อุปกรณ์ไฮโดรโปนิกส์

เป็นการให้สารละะายธาตุอาหารพืชไหลผ่านรากพืชที่ปลูกบนรางตามความลาดชันของรางปลูกอย่างช้าๆ เป็นลักษณะสายน้ำบางๆ เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับรากพืชโดยตรง ระบบน้ำจะหมุนเวียนกลับมาใช้งานได้ต่อเนื่อง พืชที่ปลูกได้ดีและนิยมปลูกในระบบนี้ ได้แก่ ผักกินใบจำพวกผักสลัด มีอายุยาวประมาณ 45-50 วัน วิธีการนี้เป็นที่นิยมในประเทศไทยในขณะนี้

การปลูกผักโดยวิธีนี้เหมือนการปลูกแบบลอยน้ำ ซึ่งสามารถปลูกได้ดีในที่ที่มีแดดจัด โดยวิธีนี้จะมีช่องว่างระหว่างแผ่นปลูกกับสารละลายธาตุอาหารพืชประมาณ 3-5 เซนติเมตร เพื่อให้รากผักบางส่วนถูกอากาศและบางส่วนอยู่ในสารละลายธาตุอาหารพืช ผักที่ปลูกได้ดีและนิยมปลูกในระบบนี้ได้แก่ ผักไทย (ผักกินใบที่มีอายุสั้น ประมาณ 20-30 วัน) เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม เป็นต้น

เป็นระบบการให้สารอาหารแก่รากพืชโดยตรง และมีการเติมอากาศด้วยการใช้ปั๊มลม ช่วยในการให้ออกซิเจน โดยรากพืชจะจุ่มอยู่ในสารอาหารโดยตรงและสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ หรือเรียกอีกอย่างว่า "การปลูกพืชแบบลอยน้ำ" วิธีนี้เป็นที่นิยมเพราะใช้พื้นที่เล็ก ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้เวลาว่างปลูกเป็นงานอดิเรก

5. ประหยัดเวลา แรงงาน แฃะค่าใช้จ่ายในการเตรียมดินและกำจัดวัชพืช

6. ไม่ต้องไถพรวน สามารถลดการทำลายหรือชะล้างหน้าดิน

7. ให้ผลผลิตสม่ำเสมอ และอายุเก็บเกี่ยวเร็วขึ้น เนื่องจากพืชสามารถนำธาตุอาหารไปใช้ได้อย่างสม่ำเสมอ

8. ผลผลิตที่ได้มีความสะอาด สด คุณภาพดี และปลอดสารพิษ

9. สามารถพัฒนาการปลูกไปในเชิงพาณิชย์ได้

1. สามารถปลูกพืชได้ทั้งปี

2. สามารถทำการปลูกผักในบริเวณที่พื้นดินไม่เหมาะสม หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับการปลูก

3. ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกน้อย

4. ดูแลได้ทั่วถึง เนื่องจากเป็นระบบที่ง่ายต่อการควบคุม ช่วยป้องกันโรคและแมลง ไม่ใช้สารเคมีกำจัดแมลง 100% และไม่มีปัญหาในการกำจัดวัชพืชในพื้นที่ปลูก

1. เป็นระบบที่มีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง เนื่องจากอุปกรณ์มีราคาแพง

2. การควบคุมดูแลต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ และประสบการณ์