง (Floribundas)
    กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัด ดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอกแต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูง ประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถางเช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์, พันธุ์แองเจลเฟส

กุหลาบพวงดอกใหญ่ (Grandifloras)
    กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่าง กุหลาบตัดดอก และกุหลาบพวง มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว แต่ดอกเล็กกว่ากุหลาบตัดดอก มีก้านยาว ต้นโต สูง และแข็งแรง เช่ น พันธุ์คาเมล็อท, พันธุ์คาเสทไนท์

กุหลาบหนู ( Miniatures)
    เป็นกุหลาบที่มีขนาดพุ่มต้นเล็ก สูง 1- 2 ฟุต ออกดอกเป็นพวงและดอกมีขนาดเล็ก นิยมปลูกประดับแปลง และใช้เป็นไม้กระถาง เช่น พันธุ์เบบี้ มาสเคอร์เหรด

กุหลาบเลื้อย (Climbers)
    กุหลาบชนิดนี้ลำต้นสูงตรง นำไปเลื้อยพันกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดอกมีทั้งเป็นดอกขนาดใหญ่ และดอกเป็นพวง เช่น พันธุ์ดอนจวน , พันธุ์ค็อกเทล

ประเภทโพลีแอนท่า (Polyantha)
    เป็น กุหลาบลูกผสมระหว่างพันธุ์โรซ่า มัลติฟอร่า กับ โรซ่า ไชเนนซิสมีขนาดพุ่มต้นเตี้ย แข็งแรงและทนทานมาก ออกดอกเป็นพวงคล้ายกุหลาบพวง ลักษณะดอกและต้นคล้ายกุหลาบหนูแต่จะแตกต่างกับกุหลาบหนูตรงที่กุหลาบโพลีแอ นท่าจะมีหูใบที่มีลักษณะของพันธุโรซ่า มัลติฟลอร่า กุหลาบประเภทนี้ เช่น พันธุ์วายวอน ราเบีย

ประเภทแรมเบลอร์ (Rambler)
    มีลำต้นยาวและอ่อนโค้งออกดอกเป็นพวง และดอกมีขนาดเล็ก เช่น พันธ์ไดโรที เปอร์กิน

กุหลาบพุ่ม หรือซรับโรส (Shrub)
    ได้แก่กุหลาบพันธุ์ป่าหรือลูกผสมของ พันธุ์ป่า ซึ่งมีทรงต้นเป็นพุ่ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีขนาดเล็กส่วนมากมีกลีบชั้นเดียว เช่น พันธ์โรซ่า นิติด้า , โรซ่า มัลติฟลอร่า, โรซ่า รูโกซ่า

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย:
    - ร้านไผ่เงินเจริญทรัพย์ http://www.nanagarden.com/Supplier-Home.aspx?SupplierID=1287

ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุหลาบพันปี (3521)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Rhododendron arboreum subsp.
ชื่อวงศ์:  ERICACEAE
ชื่อพื้นเมือง:  คำแดง
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 2-12 เมตร  ไม่ผลัดใบ ลำต้นและกิ่งก้านมักคดงอเพราะอิทธิพลของแรงลม เปลือกตะปุ่มตะป่ำ
    ใบ  เรียงเวียนสลับใกล้ๆ กันเป็นกลุ่มที่ปลายกิ่ง 5-8 ใบ ใบรูปใบหอกกว้าง หรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว 7-14 ซม. ปลายแหลม โคนสอบหรือมน ขอบเรียบงอลง แผ่นใบหนามาก ด้านบนเกลี้ยงสีเขียวสด ด้านล่างมีเกล็ดสีเทาอมน้ำตาลและมีขนหนาแน่น เส้นแขนงใบข้างละ 12-14 เส้น
    ดอก  ช่อดอกสั้น ออกตามปลายกิ่ง 4-12 ดอก ดอกบานเต็มที่กว้าง 3.5-4.5 ซม. กลีบดอกสีแดงเลือดนก ติดกันคล้ายรูประฆัง ยาว 1.5-2 ซม. ปลายแยกเป็น 5-6 กลีบ กลม กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 1.3-1.5 ซม. เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ก้านชูอับเรณูสีขาว โคนก้านสีม่วงอมแดง รังไข่มีขนสีขาวหนาแน่น
    ฝัก/ผล  รูปทรงกระบอก กว้าง 6-7 มม. ยาว 1.3-1.6 ซม. ผลแก่แตกเป็น 7-8 เสี่ยง
    เมล็ด   แบน เล็กมาก มีปีกบางใสล้อมรอบ มีเมล็ดจำนวนมาก
ฤดูกาลออกดอก:  มกราคม - กุมภาพันธ์
ถิ่นกำเนิด: ขึ้นตามไหลเขาบนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,800 เมตรขึ้นไป จีนตอนใต้ อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และพม่า
แหล่งที่พบ:  เชียงใหม่


