สรรพคุณทางสมุนไพรของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
ใบ นำมาต้มทำเป็นยาบรรเทาอาการท้องเสียและปวดท้อง หรือนำไปตำให้ละเอียดแล้วนำไปพอกแผล ดื่มเป็นชาแก้โรคบำรุงร่างกาย
จำหน่ายต้นชมพูพันทิพย์ กล้าและกิ่งพันธุ์ชมพูพันทิพย์ สอนการเพาะปลูกและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์
ใบ นำมาต้มทำเป็นยาบรรเทาอาการท้องเสียและปวดท้อง หรือนำไปตำให้ละเอียดแล้วนำไปพอกแผล ดื่มเป็นชาแก้โรคบำรุงร่างกาย
ความหมายของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ คือ ความงามเป็นของเทวดา ความรัก ความมีชีวิตชีวา
มีความเชื่อว่าต้นชมพูพันธุ์ทิพย์คือต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และสื่อถึงความปรารถนาดี ระหว่างผู้คนในสังคม และช่วยเชื่อมโยงให้เข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว
- เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก
- ทนทานต่อน้ำท่วม
- เจริญเติบโตเร็ว
- ทนทานต่อโรคและแมลง
- มีดอกสวยงาม
- ให้ร่มเงา
ชมพูพันธุ์ทิพย์ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ต่อมาได้ถูกนำไปปลูกในเขตร้อนทวีปต่างๆ อย่างแพร่หลาย เป็นต้นไม้ประจำชาติเอลซัลวาดอร์ ผู้นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยคือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต นำมาปลูกในประเทศไทย เมื่อปี 2500
นิยมปลูกโดยการเพาะเมล็ด เนื่องจากปลูกง่ายโตเร็ว แถมยังมีรากแก้วที่แข็งแรงไว้ช่วยในการป้องกันการโค่นล้ม โดยการเอาเมล็ดไปแช่ในน้ำ 1-2 วันจะช่วยให้เมล็ดงอกได้เร็วขึ้น แล้วนำเมล็ดโรยในกระถางที่ใส่ทรายหรือขุยมะพร้าวโรยน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลาไม่นานก็จะมีต้นอ่อนงอกออกมา และเมื่อลำต้นสูงได้ประมาณ 1 ฟุต ให้ย้านไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ
ให้เตรียมดิน โดยใช้ดินร่วนปนทราย และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเล็กน้อย จากนั้นให้ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร และใส่ปุ๋ยเคมี 16-16-16 หรือ 15-15-15 และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน แล้วค่อยย้ายต้นกล้าไปลงปลูก ควรให้น้ำสม่ำเสมอ เวลาแดดจัดควรให้น้ำบ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้ดินแห้งและไม่ให้ดอกร่วง ควรให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือปุ๋ยอินทรีย์ ประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อเดือน
หากต้องการปลูกในบริเวณรั้วบ้านควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านอย่างน้อย 4 เมตรขึ้นไป เพื่อป้องกันรากชอนไชและกิ่งก้านหักทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายหรือคนในบ้านเกิดอันตราย เนื่องจากกิ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เปราะหักง่าย นอกจากนี้หากคิดจะปลูกควรหมั่นทำความสะอาดบริเวณบ้านบ่อย ๆ ในช่วงที่ดอกร่วง
โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ปักชำ
ปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินที่ระบายน้ำดี ชอบแดดเต็มวัน ปลูกง่าย ทนทานต่อดินฟ้าอากาศ และโรคแมลง โตเร็ว ควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านเนื่องจากกิ่งเปราะหักง่าย และรากอาจชอนไชทำให้โครงสร้างบ้านเสียหาย หากต้องการปลูกในบริเวณรั้วบ้านควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านอย่างน้อย 4 เมตรขึ้นไป
ใบแก้อาการท้องเสีย หรือนำไปตำพอกแผล
เป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก สื่อถึงความปรารถนาดี
นิยมปลูกให้ร่มเงาและประดับตามอาคารบ้านเรือน สวนสาธารณะและริมถนน เป็นไม้ปลูกเป็นแนวรั้ว เป็นพืชบังลม เป็นพืชให้ร่มเงา และเป็นพืชให้ดอกสวยงามในอนาคตอาจพัฒนาเป็นพืชเพาะเห็ด และสามารถนำลำต้นไปเป็นเชื้อเพลิง และทำกระดาษได้อีกด้วย