ลักษณะของพญาไร้ใบ (3494)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Chiloschista viriflava Seldenf.
ตระกูล: ORCHIDACEAE
ลักษณะทั่วไป:
ต้น
ใบ เรียวแหลม ยาวประมาณ 2 มม
ดอก เป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว ประมาณ 1-20 ซม. แต่ละช่อมีประมาณ 10-20 ดอก กลีบดอกสี เขียวอมเหลือง ทั้งดอก มีขนและบางต้นมีจุดสีส้ม ยังมีอีก 2 ชนิด คือ
1. Chiloschista lunifera (Rchb.f.) J.J. Sm. ช่อดอกโปร่ง ยาว 15-20 ซ.ม. ขนาดดอก 1.2 ซ.ม. กลีบดอกสีเหลืองแต้มน้ำแดง 2 จุด
2. Chiloschista parishii Seidenf. ดอก เป็นช่อโปร่งยาว 15-20 ซ.ม. ขนาด 1-1.5 ซ.ม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีเขียวอมเหลือง มีจุดขนาดเล็กสีน้ำตาลจางกระจาย กลีบปากสีขาวแต้มสีน้ำตาลแดงที่ด้านใน ผิวกลีบดอดค้านนอกมีขนสั้นนุ่มกระจาย ขอบกลีบเรียบ ดอกบานทน
ราก เป็นแบบรากอากาศ (epiphytic)
ฤดูกาลออกดอก: เมษายน – มิถุนายน
การใช้ประโยชน์: ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด: ไทย เนปาล ภูฐาน สิขิม จีน อินเดีย และเมียนม่าร์
แหล่งที่พบ: พบตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ
ตระกูล: ORCHIDACEAE
ลักษณะทั่วไป:
ต้น
ใบ เรียวแหลม ยาวประมาณ 2 มม
ดอก เป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว ประมาณ 1-20 ซม. แต่ละช่อมีประมาณ 10-20 ดอก กลีบดอกสี เขียวอมเหลือง ทั้งดอก มีขนและบางต้นมีจุดสีส้ม ยังมีอีก 2 ชนิด คือ
1. Chiloschista lunifera (Rchb.f.) J.J. Sm. ช่อดอกโปร่ง ยาว 15-20 ซ.ม. ขนาดดอก 1.2 ซ.ม. กลีบดอกสีเหลืองแต้มน้ำแดง 2 จุด
2. Chiloschista parishii Seidenf. ดอก เป็นช่อโปร่งยาว 15-20 ซ.ม. ขนาด 1-1.5 ซ.ม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีเขียวอมเหลือง มีจุดขนาดเล็กสีน้ำตาลจางกระจาย กลีบปากสีขาวแต้มสีน้ำตาลแดงที่ด้านใน ผิวกลีบดอดค้านนอกมีขนสั้นนุ่มกระจาย ขอบกลีบเรียบ ดอกบานทน
ราก เป็นแบบรากอากาศ (epiphytic)
ฤดูกาลออกดอก: เมษายน – มิถุนายน
การใช้ประโยชน์: ไม้ประดับ
ถิ่นกำเนิด: ไทย เนปาล ภูฐาน สิขิม จีน อินเดีย และเมียนม่าร์
แหล่งที่พบ: พบตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