กุหลาบพันปีในประเทศไทยมีกี่ชนิด (3522)

กุหลาบพันปี เป็นไม้ในวงศ์ : ERICACEAE ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ กุหลาบ ( วงศ์ ROSA ) ที่ เรารู้จักกัน แต่เนื่องจากมีดอกสีแดง เหมือนกุหลาบ และลำต้นที่มีมอสเกาะ คล้ายกับมีอายุเป็นพันปี จึงเรียกไม้ชนิดนี้กันว่า กุหลาบพันปี ที่ดอยอินทนนท์ พบอยู่ 3 ชนิดคือ
 
1. ดอกสีแดง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีชื่อท้องถิ่นว่า คำแดง ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า : Rhododendron arboreum subsp. delavayi ( Franch.) Chamberlain มีลำต้นสูง 2 - 12 เมตร ลำต้นและกิ่งคดงอมีขนาดใหญ่ ใบเป็นรูปหอกกลับ ( คล้ายใบขนุน) ใบหนา ลักษณะเด่นที่ต่างจากกุหลาบพันปีดอกสีขาวคือ ที่ลำต้นมีเปลือกหนา จะพบได้ตั้งแต่พื้นที่ ที่มีอากาศหนาวเย็น และความชื้นสูง เมืองไทยพบที่ดอยอินทนนท์ ที่เดียว ตั้งแต่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,800 เมตร ขึ้นไป ดอกเป็นช่อ ช่อละ 4 - 12 ดอก ออกดอกในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน ธันวาคม ถึง กุมพาพันธ์ . และถือว่าเป็นต้นไม้ประจำชาติเนปาล

2. ดอกสีขาว เป็นไม้พุ่ม ชื่อท้องถิ่นเรียก คำขาว หรือ กุหลาบป่า ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า : Rhododendron moulmeinene Hook มีลำต้นสูง 2 - 8เมตร ลำต้นและกิ่งคดงอมีขนาดใหญ่ ใบเป็นรูปหอกกลับ ( คล้ายใบขนุน) ใบหนา ลักษณะดอกจะแตกต่างจาก กุหลาบพันปีสีแดงคือ ดอกสีขาวมีขนาดใหญ่กว่า แต่จำนวนดอกในแต่ละช่อ จะมีจำนวนน้อยกว่า ( 4 - 8 ดอก )จะพบได้ตั้งแต่พื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตร ขึ้นไป นอกจากนี้ ยังพบที่ บริเวณยอดเขา อุทยานแห่งชาติ เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช อีกด้วย ดอกออกในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน ธันวาคม ถึง กุมพาพันธ์ จะพบเห็นได้เต็มสองข้างทาง ตั้งแต่ กม. 42 ขึ้นมา ส่วนดอกสีแดงนั้น จะพบได้ในป่า บริเวณกิ่วแม่ปาน หรือ อ่างกา

3. ดอกสีขาว เป็นจำพวกกาฝาก ชื่อท้องถิ่นเรียก กายอม หรือ กุหลาบขาว ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า : Rhododendron veitchianum Hook มีลำต้นสูง 2 - 3 เมตร ลำต้นและกิ่งคดงอ ใบเป็นรูปใข่กลับ ใบหนา อาศัยเกาะอยู่กับต้นไม้ใหญ่ ซอกหิน หรือโขดหิน ที่มีความชุ่มชื้นสูง จะพบได้ตั้งแต่พื้นที่ ป่าดิบเขา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตร ดอกออกในช่วงเริ่มเข้าฤดูหนาว ระหว่างเดือน ตุลาคม ถึง มีนาคม

หมายเหตุ  Rhododendron arboreum แบ่งออกได้เป็น 5 ชนิดย่อย (subspecies) มีตั้งแต่สีขาว สีชมพู และสีแดงเข้ม และชนิดย่อย delavayi แบ่งออกเป็นอีก 2 ชนิดย่อย (varieties) คือ var. delavayi และ var. peramoenum ซึ่งมีใบแคบและยาวกว่า และสิ่งปกคลุมใต้ท้องใบไม่หนาแน่น พบเฉพาะที่อินเดียและจีนด้านตะวันตก อนึ่ง ชื่อชนิดย่อย delavayi ตั้งเป็นเกียรตินักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส P?re Jean Marie Delavay (1834 - 1895)


ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุหลาบหิน (3523)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Kalanchoe blossfeldiana Poellnitz
ชื่อวงศ์:  CRASSULACEAE
ชื่อสามัญ:  Flaming Katy
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้ล้มลุก อวบน้ำอายุหลายปี ลำต้นสูง 20-50 ซม.
    ใบ  ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก สีเขียวหรือเขียวอมแดง รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 2-6.5 ซม. ยาว 3.5-9 ซม. ปลายมน โคนตัดหรือมน ขอบหยักห่างๆ แบบซี่ฟันตื้นๆ แผ่นใบหนาและอวบน้ำ ขอบใบและก้านใบสีค่อนข้างแดง เส้นใบเห็นไม่ชัด ก้านใบยาว 1-2.5 ซม.
    ดอก  ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะแยกแขนง ออกที่ยอด ยาว 10-20 ซม. มีใบประดับขนาดเล็ก รูปไข่หรือรูปรี ก้านดอกยาว 2-3 มม. กลีบเลี้ยง 4 กลีบ โคนกลีบกว้างประมาณ 1 มม. ยาวประมาณ 5 มม. ปลายกลีบเรียวแหลม สีเขียวหรือเขียวแกมแดง กลีบดอกโคนติดกันเป็นหลอดสีเขียว รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 7-8 มม. โคนหลอดพองออกเล็กน้อย ปลายแยกเป็นกลีบสีแดง 4 กลีบ รูปไข่กลับ ปลายแหลมเป็นติ่งสั้นๆ กว้างประมาณ 3 มม. ยาวประมาณ 4 มม. เกสรเพศผู้ขนาดเล็ก มี 8 อัน เรียงเป็น 2 วง สลับกับกลีบดอก 4 อัน และอยู่ตรงข้ามกับกลีบดอก 4 อัน ไม่มีก้านชูอับเรณูติดอยู่ภายในหลอดดอก เกสรเพศเมีย 4 อัน แยกกัน รังไข่สีเขียว อยู่เหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียสีเหลืองอ่อน ยอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาล ปัจจุบันมีพันธุ์ที่เป็นพุ่มเตี้ยกะทัดรัด ใบขนาดเล็ก และมีดอกสีต่างๆ เช่น ชมพู ส้ม เหลือง ฯลฯ
    ฝัก/ผล  ฝักแตกด้านเดียว
    เมล็ด  จำนวนมาก
ฤดูกาลออกดอก:  พฤศจิกายน - มีนาคม
การปลูก:  ปลูกทั้งในและนอกอาคาร แต่ปลูกได้ดีเมื่ออยู่ ในกลางแจ้ง เพราะเป็นพืชชอบแดด ปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิดโดยเฉพาะในดินร่วนปนทราย
การดูแลรักษา:  ควรตั้งไว้ในที่แสงอย่างเพียงพอหรือแสงแดดส่องถึงให้น้ำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ก็เพียงพอ ใช้ปุ๋ยหมักหรืปุ๋ยคอกละลายน้ำรดในช่วงที่กำลังออกดอก
การใช้ประโยชน์:  ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด:  มาดากาสการ์

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย:
    - ร้านไผ่เงินเจริญทรัพย์ http://www.nanagarden.com/Supplier-Home.aspx?SupplierID=1287

กุหลาบเป็นไม้มงคล (3524)

