ขั้นตอนการปลูกผักปลอดสารพิษ
สามารถใช้ได้ทั้งกระสอบปุ๋ย กระสอบอาหารสัตว์ กระสอบแป้งสาลี หรือกระสอบต่างๆ ขนาดใดก็ได้ ยกเว้นกระสอบป่านซึ่งไม่เหมาะสม สำหรับกระสอบปุ๋ยบางชนิดที่น้ำซึมผ่านยากนั้น ควรนำมาเจาะรูให้สามารถระบายน้ำได้ก่อน แต่ถ้าเป็นกระสอบที่รั่วน้ำได้ดี ก็นำมาใช้ได้เลยทันที ดินที่จะนำมาใส่กระสอบนั้นก็จะต้องผสมให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเน้นวัสดุปลูกที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ปุ๋ยคอกเก่า ปุ๋ยหมัก แกลบ แกลบเผา เศษใบไม้ ฯลฯ คลุกเคล้าให้เข้ากัน คุณโสทรแนะว่า ถ้าผสมปุ๋ยหมักจุลินทรีย์โบกาฉิผสมได้ด้วยก็จะยิ่งดี วิธีการทำปุ๋ยหมักจุลินทรีย์โบกาฉิคือ นำปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ผสมกับรำละเอียด 1 ส่วน ผสมกับแกลบหรือหญ้าแห้ง ฟางแห้ง ทะลายปาล์ม หรืออื่นๆ 1 ส่วน คลุกเคล้ากันให้ทั่ว จากนั้นนำกากน้ำตาล 40 ซีซี ละลายน้ำ 10 ลิตร ใส่จุลินทรีย์ 40 ซีซี คนให้เข้ากัน นำน้ำที่ได้ไปราดคลุกเคล้ากับวัสดุที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วทดสอบว่าปุ๋ย หมักใช้ได้หรือยัง ทดสอบโดยใช้มือขยำวัสดุดู หากมีน้ำไหลออกระหว่างนิ้ว แสดงว่าวัสดุแฉะเกินไป ให้เพิ่มวัสดุเข้าไปอีก ถ้าขยำเป็นก้อน แล้วปล่อยมือ ถ้าก้อนไม่แตกออกมาแสดงว่าพอดี ถ้าปล่อยมือแล้วก้อนวัสดุแตกทันที แสดงว่าวัสดุยังแห้งเกินไป ให้ราดน้ำจุลินทรีย์เพิ่มลงไป หมักวัสดุดังกล่าวโดยการกองไว้ในที่ร่ม ใช้กระสอบป่านคลุม ควรกลับกองวันละ 1 ครั้ง กลับกองปุ๋ยเรื่อยไปจนกว่าจะเย็น ซึ่งปุ๋ยหมักจุลินทรีย์โบกาฉิ จะนำมาใช้ได้ก็ราว 7-10 วัน
เทคนิคการใส่ดินในกระสอบ
ก่อน ที่จะใส่ดินในกระสอบนั้น ผู้ปลูกจะต้องรู้ก่อนว่าจะปลูกผักชนิดใด เพื่อใส่ดินให้เหมาะกับชนิดผักนั้นๆ เช่น ถ้าปลูกผักที่มีรากยาว อย่างพริก มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะเขือยาว ฯลฯ เราก็ต้องพับหรือม้วนปากกระสอบลงมาแล้วใส่ดินปลูกให้สูงสัก 20-25 เซนติเมตร ถ้าปลูกผักที่มีรากสั้น อย่างผักกินใบ พวกคะน้า กวางตุ้ง ฮ่องเต้ ฯลฯ ก็ใส่ดินน้อยลงมา ให้สูงสัก 10-15 เซนติเมตร แต่การวางกระสอบในแนวตั้งจะทำให้ได้พื้นที่ในการปลูกน้อยแนะนำให้ใช้วิธีการ ใส่ดินในกระสอบประมาณครึ่งกระสอบแล้วมัดปากกระสอบด้วยเชือก วางกระสอบให้นอนลง จากนั้นก็เจาะรูที่กระสอบ อุปกรณ์ในการเจาะ หากระป๋องปลากระป๋องมาทาบแล้วใช้มีดคัตเตอร์ตัดเป็นวงกลม เพื่อให้หยอดเมล็ดผักได้ โดยจำนวนรูที่เจาะก็ตามความเหมาะสม ประมาณ 9-12 รู แล้วแต่ขนาดของกระสอบ จากนั้นนำเมล็ดผักมาหยอดปลูกได้เลยทันที รดน้ำเช้า-เย็น เมื่อต้นผักงอกมีใบจริง 2-3 ใบ ก็ให้รดน้ำหมักชีวภาพจากปลา หอยเชอรี่ หรือน้ำหมักจากเศษผัก ผลไม้ หรือซื้อจุลินทรีย์ที่มีขายตามท้องตลาดนำมาผสมน้ำรดผัก ตามสะดวกที่จะหามาได้ ทุกๆ 5-7 วัน หรือจะใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก บ้างตามสะดวก ผักก็จะงามปลอดภัยกับสุขภาพของผู้บริโภค นอกจากจะได้รับประทานผักจากฝีมือตัวเองแล้ว หากปลูกมากก็ยังนำไปจำหน่ายสร้างรายได้เป็นอย่างดีทีเดียว
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย มติชนบท เทคโนโลยีชาวบ้าน