เบญจมาศมีกี่ประเภท (3601)
แยกตามประโยชน์ใช้สอยและการปลูก
ปฏิบัติ ได้ 4 ประเภท ดังนี้
1. Exhibition type เป็นเบญจมาศที่มีดอกขนาดใหญ่ ลำ ต้นสูงประมาณ 1 เมตร ไม่มีการเด็ดยอดแต่ต้องเด็ดตาข้าง ทิ้งเพื่อให้เหลือดอกยอดเพียง 1 ดอก
2. Standard type มีดอกเล็กกว่าประเภท แรก ต้องเด็ดยอดเพื่อให้แตกกิ่งข้าง 3-4 กิ่ง และเด็ดดอกข้างทิ้งให้เหลือดอกยอดเพียงดอกเดียว นิยมใช้เป็นไม้ตัดดอก
3. Spray type เบญจมาศประเภทนี้เป็นประเภทที่มีหลายดอกต่อ 1 กิ่ง และมี 6-10 กิ่งต่อต้นไม่มีการเด็ดดอกข้าง ดอกมีขนาดเล็กกว่าประเภท Standard type ใช้ปลูกเป็นไม้ตัดดอกหรือถอนขายทั้งต้นโดยตัดรากทิ้ง
4. Potted plant เบญจมาศประเภทนี้ใช้ปลูกเป็นไม้กระถาง มีทรงพุ่มกะทัดรัด ดอกดก และมีดอกขนาดเล็กแตกกิ่งก้านมาก
พันธุ์เบญจมาศที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ได้แก่
สีเหลือง : พันธุ์หลืองไข่, เหลืองเขี้ยว, เหลืองตาก, เหลืองอินทนนท์, เหลืองเกษตรสีขาว : พันธุ์ขาวการะเกด, ขาวตาก, ขาวเกษตร นอกจากนี้ยังมีการนำ พันธุ์ใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาปลูกอีกด้วย
ประเภทของพันธุ์เบญจมาศ ที่จำแนกตามรูปทรง
รูปทรงของเบญจมาศนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของกลีบดอก และการจัดเรียงตัวของกลีบดอก มีแบบต่างต่างๆดังนี้
1. ซิงเกิ้ล (Singles) หรือดอกชั้นเดียวมีลักษณะคล้ายดอกเดซี่ ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอก 1-2 ชั้น และกลีบดอกชั้นในแบนราบอยู่ส่วนกลางของดอก เช่น พันธุ์ เรแกน ไวท์ (Reagan White - สีขาว) โรสควีน (Rose Queen - ชมพู / ไส้เขียว) จูโน (Juno - สีชมพู ) โกลเด้น วา ลังเกน (Golden van Langan - สีเหลือง ) เป็นต้น
2. อมีโมน (Anemones) ลักษณะ คล้ายดอกชั้นเดียว แต่กลีบดอกชั้นในยาวกว่า โดยจะยืด ออก และมีลักษณะเป็นหลอดทำให้ส่วนกลางช่อดอกโป่งขึ้น บางครั้งกลีบดอกชั้น ในมีสีต่างไปจากกลีบดอก ชั้นนอก เช่น พันธุ์พูม่า (Puma - สีขาว) ซันนี่ พูม่า (Sunny Puma - สีเหลือง)
3. สไปเดอร์ (Spiders) หรือแมงมุม ประกอบด้วยกลีบชั้นนอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีลักษณะ เรียว เล็ก และปลายโค้งคล้ายขาแมงมุม เช่น พันธุ์ เวสต์แลนด์วินเทอร์ (Westland Winter - ขาว) และเวส แลนด์รีเกิ้ล (Westland Regal - ชมพู) เป็นต้น
4. ปอมปอน (Pompon) มี ลักษณะเป็นลูกกลมคล้ายลูกฟุตบอล ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอก ที่มีขนาดเท่าๆกัน โดยไม่ปรากฎให้เห็นกลีบดอกชั้นใน เช่น พันธุ์ กรีนพี (Green Pea - สีเขียว) โกลด์พี (Gold Pea - สีเหลือง)
5. เดคเคอเรทีฟ (Decoratives) หรือ ดอกซ้อน มีลักษณะคล้ายปอมปอน เพราะประกอบด้วย กลีบดอกชั้นนอกเป็นส่วนใหญ่ แต่กลีบดอกชั้นนอกๆยาวกว่าชั้นใน ทำให้ดูแบนกว่า เช่น พันธุ์ ฟิจิไวท์ (Fiji White - สีขาว) ฟิจิ ดาร์ค (Fiji Dark - สีชมพู)
6. พวกดอกใหญ่ (Large Floeered) ดอกที่บานแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่า 4 นิ้ว ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่เห็นกลีบดอกชั้นใน เช่น ไรวารี่ (Rivalry) ไข่ดาว (lnga) ปิงปอง (Ping pong)