ความมงคล:
    กุหลาบ เป็นต้นไม้ที่ผู้คนทั่วไปต่างรู้จักดี เพราะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความงดงามของดอกกุหลาบนั้น ดึงดูดใจและยังมีกลิ่นหอมจับใจอีกด้วย  กุหลาบเป็นต้นไม้ที่มีดอกหลายสีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีแสด และสีม่วง  ดอกกุหลาบได้รับการขนานนามให้เป็น “ราชินีแห่งดอกไม้” เพราะมีรูปลักษณ์ และสีสันที่สวยงามจับตาของผู้พบเห็น  คนโบราณเชื่อว่าหากครอบครัวใดปลูกกุหลาบเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มความสง่างาม และโรแมนติกให้แก่บรรยากาศบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะดอกกุหลาบที่ชูช่อบานนั้น จะสวยงามโดดเด่นจนใครๆ ต่างก็ชื่นชม  ยังเชื่อกันอีกว่าหากปลูกต้นกุหลาบ สมาชิกทุกคนภายในบ้านก็จะมีโชคลาภ มีชีวิตที่ดี มีความฉลาดปราดเปรื่อง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
-    เป็นต้นไม้ประจำคนเกิดวันอาทิตย์ ควรเป็นกุหลาบดอกสีเหลือง หรือส้ม หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม
-    เป็นต้นไม้ประจำคนเกิดวันพุธ ควรเป็นกุหลาบดอกสีเหลือง
-    เป็นต้นไม้ประจำคนเกิดวันพฤหัส ควรเป็นกุหลาบดอกสีขาว
-    เป็นต้นไม้ประจำคนเกิดวันศุกร์ ควรเป็นกุหลาบดอกสีแดงหรือชมพู
-    เป็นต้นไม้ประจำราศีมังกร เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา
-    เป็นต้นไม้ประจำราศีเมถุน เพื่อความสง่าภาคภูมิ

ตำแหน่งที่ปลูก:
    กุหลาบเป็นราชินีแห่งอุทยาน ดังนั้น ผู้ที่เหมาะจะลงมือปลูกกุหลาบ ก็ควรจะเป็นสุภาพสตรี เพราะมีความอ่อนโยน และงดงามเหมือนดอกกุหลาบ  ควรปลูกกุหลาบไว้ทางทิศตะวันออก เพราะต้นกุหลาบจะเจริญงอกงามให้ดอกที่มีสีสันสดสวย เมื่อได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า  วัน พุธ เป็นวันที่เหมาะจะลงมือปลูกกุหลาบที่สุด เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่ให้ดอกสวยงามเพิ่มเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้น ควรปลูกในวันพุธ ต้นไม้จึงจะมีพลังในการเพิ่มสิริมงคลให้แก่ครอบครัว

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย:
    ร้านไผ่เงินเจริญทรัพย์ http://www.nanagarden.com/Supplier-Home.aspx?SupplierID=1287

ปลูกกุหลาบเป็นอาชีพ (3758)

เงินลงทุน
ประมาณ 35,000 บาท/ไร่ (ไม่รวมค่าที่ดิน) ต้นกุหลาบที่ได้จากการชำกิ่ง ราคาต้นละ 5-8 บาท

รายได้
ประมาณ 45,000 บาท/ไร่/เดือน

อุปกรณ์
ที่ดิน ต้นกุหลาบ จอบ เสียม พลั่ว กรรไกรตัดแต่งกิ่ง ปุ๋ย

แหล่งจำหน่าย ตลาดจตุจักร, ตลิ่งชัน, คลอง 15 อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

วิธีดำเนินการ

รูปแบบการปลูก
1. ปลูกบนร่องสวน แต่ละแปลงปลูกไม่เกิน 3 แถว
2. ปลูกกลางแจ้งหรือปลูกใต้หลังคาพลาสติก แปลงปลูกกว้างประมาณ 1 เมตร แต่ละแปลงปลูก 2 แถว เว้นทางเดิน 50 เซนติเมตร

วิธีปลูก
    เตรียมแปลงดินลึก 50 ซ.ม. ใส่ปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต 250 กิโลกรัม/100 ตารางเมตร ปุ๋ยโปแตสเซียมไนเตรท 60 ก.ก./100 ตร.ม. ปรับเนื้อดินให้ร่วนโดยใส่เปลือกถั่วปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยคอกเก่าๆ 60 ก.ก./100 ตร.ม. แล้วนำต้นกุหลาบปลูกลงดิน กดดินรอบต้นให้แน่นเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้รากเจริญ แล้วรดน้ำตามทันที เพราะกุหลาบต้องการความชื้นสูง ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวันถ้าสภาพดินชุ่มชื้นพอ ไม่ควรรดน้ำให้โดนใบ เพราะโรคที่อยู่ตามใบหรือกิ่งอาจ แพร่กระจายได้
    ในระยะแรกของการปลูก ควรใส่ปุ๋ยเคมีที่มีไนโตรเจนสูง ทุก 15 หรือ 30 วัน 1 กำมือ/ต้น โดยพรวนดินตื้น ๆ แล้วโรยปุ๋ยกระจายรอบ ๆ ต้น จากนั้นรดน้ำตาม เมื่อกุหลาบเริ่มให้ดอกควรใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมสูงควบคู่กัน เพื่อเร่งดอก

