ลักษณะผลส้มจี๊ดมี 4 แบบ

มีลักษณะเด่นที่ผลมีรูปร่างกลมและมีขนาดเล็ก มีใบสีเขียว ผลก่อนสุกจะเป็นสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม เปลือกส้มจะมีรสชาติหวาน ส่วนเนื้อผลจะมีรสชาติเปรี้ยวโดด ดังนั้นจึงนิยมนำเนื้อและเปลือกไปแปรรูปเป็นอาหาร เช่น แยม หรือเยลลี่ นอกจากนั้นลักษณะผลที่มีความกลมสวย พร้อมใบที่แตกออกเป็นทรงพุ่ม ทำให้ต้นส้มจี๊ดผลกลม เป็นที่นิยมในการนำไปเป็นไม้ประดับในบ้าน

มีลักษณะเด่นที่รูปทรงของผล โดยจะมีรูปร่างรียาวคล้ายไข่ มีใบสีเขียวเข้ม ส่วนผลสามารถกินได้ทั้งเนื้อและเปลือก โดยเนื้อผลจะมีรสชาติเปรี้ยว ส่วนเปลือกจะมีรสชาติหวาน เมื่อกินพร้อมกันทั้งลูกจะให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทั้งนี้ต้นส้มจี๊ดรูปไข่ที่เติบโตตามธรรมชาติจะมีต้นขนาดเล็ก ทำให้เหมาะกับการปลูกในกระถาง หรือนำมาดัดกิ่งก้านทำเป็นบอนไซมากกว่าปล่อยให้เจริญเติบโตเองตามธรรมชาติ

มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยมีลักษณะลูกกลมรี ขนาดผลกลางถึงใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 - 4 เซนติเมตร สามารถกินได้ทั้งเนื้อผลและเปลือก โดยเนื้อจะมีเม็ดเยอะเมื่อกินเข้าไปจะทำให้มีรสชาติขม ควรนำเม็ดออกก่อนกิน ส่วนเปลือกจะมีรสชาติหวาน นอกจากนี้เปลือกของส้มจี๊ดเหมยฮวายังมีน้ำมันหอมระเหย เมื่อหั่นหรือคลึงบนฝ่ามือจะทำให้ได้กลิ่นหอมสดชื่นคล้ายกับผลมะนาว ส้มจี๊ดเหมยฮวานี้ ยังมีชนิดย่อย ๆ อีก คือ

- ชนิดฮ่องกง (Hong Kong kumquat) ผลมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่ว รสขม และเปรี้ยวจัด มีเนื้อน้อยมาก และมีเมล็ดขนาดใหญ่ มักปลูกเป็นไม้ประดับ แต่นับเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดตามธรรมชาติ พบได้ที่ประเทศจีนตอนใต้

- ชนิดเจียงสุ หรือฟูกูชุ (Jiangsu kumquat หรือ Fukushu kumquat) ผลรูปกลม หรือรูประฆัง เมื่อสุกเต็มที่ จะมีสีเหลืองสดใส แตกต่างจากส้มจี๊ดชนิดอื่น ๆ ตรงที่มีใบกลม และมีความแตกต่างจากส้มจี๊ดผลกลมทั่วไป คือ สามารถเจริญเติบโตได้ในที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น

มีลักษณะเด่นที่เปลือกบางและมีขนาดลูกใหญ่กว่าส้มจี๊ดพันธุ์อื่น ๆ โดยจะมีผลรูปร่างกลมรี ใบรีปลายมนสีเขียว มีเม็ดรูปทรงรีอยู่ตรงกลางผล เปลือกรสชาติหวาน เนื้อผลมีรสชาติเปรี้ยว นิยมปลูกมากในพื้นที่แถบคาบสมุทรมาเลเซีย โดยในภาษามลายูเรียกส้มจี๊ดพันธุ์มาลายันว่า Limau Pagar ซึ่งสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ผสมที่ไม่สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้ ต้องขยายพันธุ์โดยการปลูกเท่านั้น