ปฏิบัติ ได้ 4 ประเภท ดังนี้
1. Exhibition type เป็นเบญจมาศที่มีดอกขนาดใหญ่ ลำ ต้นสูงประมาณ 1 เมตร ไม่มีการเด็ดยอดแต่ต้องเด็ดตาข้าง ทิ้งเพื่อให้เหลือดอกยอดเพียง 1 ดอก
2. Standard type มีดอกเล็กกว่าประเภท แรก ต้องเด็ดยอดเพื่อให้แตกกิ่งข้าง 3-4 กิ่ง และเด็ดดอกข้างทิ้งให้เหลือดอกยอดเพียงดอกเดียว นิยมใช้เป็นไม้ตัดดอก
3. Spray type เบญจมาศประเภทนี้เป็นประเภทที่มีหลายดอกต่อ 1 กิ่ง และมี 6-10 กิ่งต่อต้นไม่มีการเด็ดดอกข้าง ดอกมีขนาดเล็กกว่าประเภท Standard type ใช้ปลูกเป็นไม้ตัดดอกหรือถอนขายทั้งต้นโดยตัดรากทิ้ง
4. Potted plant เบญจมาศประเภทนี้ใช้ปลูกเป็นไม้กระถาง มีทรงพุ่มกะทัดรัด ดอกดก และมีดอกขนาดเล็กแตกกิ่งก้านมาก
พันธุ์เบญจมาศที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ได้แก่
สีเหลือง : พันธุ์หลืองไข่, เหลืองเขี้ยว, เหลืองตาก, เหลืองอินทนนท์, เหลืองเกษตรสีขาว : พันธุ์ขาวการะเกด, ขาวตาก, ขาวเกษตร นอกจากนี้ยังมีการนำ พันธุ์ใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาปลูกอีกด้วย
ประเภทของพันธุ์เบญจมาศ ที่จำแนกตามรูปทรง
รูปทรงของเบญจมาศนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของกลีบดอก และการจัดเรียงตัวของกลีบดอก มีแบบต่างต่างๆดังนี้
1. ซิงเกิ้ล (Singles) หรือดอกชั้นเดียวมีลักษณะคล้ายดอกเดซี่ ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอก 1-2 ชั้น และกลีบดอกชั้นในแบนราบอยู่ส่วนกลางของดอก เช่น พันธุ์ เรแกน ไวท์ (Reagan White - สีขาว) โรสควีน (Rose Queen - ชมพู / ไส้เขียว) จูโน (Juno - สีชมพู ) โกลเด้น วา ลังเกน (Golden van Langan - สีเหลือง ) เป็นต้น
2. อมีโมน (Anemones) ลักษณะ คล้ายดอกชั้นเดียว แต่กลีบดอกชั้นในยาวกว่า โดยจะยืด ออก และมีลักษณะเป็นหลอดทำให้ส่วนกลางช่อดอกโป่งขึ้น บางครั้งกลีบดอกชั้น ในมีสีต่างไปจากกลีบดอก ชั้นนอก เช่น พันธุ์พูม่า (Puma - สีขาว) ซันนี่ พูม่า (Sunny Puma - สีเหลือง)
3. สไปเดอร์ (Spiders) หรือแมงมุม ประกอบด้วยกลีบชั้นนอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีลักษณะ เรียว เล็ก และปลายโค้งคล้ายขาแมงมุม เช่น พันธุ์ เวสต์แลนด์วินเทอร์ (Westland Winter - ขาว) และเวส แลนด์รีเกิ้ล (Westland Regal - ชมพู) เป็นต้น
4. ปอมปอน (Pompon) มี ลักษณะเป็นลูกกลมคล้ายลูกฟุตบอล ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอก ที่มีขนาดเท่าๆกัน โดยไม่ปรากฎให้เห็นกลีบดอกชั้นใน เช่น พันธุ์ กรีนพี (Green Pea - สีเขียว) โกลด์พี (Gold Pea - สีเหลือง)
5. เดคเคอเรทีฟ (Decoratives) หรือ ดอกซ้อน มีลักษณะคล้ายปอมปอน เพราะประกอบด้วย กลีบดอกชั้นนอกเป็นส่วนใหญ่ แต่กลีบดอกชั้นนอกๆยาวกว่าชั้นใน ทำให้ดูแบนกว่า เช่น พันธุ์ ฟิจิไวท์ (Fiji White - สีขาว) ฟิจิ ดาร์ค (Fiji Dark - สีชมพู)
6. พวกดอกใหญ่ (Large Floeered) ดอกที่บานแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่า 4 นิ้ว ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่เห็นกลีบดอกชั้นใน เช่น ไรวารี่ (Rivalry) ไข่ดาว (lnga) ปิงปอง (Ping pong)