การกำจัดวัชพืช
ใช้แรงคนเก็บถอนหรือใช้สารเคมีฉีดพ่น โดยระวังไม่ให้ถูกต้นหรือใบกุหลาบ

การขยายพันธุ์
นิยมทำ 3 วิธี คือ การตัดชำ การตอน และการติดตา การใช้ต้นพันธุ์จากการติดตาปลูกจะได้ระบบรากที่ดีและแข็งแรง แต่มีราคาแพง

การตัดแต่งกิ่ง
เมื่อตากุหลาบเริ่มแตควรเด็ดยอดเหนือใบสมบูรณ์ใบที่สอง เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน เพื่อให้กิ่งกระโดงแตกตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่มกุหลาบโปร่งและไม่สูงเกินไป ควรตัดดอกกุหลาบในระยะที่ยังหุบแน่นที่สุด แต่สามารถบานได้เมื่อปักแจกันใส่น้ำธรรมดา และตัดในช่วงเช้าหรือเย็น ไม่ควรริดใบหรือหนามออก หลังจากตัดดอกแล้ว นำไปแช่ในน้ำอุ่น อุณหภูมิ 41-43 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ดอกกุหลาบดูดน้ำได้เต็มที่

ก่อนที่จะนำกุหลาบส่งไปขายต้องมีการคัดเกรด ดังนี้
- เกรดพิเศษ ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 60 เซนติเมตร ขึ้นไป
- เกรดเอ ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 50 เซนติเมตร
- เกรดบี ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 40 เซนติเมตร
- เกรดซี ความยาวก้านดอกตั้งแต่ 30 เซนติเมตร

ดอกที่มีความยาวก้านดอกน้อยกว่า 30 เซนติเมตร ถือว่าเป็นดอกตกเกรดหลังจากนั้น จึงนำมาเข้ามัดโดยจัดให้ส่วนบนของดอกเสมอกัน ห่อด้วยกระดาษและตัดก้านให้เสมอกัน จำนวนดอกในแต่ละมัดขึ้นอยู่กับขนาดดอกและความต้องการของตลาด

ตลาดจำหน่าย
ตลาดสด ปากคลองตลาด ร้านจัดดอกไม้สด

ข้อแนะนำ
1. ควรมีการคลุมแปลงปลูกกุหลาบ โดยใช้วัสดุง่าย เช่น หญ้าแห้ง ฟางข้าว ซังข้าวโพด เป็นต้น เพื่อรักษาความชื้น อุณหภูมิ รวมทั้งเพิ่มความโปร่งของดินและป้องกันวัชพืช
2. การเก็บรักษาดอก มี 2 วิธี คือ
- นำไปแช่ในน้ำยารักษาสภาพดอกไม้ อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เก็บได้นาน 4-5 วัน
- ใส่กล่องรองด้วยพลาสติกเก็บไว้ในห้องเย็น อุณหภูมิ 0.5-3 องศาเซลเซียส เก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์
3. ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกกุหลาบได้ที่ กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2561-4879

สถานที่ฝึกอบรม
สำนักงานเกษตรจังหวัด, สำนักงานเกษตรอำเภอ

สถานที่ขอคำปรึกษา
กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2561-4879

เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน

วิธีการปลูกต้นกุหลาบหิน (3760)

กุหลาบหินหรือกาลังโช เป็นไม้ประดับกระถาง  เป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกทั้งในและนอกอาคาร บางคนนิยมปลูกกุหลาบหินเป็นไม้มงคล เพื่อถือเคล็ดว่าปลูกแล้วจะรำรวยเป็นเศรษฐี

   

วิธีการปลูก ต้นกุหลาบหินเป็นพรรณไม้ที่ต้องปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด จะปลูกได้ในดินร่วนปนทราย ส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน  และนิยมขยายพันธุ์โดยการปักชำยอดหรือปักชำใบ เพราะเมล็ด

   

การดูแลรักษา ต้นกุหลาบหินจะออกดอกประมาณ 2 - 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว แม้ดอกจะเล็ก แต่สีสันสะดุดตามาก แนะว่าควรให้น้ำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง  ส่วนช่วงที่กำลังออกดอกให้ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดในช่วงที่กำลัง ออกดอก

เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย www.dailynews.co.th