ลักษณะพฤกษศาสตร์ของบีโกเนีย (3597)
ชื่อวงศ์: Begoniaceae
ชื่อสามัญ: Begonia
ชื่อพื้นเมือง: ส้มกุ้ง , ก้ามกุ้ง, สมมติ
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้อวบน้ำอายุยืน มีเหง้าออยู่ใต้พี้นดิน ลำต้นสูงจากพื้นดิน 15-45 ซม.
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปร่าง ขนาด และสีสันแตกต่างกันในตและพันธุ์ ใบมีลักษณะเบี้ยว คือ แผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน รูปหัวใจ ใบเกิดเวียนรอบลำต้น บางชนิดมีขนเหมือนกำมะหยี่
ดอก ดอกออกเป็นช่อแทงทะลุซอกใบ ช่อดอกตัวผู้แยกจากช่อดอกตัวเมีย แต่อยู่บนต้นเดียวกันดอกตัวมีเมียมีรังไข่ที่โป่งออกเป็นปีกสามแฉกที่โคนดอก ดอกตัวเมียบานทนกว่าดอกตัวผู้ ปกติ บีโกเนียดอกมีหลายสี เช่น ชมพู ส้ม ขาว
บีโกเนียเป็นพืชสกุลใหญ่ จึงแบ่งออกเป็นพวกๆ โดยอาศัยรูปร่างของส่วน สะสมอาหารหรือรากเป็นหลักได้ดังนี้ คือ
1. บีโกเนียชนิดที่มีรากฝอย (Fibrous – rooted begonia) มีใบสีเขียวและสีน้ำตาลเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อ มีทั้งสีขาว สีชมพู สีแดง และสองสี เช่น ขาวขอบแดง
2. บีโกเนียชนิดที่มีเหง้า (Rhizomatous begonia) ส่วนมากเป็นบีโกเนียที่ปลูกประดับใบ ใบมีสีสวยมีหลายแบบ เช่น รูปใบกลม รูปหัวใจ มีกลีบดอกชั้นเดียว
3. บีโกเนียชนิดที่มีหัว (Tuberous begonia) ดอกมีขนาดใหญ่ มีทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี
การปลูก: ปลูกเป็นพืชคลุมดิน เป็นไม้กระถาง หรือ ไม้ในภาชนะแขวนก็ได้
การดูแลรักษา: ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย บริเวณที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำปานกลาง อย่าให้แฉะ และควรรดปุ๋ยทางใบ ทุกๆ 2 สัปดาห์ ไม่ชอบอากาศหนาวเย็น
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำยอดและใบ
การใช้ประโยชน์:
- ไม้ประดับ
- ชนิดที่พบตามป่าเขา มีรสเปรี้ยว สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ถิ่นกำเนิด: เอเชีย และ อเมริกา
แหล่งที่พบ: ตามป่าดิบชี้นทั่วทุกภาค
ส่วนที่ใช้บริโภค: ก้านต้น
การปรุงอาหาร: ก้านต้นมาทำต้มยำ แทนมะนาว ให้รสชาติเปรี้ยวดีแท้ แต่ถ้าเป็นคนธาตุอ่อน ท่านให้พึงระวัง เพราะอาจท้องเสียได้ ส่วนบีโกเนียที่ไม่ควรกิน จะเป็นกลุ่มใบกำมะหยี่